xs
xsm
sm
md
lg

กสิกรไทยคาดตลาดแป้งเย็น-ชุดว่ายน้ำปีนี้รุ่ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่าตลาดแป้งเย็นและชุดว่ายน้ำปีนี้จะเติบโตสวนกระแสเศรษฐกิจ เนื่องจากรับอานิสงส์อากาศที่ร้อนอบอ้าวและการขยายตัวของธุรกิจท่องเที่ยว โดยคาดว่าตลาดแป้งเย็นจะมีเม็ดเงินหมุนเวียนประมาณ 1,300-1,400 ล้านบาท ขณะที่ตลาดชุดว่ายน้ำจะมีเม็ดเงินหมุนเวียนประมาณ 2,000 ล้านบาท

บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด ประเมินว่า ตลาดแป้งเย็นภายในประเทศปีนี้ น่าจะมีเม็ดเงินหมุนเวียนประมาณ 1,300-1,400 ล้านบาท หรือมีโอกาสเติบโตได้ในระดับกว่าร้อยละ 2 ตามสภาพอากาศที่มีแนวโน้มจะร้อนมากและร้อนนานกว่าทุกปี รวมทั้งความต้องการภายในประเทศที่ขยายตัวในวงกว้างขึ้น แต่การแข่งขันน่าจะมีแนวโน้มความรุนแรงยิ่งขึ้น ทั้งกลยุทธ์ทางการตลาดในเชิงรุก และรับเพื่อขยายและปกป้องส่วนแบ่งการตลาด โดยเฉพาะในส่วนของการพัฒนาสินค้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อประโยชน์ต่อการสร้างความแตกต่างให้กับผลิตภัณฑ์ และยังช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผู้ผลิตในระยะยาว อีกทั้งยังเป็นแนวทางที่จะช่วยให้ผู้ผลิตสามารถขยายฐานลูกค้าไปสู่กลุ่มใหม่ได้เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ผู้ประกอบการควรแสดงให้ผู้บริโภคเห็นถึงความจริงใจด้วยการนำเสนอคุณสมบัติที่ดีของผลิตภัณฑ์อย่างแท้จริง ไม่ใช่เป็นการโฆษณาที่เกินจริง

สำหรับแนวโน้มตลาดชุดว่ายน้ำในประเทศ ปี 2550 จะมีมูลค่าประมาณ 2,000 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 8-10 แม้ว่าในปีนี้ปัจจัยด้านเศรษฐกิจอาจส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคให้ระมัดระวังการใช้จ่าย แต่การขยายตัวของธุรกิจท่องเที่ยวทั้งจากนักท่องเที่ยวในประเทศ และกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติที่คาดว่าจะขยายตัวขึ้นประมาณร้อยละ 6 คิดเป็นจำนวนนักท่องเที่ยวถึง 14 ล้านคน ประกอบกับการปรับขึ้นราคาจำหน่ายของสินค้าถึงร้อยละ 15-20 ตามต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้น น่าจะส่งผลให้มูลค่าตลาดขยายตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

ด้านตลาดส่งออกชุดว่ายน้ำที่สำคัญอยู่ในตลาดสหรัฐ มีสัดส่วนประมาณร้อยละ 25.75 ของมูลค่าส่งออกทั้งหมด และกลุ่มประเทศยุโรป โดยเฉพาะฝรั่งเศส อังกฤษ และเยอรมนี มีสัดส่วนการส่งออกร้อยละ 18.16, 17.14 และ 14.85 ตามลำดับ ซึ่งการแข่งขันของตลาดชุดว่ายน้ำในตลาดโลกมีแนวโน้มรุนแรงขึ้น เมื่อจีนก้าวขึ้นมาเป็นผู้ผลิตสิ่งทอรายใหญ่ของโลก สามารถผลิตสินค้าราคาถูกส่งออกไปจำหน่ายได้เพิ่มขึ้น ภายหลังการเข้าเป็นสมาชิกองค์การการค้าโลก (ดับเบิลยูทีโอ) อย่างเป็นทางการ ปัจจัยเกื้อหนุนในการเป็นแหล่งผลิตต้นทุนต่ำ ทำให้จีนสามารถเพิ่มส่วนแบ่งตลาดได้มากขึ้นเรื่อย ๆ และนอกจากจีนแล้ว ยังมีผู้ผลิตสิ่งทออีกหลายประเทศ เช่น กัมพูชา เวียดนาม รวมทั้งประเทศในแถบละตินอเมริกา ที่เข้ามามีบทบาทเพิ่มขึ้นเช่นกัน ส่งผลกระทบต่อการส่งออกชุดว่ายน้ำของไทยให้มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง หากพิจารณาจากมูลค่าการส่งชุดว่ายน้ำออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศ ในปี 2544 มีมูลค่าสูงถึง 1,800 ล้านบาท และปรับตัวลงเหลือ 1,154 ล้านบาท ในปี 2549
กำลังโหลดความคิดเห็น