“สมหมาย ภาษี” เตรียมเสนอปรับเพิ่มเบี้ยประชุมคณะกรรมการในรัฐวิสาหกิจบางแห่ง เพื่อดึงดูดให้มาทำงาน และเข้าร่วมการประชุมมากขึ้น
นายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในงานสัมมนาเลขานุการคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจ ว่า ผู้ที่เป็นเลขาคณะกรรมการขององค์กรรัฐวิสาหกิจต่างๆ ส่วนใหญ่จะเป็นกรรมการผู้จัดการ หรือประธานกรรมการบริหาร หรือให้ผู้บริหารคนอื่นในองค์กรเป็นเลขานุการคณะกรรมการแทน นับว่าตำแหน่งดังกล่าวมีความสำคัญมากในการทำงานระดับองค์กร ซึ่งมิใช่ทำหน้าที่เพียงการนัดประชุม การจัดวาระการประชุม การบันทึกการประชุมของคณะกรรมการ แต่ยังต้องคอยดูกติกา กฎหมายที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะรัฐวิสาหกิจในตลาดหลักทรัพย์
นอกจากนี้ ยังเห็นว่า เบี้ยประชุมของรัฐวิสาหกิจหลายแห่งมีเบี้ยประชุมที่ไม่สูงมากนักประมาณ 20,000-30,000 บาท ในการประชุมแต่ละครั้ง และจะประชุมประมาณ 1-2 ครั้งต่อเดือน เพราะได้เคยหารือกับ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แล้วว่า หากปรับเพิ่มเบี้ยประชุมในบางแห่งให้เป็นที่ดึงดูด จะทำให้คณะกรรมการแต่ละท่านมาเข้าร่วมการประชุมมากขึ้น แต่ยอมรับว่า ยังหามาตรการไม่ได้ในการป้องกันคณะกรรมการแต่ละคนวิพากษ์วิจารณ์หรือการให้คำแนะนำที่อยู่ในกรอบการทำงาน ไม่นอกเรื่องให้เสียเวลา หรือการเตรียมพร้อมเข้ามาปฏิบัติงาน แต่เห็นว่าแต่ละคนเป็นผู้ใหญ่มีความรับผิดชอบอยู่แล้ว แต่คงไม่ต้องกำหนดชัดเจนว่าต้องมาประชุม
นายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในงานสัมมนาเลขานุการคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจ ว่า ผู้ที่เป็นเลขาคณะกรรมการขององค์กรรัฐวิสาหกิจต่างๆ ส่วนใหญ่จะเป็นกรรมการผู้จัดการ หรือประธานกรรมการบริหาร หรือให้ผู้บริหารคนอื่นในองค์กรเป็นเลขานุการคณะกรรมการแทน นับว่าตำแหน่งดังกล่าวมีความสำคัญมากในการทำงานระดับองค์กร ซึ่งมิใช่ทำหน้าที่เพียงการนัดประชุม การจัดวาระการประชุม การบันทึกการประชุมของคณะกรรมการ แต่ยังต้องคอยดูกติกา กฎหมายที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะรัฐวิสาหกิจในตลาดหลักทรัพย์
นอกจากนี้ ยังเห็นว่า เบี้ยประชุมของรัฐวิสาหกิจหลายแห่งมีเบี้ยประชุมที่ไม่สูงมากนักประมาณ 20,000-30,000 บาท ในการประชุมแต่ละครั้ง และจะประชุมประมาณ 1-2 ครั้งต่อเดือน เพราะได้เคยหารือกับ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แล้วว่า หากปรับเพิ่มเบี้ยประชุมในบางแห่งให้เป็นที่ดึงดูด จะทำให้คณะกรรมการแต่ละท่านมาเข้าร่วมการประชุมมากขึ้น แต่ยอมรับว่า ยังหามาตรการไม่ได้ในการป้องกันคณะกรรมการแต่ละคนวิพากษ์วิจารณ์หรือการให้คำแนะนำที่อยู่ในกรอบการทำงาน ไม่นอกเรื่องให้เสียเวลา หรือการเตรียมพร้อมเข้ามาปฏิบัติงาน แต่เห็นว่าแต่ละคนเป็นผู้ใหญ่มีความรับผิดชอบอยู่แล้ว แต่คงไม่ต้องกำหนดชัดเจนว่าต้องมาประชุม