xs
xsm
sm
md
lg

คาดค่าเอฟทีงวดใหม่เพิ่มขึ้นน้อย เหตุรับอานิสงส์ค่าบาทแข็งค่าขึ้น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กฟผ.คาดค่าไฟฟ้าเอฟทีงวดใหม่ไม่เพิ่มขึ้นถึง 11 สตางค์/หน่วย ตามที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากรับอานิสงส์ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น เตือนประชาชนอาจจ่ายค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้นในช่วงหน้าร้อน หากเปิดแอร์มาก พร้อมเชิญชวนเข้าโครงการล้างแอร์เพื่อช่วยลดค่าไฟ

นายอภิชาต ดิลกโศภณ รองผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า ค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ (เอฟที) งวดใหม่ (มิ.ย.-ก.ย.) คงจะไม่เพิ่มขึ้นถึง 11 สตางค์/หน่วย ตามที่คาดการณ์ไว้เดิม เนื่องจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ทำให้ต้นทุนราคาก๊าซธรรมชาติที่ผันแปรตามราคาน้ำมันเตา มีราคาถูกลงกว่าคาดการณ์เดิม แต่จะถึงขั้นค่าเอฟทีจะลดลงหรือไม่นั้นก็คงเป็นเรื่องยาก ซึ่งการประเมินราคาดังกล่าวได้มีการคำนวณเรื่องการผลิตไฟฟ้าพลังน้ำที่เพิ่มขึ้นไว้แล้ว โดยได้นำมาคำนวณกับค่าไฟฟ้าเอฟทีในงวดปัจจุบัน (ก.พ.-พ.ค.) ที่ลดลงไปแล้ว 5 สตางค์/หน่วย แต่หากคณะกรรมการจัดสรรน้ำที่มีกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นประธาน จัดสรรน้ำให้เพิ่มขึ้นอีก ก็อาจจะทำให้ต้นทุนผลิตไฟฟ้าลดลงได้อีก

ด้านนายวัฒนา ทองศิริ ผู้ช่วยผู้ว่าการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ กล่าวว่า จากน้ำฝนที่มีปริมาณสูงในปีที่แล้วทำให้ปริมาณน้ำในอ่างเฉลี่ยปีนี้มีสูงถึงร้อยละ 78 ดังนั้น การใช้น้ำในหน้าแล้งนี้ จึงไม่มีปัญหาน้ำขาดแคลน แต่เป็นห่วงในหน้าแล้งปีหน้า ว่าหากฝนทิ้งช่วงในปีนี้ก็อาจจะเกิดปัญหาน้ำขาดแคลนได้ในปีหน้า จึงต้องขอความร่วมมือประชาชนทุกฝ่ายช่วยกันประหยัดน้ำให้มากที่สุด ทั้งนี้ ในส่วนของ กฟผ.ได้มีการประสานงานส่งรถน้ำเข้าไปช่วยเหลือในพื้นที่ที่ประสบปัญหาแล้ว

ทั้งนี้ ในส่วนของคณะกรรมการจัดสรรน้ำ ที่มีกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นประธาน ได้จัดสรรน้ำปล่อยจากเขื่อนในลุ่มน้ำเจ้าพระยาในช่วงปีนี้หรือตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2549 – เมษายน 2550 มีปริมาณ 8,500 ล้านลูกบาศก์เมตร สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 2,000 ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อช่วยให้ชาวบ้านได้ทำนาปรัง ทดแทนผลผลิตที่เสียหายเมื่อช่วงน้ำท่วมปีที่แล้ว และจากการปล่อยน้ำปริมาณสูง จึงทำให้ค่าเอฟทีงวดนี้ลดลง

สำหรับในหน้าร้อนนี้ นายอภิชาต ระบุว่า ความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุด น่าจะเกิดในช่วงเดือนพฤษภาคม โดยคาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 7 หรืออยู่ที่ระดับ 21,600 เมกะวัตต์ จากที่ปี 2549 พีกอยู่ที่ 21,064 เมกะวัตต์ ซึ่งความต้องการที่เพิ่มขึ้นเกิดจากอากาศร้อนจัด ทำให้มีการใช้เครื่องปรับอากาศสูงขึ้นประกอบกับโรงงานต่างๆ มีการใช้กำลังผลิตสูงขึ้นด้วย อย่างไรก็ตาม ขอเตือนประชาชนยิ่งเปิดแอร์มากค่าไฟฟ้าก็จะจ่ายเพิ่มขึ้นด้วย ดังนั้น อุณหภูมิแอร์ที่เหมาะสมควรเปิดไม่ต่ำกว่า 25 องศาเซลเซียส และควรล้างแอร์เพื่อลดค่าไฟฟ้าด้วย โดยขณะนี้ กฟผ.ได้ร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการเปิดโครงการ ”ล้างแอร์ช่วยชาติ” ซึ่งประชาชนสามารถโทรศัพท์มาสอบถามได้ที่คอลเซ็นเตอร์ 02-436-8222.
กำลังโหลดความคิดเห็น