คณะรัฐมนตรีอนุมัติยุบสำนักงานผู้แทนการค้าไทย หลัง รมว.พาณิชย์ คัดค้านการให้โอนไปสังกัดกระทรวงพาณิชย์ โดยระบุเป็นหน่วยงานที่ตั้งขึ้นมาเพื่อเหตุผลทางการเมือง และงานซ้ำซ้อนกับกระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงการต่างประเทศ ขณะที่นายกรัฐมนตรีสั่งหน่วยราชการทำงานซ้ำซ้อน ทำข้อตกลงแบ่งงานกันให้ชัดเจน
นางเนตรปรียา ชุมไชโย ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ (13 มี.ค.) ว่า คณะรัฐมนตรีเห็นชอบยุบสำนักงานผู้แทนการค้าไทย หลังจากที่นายเกริกไกร จีระแพทย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งเคยเป็นผู้แทนการค้าไทย คัดค้านข้อเสนอของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) ที่ให้โอนสำนักงานผู้แทนการค้าไทยไปอยู่กับกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ และเสนอให้ยุบสำนักงานดังกล่าวแทน โดยให้เหตุผลว่า การที่รัฐบาลชุดที่แล้วตั้งคณะผู้แทนการค้าไทยขึ้นมา เพราะรัฐบาลประสบปัญหาการเจาะตลาด เพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า จึงได้แต่งตั้งบุคคลที่มีความรู้ความสามารถขึ้นมา เพื่อออกไปช่วยเจรจาเจาะตลาดในต่างประเทศ และยังมีเหตุผลทางการเมืองด้วย เพราะจะได้แต่งตั้งตำแหน่งต่างๆ ให้กับนักการเมือง
นางเนตรปรียา กล่าวว่า นายเกริกไกร ยังชี้แจงว่า ลักษณะงานที่ผู้แทนการค้าไทยมีความซ้ำซ้อน เพราะงานที่ทำส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องการเจาะตลาด และเป็นการเจรจาต่างๆ ซึ่งทั้งกระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงการต่างประเทศ รับผิดชอบอยู่แล้ว คณะรัฐมนตรีจึงให้ความเห็นชอบตามข้อเสนอของนายเกริกไกร
นอกจากนี้ คณะรัฐมนตรียังได้หารือถึงปัญหาการทำงานซ้ำซ้อนของหน่วยงานต่างๆ เช่น ด้านการตลาด ก็มีทั้งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์เข้าไปดูแล หรือเรื่องมาตรฐานด้านสินค้าเกษตรและอาหาร ทั้งกระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงเกษตรฯ ก็ทำงานในลักษณะใกล้เคียงกัน รวมทั้งเรื่องทรัพยากรน้ำ คณะรัฐมนตรีจึงมีมติให้หน่วยงานต่างๆ ที่มีลักษณะการทำงานคล้ายคลึง หรือซ้ำซ้อนกัน ได้หารือและทำข้อตกลงร่วมกันที่จะแบ่งงานกันให้ชัดเจนว่าเรื่องใดใครจะเป็นคนทำ โดย นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ให้ข้อสังเกตว่า การทำข้อตกลงถือเป็นการแก้ปัญหาระยะสั้น เพื่อไม่ให้งานซ้ำซ้อน แต่ในอนาคตควรจะมีการปรับโครงสร้างราชการให้ชัดเจน ว่า หน่วยงานใดควรจะทำเรื่องอะไร
นางเนตรปรียา ชุมไชโย ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ (13 มี.ค.) ว่า คณะรัฐมนตรีเห็นชอบยุบสำนักงานผู้แทนการค้าไทย หลังจากที่นายเกริกไกร จีระแพทย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งเคยเป็นผู้แทนการค้าไทย คัดค้านข้อเสนอของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) ที่ให้โอนสำนักงานผู้แทนการค้าไทยไปอยู่กับกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ และเสนอให้ยุบสำนักงานดังกล่าวแทน โดยให้เหตุผลว่า การที่รัฐบาลชุดที่แล้วตั้งคณะผู้แทนการค้าไทยขึ้นมา เพราะรัฐบาลประสบปัญหาการเจาะตลาด เพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า จึงได้แต่งตั้งบุคคลที่มีความรู้ความสามารถขึ้นมา เพื่อออกไปช่วยเจรจาเจาะตลาดในต่างประเทศ และยังมีเหตุผลทางการเมืองด้วย เพราะจะได้แต่งตั้งตำแหน่งต่างๆ ให้กับนักการเมือง
นางเนตรปรียา กล่าวว่า นายเกริกไกร ยังชี้แจงว่า ลักษณะงานที่ผู้แทนการค้าไทยมีความซ้ำซ้อน เพราะงานที่ทำส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องการเจาะตลาด และเป็นการเจรจาต่างๆ ซึ่งทั้งกระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงการต่างประเทศ รับผิดชอบอยู่แล้ว คณะรัฐมนตรีจึงให้ความเห็นชอบตามข้อเสนอของนายเกริกไกร
นอกจากนี้ คณะรัฐมนตรียังได้หารือถึงปัญหาการทำงานซ้ำซ้อนของหน่วยงานต่างๆ เช่น ด้านการตลาด ก็มีทั้งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์เข้าไปดูแล หรือเรื่องมาตรฐานด้านสินค้าเกษตรและอาหาร ทั้งกระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงเกษตรฯ ก็ทำงานในลักษณะใกล้เคียงกัน รวมทั้งเรื่องทรัพยากรน้ำ คณะรัฐมนตรีจึงมีมติให้หน่วยงานต่างๆ ที่มีลักษณะการทำงานคล้ายคลึง หรือซ้ำซ้อนกัน ได้หารือและทำข้อตกลงร่วมกันที่จะแบ่งงานกันให้ชัดเจนว่าเรื่องใดใครจะเป็นคนทำ โดย นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ให้ข้อสังเกตว่า การทำข้อตกลงถือเป็นการแก้ปัญหาระยะสั้น เพื่อไม่ให้งานซ้ำซ้อน แต่ในอนาคตควรจะมีการปรับโครงสร้างราชการให้ชัดเจน ว่า หน่วยงานใดควรจะทำเรื่องอะไร