นีเวีย ตั้งหน้าตั้งตาทำตลาด ปลุกปั้นน้องใหม่ นีเวีย บ๊าย บาย เมนลานิน ตอบรับการโตภาพรวม ล่าสุดทุ่ม 60 ล้านบาทลุยตลาดทุกสื่อ เชื่อสิ้นปีเพิ่มแชร์ได้เป็น 16% เบียดสมูทอีขึ้นที่ 2
นางวงศ์ทิพา วงศ์สมุทร ผู้จัดการอาวุโส บริษัท ไบเออร์สด๊อรฟ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดูแลผิวนีเวีย เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทฯจะรุกทำตลาดโฟมล้างหน้าโปรดักซ์ไลน์ของไวเทนนิ่ง ภายหลังจากที่มี นีเวียวิซาจ ทำตลาดมาและได้ผลตอบรับเป็นอย่างดีต่อกลุ่มลูกค้า เบื้องต้นบริษัทฯได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ นีเวีย บ๊าย บาย เมนลานิน ซึ่งเป็นการคิดค้นและพัฒนาขึ้นจากข้อมูลผู้บริโภคจาก นีเวีย วิซาจ พบว่าลูกค้าที่เป็นผู้หญิงอายุ 18-35 ปี มีปัญหาความกังวลในเรื่องผิว หมองคล้ำ มากขึ้น สินค้าใหม่นี้คาดว่าจะแก้ปัญหานี้ได้
ที่ผ่านมาบริษัทฯได้นำสินค้าออกมาทดลองให้กลุ่มลูกค้าได้รับทราบต่อสินค้าใหม่ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ผลปรากฎออกมาว่ากว่า 93% มีความพึงพอใจต่อสินค้าไลน์ใหม่ ต่อจากนั้นบริษัทฯจึงได้โฆษณาประชาสัมพันธ์แบรนด์อย่างจริงจังเดือนมีนาคมผลปรากฎว่ามีผู้บริโภคซื้อสินผลิตภัณฑ์ใช้ไปแล้วกว่า 700,000 ชิ้น ส่งต่อให้ยอดแชร์ของกลุ่มไวเทนนิ่งเพิ่มขึ้นจาก 8% เป็น 12% ภายในระยะเวลาเพียง 1 เดือนเท่านั้น
ในปี 2549 ตลาดไวเทนนิ่งเพื่อผิวขาวมีมูลค่าอยู่ 2,742 ล้านบาท แบ่งเป็นโฟมล้างหน้า 95% มีอัตราการเติบโตอยู่ประมาณ 10% ต่อปี ที่เหลือเป็นโทนเนอร์ล้างหน้าอีก 5% สำหรับผู้นำในตลาดในกลุ่มนี้เป็นพอนด์สครองส่วนแบ่ง 30-40% อันดับ 2 จะเป็นสมูทอีมีแชร์ 15% และที่ 3 เป็นนีเวียที่มีแชร์ 8% ในขณะเดียวกันการเติบโตของกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อสภาพผิวในตลาดรวมในปีนี้คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตได้ 30% ในขณะเดียวกันอัตราการโตของนีเวียโตมากกว่าตลาดสามารถโตได้ถึง 41%
จากนี้ไปบริษัทฯจะเน้นการจัดวางกลยุทธ์ทางการตลาด การออกสินค้าใหม่ ทำข้อมูลการสื่อสารให้ลูกค้า ทั้งนี้เตรียมปรับปรุงศักยภาพในการทำตลาดมากขึ้นอีกด้วย ล่าสุด ได้จัดงบไว้ 60 ล้านบาท สำหรับการทำตลาดเพื่อทั้งสื่อทางอะโบฟเดอะไลน์ 50 ล้านบาท และบีโลว์เดอะไลน์ 10 ล้านบาท ทั้งนี้บริษัทฯจะจัดแคมเปญ “จับตาย เมนลานิน” โครงการนี้จะเปิดรับสมัครสาว ไม่จำกัดอายุ ร่วมพิสูจน์ประสิทธิภาพสินค้าและเล่นเกมส์ โดยผู้ชนะร่วมชิงเงิน 1,000,000 บาท ในวันเสาร์ที่ 2 มิถุนายน ที่ คาเฟ่ สยามสแควร์
บริษัทฯคาดว่าสิ้นปีนี้ยอดการเติบโตในกลุ่มไวเทนนิ่ง(กลุ่มผลิตภัณฑ์ล้างหน้า)จะมากขึ้นและสามารถขยับส่วนแบ่งขึ้นอีก 15-16% เบียดขึ้นที่ 2 ของตลาดรวม
นางวงศ์ทิพา วงศ์สมุทร ผู้จัดการอาวุโส บริษัท ไบเออร์สด๊อรฟ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดูแลผิวนีเวีย เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทฯจะรุกทำตลาดโฟมล้างหน้าโปรดักซ์ไลน์ของไวเทนนิ่ง ภายหลังจากที่มี นีเวียวิซาจ ทำตลาดมาและได้ผลตอบรับเป็นอย่างดีต่อกลุ่มลูกค้า เบื้องต้นบริษัทฯได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ นีเวีย บ๊าย บาย เมนลานิน ซึ่งเป็นการคิดค้นและพัฒนาขึ้นจากข้อมูลผู้บริโภคจาก นีเวีย วิซาจ พบว่าลูกค้าที่เป็นผู้หญิงอายุ 18-35 ปี มีปัญหาความกังวลในเรื่องผิว หมองคล้ำ มากขึ้น สินค้าใหม่นี้คาดว่าจะแก้ปัญหานี้ได้
ที่ผ่านมาบริษัทฯได้นำสินค้าออกมาทดลองให้กลุ่มลูกค้าได้รับทราบต่อสินค้าใหม่ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ผลปรากฎออกมาว่ากว่า 93% มีความพึงพอใจต่อสินค้าไลน์ใหม่ ต่อจากนั้นบริษัทฯจึงได้โฆษณาประชาสัมพันธ์แบรนด์อย่างจริงจังเดือนมีนาคมผลปรากฎว่ามีผู้บริโภคซื้อสินผลิตภัณฑ์ใช้ไปแล้วกว่า 700,000 ชิ้น ส่งต่อให้ยอดแชร์ของกลุ่มไวเทนนิ่งเพิ่มขึ้นจาก 8% เป็น 12% ภายในระยะเวลาเพียง 1 เดือนเท่านั้น
ในปี 2549 ตลาดไวเทนนิ่งเพื่อผิวขาวมีมูลค่าอยู่ 2,742 ล้านบาท แบ่งเป็นโฟมล้างหน้า 95% มีอัตราการเติบโตอยู่ประมาณ 10% ต่อปี ที่เหลือเป็นโทนเนอร์ล้างหน้าอีก 5% สำหรับผู้นำในตลาดในกลุ่มนี้เป็นพอนด์สครองส่วนแบ่ง 30-40% อันดับ 2 จะเป็นสมูทอีมีแชร์ 15% และที่ 3 เป็นนีเวียที่มีแชร์ 8% ในขณะเดียวกันการเติบโตของกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อสภาพผิวในตลาดรวมในปีนี้คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตได้ 30% ในขณะเดียวกันอัตราการโตของนีเวียโตมากกว่าตลาดสามารถโตได้ถึง 41%
จากนี้ไปบริษัทฯจะเน้นการจัดวางกลยุทธ์ทางการตลาด การออกสินค้าใหม่ ทำข้อมูลการสื่อสารให้ลูกค้า ทั้งนี้เตรียมปรับปรุงศักยภาพในการทำตลาดมากขึ้นอีกด้วย ล่าสุด ได้จัดงบไว้ 60 ล้านบาท สำหรับการทำตลาดเพื่อทั้งสื่อทางอะโบฟเดอะไลน์ 50 ล้านบาท และบีโลว์เดอะไลน์ 10 ล้านบาท ทั้งนี้บริษัทฯจะจัดแคมเปญ “จับตาย เมนลานิน” โครงการนี้จะเปิดรับสมัครสาว ไม่จำกัดอายุ ร่วมพิสูจน์ประสิทธิภาพสินค้าและเล่นเกมส์ โดยผู้ชนะร่วมชิงเงิน 1,000,000 บาท ในวันเสาร์ที่ 2 มิถุนายน ที่ คาเฟ่ สยามสแควร์
บริษัทฯคาดว่าสิ้นปีนี้ยอดการเติบโตในกลุ่มไวเทนนิ่ง(กลุ่มผลิตภัณฑ์ล้างหน้า)จะมากขึ้นและสามารถขยับส่วนแบ่งขึ้นอีก 15-16% เบียดขึ้นที่ 2 ของตลาดรวม