xs
xsm
sm
md
lg

ม.หอการค้าชี้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลยังน้อยไป

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยระบุนักธุรกิจส่วนใหญ่เห็นว่านโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลดำเนินการอยู่ในขณะนี้ยังไม่เพียงพอ และต้องการให้รัฐบาลใช้นโยบายกระตุ้นการบริโภคให้มาก คาดเศรษฐกิจไทยปีนี้น่าจะขยายตัวประมาณร้อยละ 3.5-4

นางยาใจ ชูวิชา ประธานคณะจัดทำการสำรวจความคิดเห็นประเด็นธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย แถลงผลสำรวจเรื่อง “สถานภาพธุรกิจไทยไตรมาสที่ 2 และตลอดปี 2550” ว่า จากการสำรวจผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ของปี 2550 พบว่า ผู้ประกอบการร้อยละ 50.4 มีผลประกอบการไม่เปลี่ยนแปลงจากปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อแยกตามภาคธุรกิจพบว่า ภาคอุตสาหกรรมมีผลประกอบการแย่ลงมากที่สุด รองลงมาคือ ภาคบริการ และเกษตรกรรรม

ทั้งนี้ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ใช้กลยุทธ์ทางด้านราคาสินค้าในการดึงดูดลูกค้า พร้อมกับคาดการณ์ว่า แนวโน้มผลประกอบการจะยังคงชะลอตัวในไตรมาสที่ 3 แต่จะเริ่มฟื้นตัวขั้นในไตรมาสที่ 4 ด้านแรงงานส่วนใหญ่ยังคงไม่มีสัญญาณของการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนนัก ส่วนใหญ่จะไม่ทำการเปลี่ยนแปลงจำนวนแรงงาน ดังนั้น สัญญาในช่วงระยะสั้นอาจจะไม่น่าเป็นห่วงนัก แต่แรงงานที่จบการศึกษาใหม่อาจมีปัญหาบ้าง เพราะผู้ประกอบการยังไม่มีสัญญาณที่บ่งชี้ว่าจะรับพนักงานเพิ่ม

ผู้ประกอบการเห็นว่าปัจจัยทางด้านการเมืองมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจและธุรกิจ รองลงมาได้แก่ราคาน้ำมันที่ยังคงทรงตัวอยู่ในระดับสูง ซึ่งนับเป็นปัญหาที่ผู้ประกอบการเร่งให้รัฐแก้ไขคือ เรื่องของเสถียรภาพทางด้านการเมือง ระดับราคาน้ำมัน และเหตุการณ์ระเบิดที่เกิดขึ้น

จากการสอบถามผู้ประกอบการถึงนโยบายที่ใช้ในปัจจุบันนั้น เพียงพอหรือไม่สำหรับการกระตุ้นเศรษฐกิจพบว่า ผู้ประกอบการร้อยละ 95.4 เห็นว่านโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลดำเนินการอยู่ในขณะนี้ยังไม่เพียงพอ และต้องการให้รัฐบาลใช้นโยบายกระตุ้นการบริโภคให้มากที่สุดคิดเป็นร้อยละ 25.5 รองลงมาคือ กระตุ้นการลงทุนและการลดอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งการกระตุ้นการค้าระหว่างประเทศ ทั้งนี้ ผู้ประกอบการคาดการณ์ส่วนใหญ่มากถึงร้อยละ 53.2 คาดการณ์แนวโน้มการเลือกตั้งว่า จะเกิดในช่วงไตรมาสที่ 4 ปี 2550

สำหรับระดับอัตราดอกเบี้ยและอัตราแลกเปลี่ยน ผู้ประกอบการกว่าร้อยละ 33.7 เห็นว่า ควรมีการปรับลดดอกเบี้ยลงอีกร้อยละ 0.5 ในขณะที่ผู้ประกอบการอีกร้อยละ 32.8 ต้องการให้ปรับลดดอกเบี้ยลงร้อยละ 1 ส่วนอัตราแลกเปลี่ยน ผู้ประกอบการต้องการเห็นว่า ควรจะอยู่ในระดับ 36-37 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ รองลงมาอยู่ที่ 35-36 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ

ส่วนการคาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจปี 2550 ผู้ประกอบการส่วนใหญ่มีทัศนะว่า น่าจะขยายตัวประมาณร้อยละ 3.5-4 มากที่สุด รองลงมาได้แก่ร้อยละ 3.01-3.5 และร้อยละ 4.-4.5 ตามลำดับ
กำลังโหลดความคิดเห็น