xs
xsm
sm
md
lg

อานิสงส์ลงนามหุ้นส่วนเศรษฐกิจดันส่งออกไปญี่ปุ่นโตร้อยละ 13

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออกเรียกประชุมภาคเอกชน ประเมินการขยายตัวภาคการส่งออก หลังคณะรัฐมนตรีไฟเขียวหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น มั่นใจจะโตถึงร้อยละ 13 พร้อมเผย วันที่ 4 เม.ย.นี้ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ จะเชิญชวนนักลงทุนญี่ปุ่นเข้ามาลงทุนในไทย

นายราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก กล่าวภายหลังหารือภาคเอกชน ประกอบด้วย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย ถึงกรณีที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติผ่านร่างลงนามความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจระหว่างญี่ปุ่น-ไทย ( JTEPA) ซึ่งสัปดาห์หน้า พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี และนายเกริกไกร จีระแพทย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จะนำนักธุรกิจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปลงนามข้อตกลงดังกล่าว หลังจากประเทศไทยผ่านร่างดังกล่าว ทำให้ขณะนี้นักลงทุนจากญี่ปุ่นในหลายกลุ่มอุตสาหกรรมทั้งอุตสาหกรรมหนักและเบา รวมถึงอุตสาหกรรมอาหารต่าง ๆ มีความมั่นใจในการดำเนินธุรกิจการค้าการลงทุนของทั้งสองฝ่ายเพิ่มขึ้น

และจากการประมินตัวเลขส่งออกหลังจากลงนามข้อตกลงดังกล่าว คาดว่าจะมีผลในทางปฏิบัติภายในเดือนกรกฎาคมนี้ น่าจะทำให้การส่งออกสินค้าไทยไปตลาดญี่ปุ่นจากปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 16,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มเป็น 17,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีอัตราการเติบโตไม่น้อยกว่าร้อยละ 13 ทันที และเชื่อว่าเมื่อข้อตกลงมีผลบังคับใช้จริง อุตสาหกรรมต่าง ๆ ของไทยจะได้รับอานิสงส์ในการลดภาษีเหลือเพียงร้อยละ 0 ทำให้สินค้าภาคการเกษตรของไทย เช่น ผลไม้ สิ่งทอ อัญมณี เครื่องประดับ สินค้าบริการจะมีอัตราการเติบโตสูงขึ้น

ขณะเดียวกันในการเดินทางของนายกรัฐมนตรี วันที่ 4 เมษายนนี้ พล.อ.สุรยุทธ์ และนายเกริกไกร จะเป็นประธานเปิดการสัมมนาที่ประเทศญี่ปุ่น เพื่อชักชวนให้นักลงทุนญี่ปุ่นสนใจเข้ามาลงทุนในแต่ละอุตสาหกรรมมากขึ้น ขณะเดียวกันภาคเอกชนจะเชิญชวนให้นักลงทุนหันมาใช้ประโยชน์ในข้อตกลงดังกล่าว แม้ว่าระยะสั้นการลงนามข้อตกลงนี้จะไม่มีผลบังคับใช้ทันที แต่นักลงทุนญี่ปุ่นก็เกิดความเชื่อมั่นต่อภาพรวมเศรษฐกิจไทย แม้ว่าประเทศไทยจะมีรัฐบาลรักษาการ เพราะข้อตกลงดังกล่าวจะมองระยะยาว ซึ่งจะมีความสัมพันธ์ทางการค้าการลงทุนเพิ่มขึ้น

“เมื่อ ครม.เห็นชอบข้อตกลงเอฟทีเอญี่ปุ่น-ไทย แล้ว ก็มีนักลงทุนญี่ปุ่นแจ้งมายังภาคเอกชนไทยว่ามีความมั่นใจระยะยาวและพร้อมเข้ามาลงทุน เพราะประเทศไทยเป็นประเทศที่มีความสัมพันธ์เชิงลึกมานาน จึงเชื่อว่าการค้าการลงทุนของไทยและญี่ปุ่นจะมีมากขึ้นในอนาคต” นายราเชนทร์ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น