วี จี ไอ โกลบอลมีเดีย เผยแผนธุรกิจ มุ่งเน้นพัฒนาสื่อแบบ มัลติวิชั่น เร่งเดินหน้าต่อเตรียมลงสื่อ แอลซีดี ทีวี บนรถไฟฟ้าบีทีเอสเต็มตัว ทุ่มงบไม่ต่ำกว่า 140 ล้านบาท คุยยอดจองโฆษณาเต็ม 60 นาที พร้อมร่วมทุนต่างชาติบริษัท ซีโน ผุดสื่อใหม่ “มูฟวิ่ง แอด” ลงบิ๊กซี และเทสโก้โลตัส เชื่อปีนี้รายได้ขยับขึ้นอีก 20% จาก 600-700 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา
นายมารุต อรรถไกวัลวที ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและการขาย บริษัท วี จี ไอ โกลบอล มีเดีย จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจด้านสื่อโฆษณาให้กับบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ รถไฟฟ้าบีทีเอส และ ศูนย์การค้าบิ๊กซี และเทสโก้โลตัส เปิดเผยว่า ในปีนี้ทางบริษัทฯมีแผนดำเนินธุรกิจที่จะมุ่งเน้นพัฒนาสร้างสรรค์สื่อในรูปแบบมัลติวิชั่นใหม่ๆมากยิ่งขึ้น เนื่องจากพบว่าตลาดดังกล่าวมีแนวโน้มที่มาแรงและได้รับความนิยมมากขึ้น
ส่วนพื้นที่บนสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสนั้นที่บริษัทฯได้รับสัมปทามาจากบีทีเอส ยังสามารถที่จะพัฒนาและสร้างพื้นที่สำหรับขายโฆษณาได้อีกมาก แต่ทั้งนี้มองว่าปีนี้คงไม่เพิ่มขายพื้นที่อีก รวมไปถึงราคาขายโฆษณายังคงอัตราเดิมในปีนี้ยังไม่มีการรปรับเพิ่ม ส่วนในปีหน้าหากสภาพเศรษฐกิจยังไม่แน่นอนแบบนี้ คาดว่าอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงราคาขายโฆษณาบ้างบางส่วน
ล่าสุดบริษัทฯได้เปิดตัวสื่อโฆษณาใหม่ โดยได้พัฒนาสื่อในรูปแบบ แอลซีดี ทีวี มากว่า 4 ปี ที่จะนำมาติดตั้งภายในรถไฟฟ้าบีทีเอส โดยใช้งบประมาณไม่ต่ำกว่า 140 ล้านบาท ติดตั้งไปแล้วกว่า 90% คาดว่าในปีนี้จะสามารถติดตั้งครบ 100% กับจำนวนรถไฟฟ้าบีทีเอสทั้งหมด 35 ขบวน โดยในขณะนี้ได้ทำการเทสต์ รัน มากว่า 6-7 เดือนแล้ว ตั้งแต่ปี 2549 ที่ผ่านมา ประมาณ 15-18 ขบวน เพื่อเป็นการทดลองและศึกษาดูถึงระบบการทำงาน และการตอบรับว่าเป็นอย่างไรบ้างเพื่อนำมาปรับให้ดีขึ้น
ทั้งนี้ อุปสรรคของการติดตั้งสื่อ แอลซีดี ทีวี คือ เรื่องของเทคนิค และการรันภาพ เนื่องจากขณะที่รถไฟฟ้าบีทีเอสกำลังเคลื่อนที่อยู่ ภาพที่ปรากฏอยู่ ยังคงขัดข้องและสัญญาณภาพยังหายไปบ้าง ดังนั้นขณะนี้จึงยังอยู่ในช่วงของการเทสต์ รัน ทั้งในเรื่องของระบบการส่งสัญญาณ และตัวแอลซีดีทีวีเอง โดยได้แบ่งเป็นจำนวนแอลซีดีทีวี 50% เข้ามาติดตั้งในรถไฟฟ้าบีทีเอสก่อน หากไม่มีปัญหาในการฉายภาพ ก็จะนำเอาอีก 50% ที่เหลือมาติดตั้งเทสต์รันต่อไป เมื่อไม่มีปัญหาใด จึงจะนำแอลซีดีทีวี ทั้งหมดมาติดตั้งในรถไฟฟ้าบีทีเอสต่อไป คาดว่าช่วงกลางปีจะสามารถใช้ได้จริงทั้งหมด
“สื่อแอลซีดี ทีวี ที่จะนำมาติดตั้งภายในรถไฟฟ้าบีทีเอสนั้น หลังจากที่เริ่มเทสต์รัน มาระยะหนึ่ง พบว่าผู้ใช้บริการจะให้ความสนใจสื่อแอลซีดีทีวีอยู่ที่ประมาณ 20 นาที ดังนั้นจึงมองว่าการผลิตคอนเท้นต์ และอัตราการขายโฆษณาจะแตกต่างออกไปจากการขายโฆษณาในสื่อรูปแบบอื่นๆ แต่เชื่อมั่นว่าลูกค้าจะให้ความสนใจสื่อดังกล่าวเป็นอย่างมาก เห็นได้จากขณะนี้มียอดจองโฆษณาเข้ามาจนเต็ม 60 นาที ตามที่ได้วางโปรแกรมการขายโฆษณาไว้ อย่างไรก็ตาม แผนธุรกิจ ได้วางคอนเซ็ปต์คอนเท้นต์ในสื่อ แอลซีดี ทีวีดังกล่าว ไว้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น คอนเท้นต์เพลง โฆษณาสินค้า และสาระความรู้ และจะเริ่มขายเวลาโฆษณาตั้งแต่เดือนมีนาคมนี้ เป็นต้นไป”
นอกจากนี้ทางบริษัทฯยังได้ร่วมทุนกับ บริษัท ซีโน จำกัด เป็นบริษัท ที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับสื่อโฆษณาของต่างประเทศ ในการร่วมผลิตสื่อป้ายโฆษณาใหม่ เรียกว่า “มูฟวิ่ง แอด” เป็นป้ายหลอดไฟโฆษณาขนาด 60 x 48 เมตร เช่นป้ายทั่วไป แต่มีความพิเศษ เวลาเดินผ่านจะรู้สึกว่าภาพโฆษณาสามารถเคลื่อนไหวได้ โดยในขณะนี้มีการเทสต์ รัน ที่เทสโก้ โลตัส สาขา อ่อนนุช เช่นเดียวกัน คาดว่าตั้งแต่กลางปีเป็นต้นไปจะเริ่มติดตั้งให้ครบตามแผนที่วางไว้คือ เทสโก้โลตัส 10 สาขา และ บิ๊กซี 10 สาขา
สำหรับการร่วมทุนครั้งนี้ ทาง ซีโน จะเป็นผู้ลงทุนด้านการผลิตป้าย มูฟวิ่งแอดทั้งหมด ส่วนทางบริษัทฯเอง จะรับผิดชอบทางด้านการขายโฆษณาทั้งหมด
จากแผนธุรกิจที่กล่าวมา คาดว่าในปีนี้จะมีรายได้เติบโตขึ้นอีกอย่างน้อย 20% จาก 600-700 ล้านบาท ในปีที่ผ่านมา แบ่งเป็น สื่อ บีทีเอส 70-80% และสื่อโมเดิร์นเทรด จากบิ๊กซี และเทสโก้ โลตัสอีก 20%
อย่างไรก็ตามนายมารุตได้กล่าวถึงทิศทางธุรกิจสื่อโฆษณานอกบ้าน หรือ โอเอชเอ็มด้วยว่า ธุรกิจสื่อนอกบ้านจะมีอัตราการเติบโตอย่างน้อยประมาณ 10% จาก 8,383 ล้านบาท ขณะที่สื่อประเภทเอาท์ดอร์ที่อยู่ได้ จะเป็นเอาท์ดอร์ที่มีโลเกชั่นที่ดีเป็นหลัก
นายมารุต อรรถไกวัลวที ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและการขาย บริษัท วี จี ไอ โกลบอล มีเดีย จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจด้านสื่อโฆษณาให้กับบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ รถไฟฟ้าบีทีเอส และ ศูนย์การค้าบิ๊กซี และเทสโก้โลตัส เปิดเผยว่า ในปีนี้ทางบริษัทฯมีแผนดำเนินธุรกิจที่จะมุ่งเน้นพัฒนาสร้างสรรค์สื่อในรูปแบบมัลติวิชั่นใหม่ๆมากยิ่งขึ้น เนื่องจากพบว่าตลาดดังกล่าวมีแนวโน้มที่มาแรงและได้รับความนิยมมากขึ้น
ส่วนพื้นที่บนสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสนั้นที่บริษัทฯได้รับสัมปทามาจากบีทีเอส ยังสามารถที่จะพัฒนาและสร้างพื้นที่สำหรับขายโฆษณาได้อีกมาก แต่ทั้งนี้มองว่าปีนี้คงไม่เพิ่มขายพื้นที่อีก รวมไปถึงราคาขายโฆษณายังคงอัตราเดิมในปีนี้ยังไม่มีการรปรับเพิ่ม ส่วนในปีหน้าหากสภาพเศรษฐกิจยังไม่แน่นอนแบบนี้ คาดว่าอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงราคาขายโฆษณาบ้างบางส่วน
ล่าสุดบริษัทฯได้เปิดตัวสื่อโฆษณาใหม่ โดยได้พัฒนาสื่อในรูปแบบ แอลซีดี ทีวี มากว่า 4 ปี ที่จะนำมาติดตั้งภายในรถไฟฟ้าบีทีเอส โดยใช้งบประมาณไม่ต่ำกว่า 140 ล้านบาท ติดตั้งไปแล้วกว่า 90% คาดว่าในปีนี้จะสามารถติดตั้งครบ 100% กับจำนวนรถไฟฟ้าบีทีเอสทั้งหมด 35 ขบวน โดยในขณะนี้ได้ทำการเทสต์ รัน มากว่า 6-7 เดือนแล้ว ตั้งแต่ปี 2549 ที่ผ่านมา ประมาณ 15-18 ขบวน เพื่อเป็นการทดลองและศึกษาดูถึงระบบการทำงาน และการตอบรับว่าเป็นอย่างไรบ้างเพื่อนำมาปรับให้ดีขึ้น
ทั้งนี้ อุปสรรคของการติดตั้งสื่อ แอลซีดี ทีวี คือ เรื่องของเทคนิค และการรันภาพ เนื่องจากขณะที่รถไฟฟ้าบีทีเอสกำลังเคลื่อนที่อยู่ ภาพที่ปรากฏอยู่ ยังคงขัดข้องและสัญญาณภาพยังหายไปบ้าง ดังนั้นขณะนี้จึงยังอยู่ในช่วงของการเทสต์ รัน ทั้งในเรื่องของระบบการส่งสัญญาณ และตัวแอลซีดีทีวีเอง โดยได้แบ่งเป็นจำนวนแอลซีดีทีวี 50% เข้ามาติดตั้งในรถไฟฟ้าบีทีเอสก่อน หากไม่มีปัญหาในการฉายภาพ ก็จะนำเอาอีก 50% ที่เหลือมาติดตั้งเทสต์รันต่อไป เมื่อไม่มีปัญหาใด จึงจะนำแอลซีดีทีวี ทั้งหมดมาติดตั้งในรถไฟฟ้าบีทีเอสต่อไป คาดว่าช่วงกลางปีจะสามารถใช้ได้จริงทั้งหมด
“สื่อแอลซีดี ทีวี ที่จะนำมาติดตั้งภายในรถไฟฟ้าบีทีเอสนั้น หลังจากที่เริ่มเทสต์รัน มาระยะหนึ่ง พบว่าผู้ใช้บริการจะให้ความสนใจสื่อแอลซีดีทีวีอยู่ที่ประมาณ 20 นาที ดังนั้นจึงมองว่าการผลิตคอนเท้นต์ และอัตราการขายโฆษณาจะแตกต่างออกไปจากการขายโฆษณาในสื่อรูปแบบอื่นๆ แต่เชื่อมั่นว่าลูกค้าจะให้ความสนใจสื่อดังกล่าวเป็นอย่างมาก เห็นได้จากขณะนี้มียอดจองโฆษณาเข้ามาจนเต็ม 60 นาที ตามที่ได้วางโปรแกรมการขายโฆษณาไว้ อย่างไรก็ตาม แผนธุรกิจ ได้วางคอนเซ็ปต์คอนเท้นต์ในสื่อ แอลซีดี ทีวีดังกล่าว ไว้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น คอนเท้นต์เพลง โฆษณาสินค้า และสาระความรู้ และจะเริ่มขายเวลาโฆษณาตั้งแต่เดือนมีนาคมนี้ เป็นต้นไป”
นอกจากนี้ทางบริษัทฯยังได้ร่วมทุนกับ บริษัท ซีโน จำกัด เป็นบริษัท ที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับสื่อโฆษณาของต่างประเทศ ในการร่วมผลิตสื่อป้ายโฆษณาใหม่ เรียกว่า “มูฟวิ่ง แอด” เป็นป้ายหลอดไฟโฆษณาขนาด 60 x 48 เมตร เช่นป้ายทั่วไป แต่มีความพิเศษ เวลาเดินผ่านจะรู้สึกว่าภาพโฆษณาสามารถเคลื่อนไหวได้ โดยในขณะนี้มีการเทสต์ รัน ที่เทสโก้ โลตัส สาขา อ่อนนุช เช่นเดียวกัน คาดว่าตั้งแต่กลางปีเป็นต้นไปจะเริ่มติดตั้งให้ครบตามแผนที่วางไว้คือ เทสโก้โลตัส 10 สาขา และ บิ๊กซี 10 สาขา
สำหรับการร่วมทุนครั้งนี้ ทาง ซีโน จะเป็นผู้ลงทุนด้านการผลิตป้าย มูฟวิ่งแอดทั้งหมด ส่วนทางบริษัทฯเอง จะรับผิดชอบทางด้านการขายโฆษณาทั้งหมด
จากแผนธุรกิจที่กล่าวมา คาดว่าในปีนี้จะมีรายได้เติบโตขึ้นอีกอย่างน้อย 20% จาก 600-700 ล้านบาท ในปีที่ผ่านมา แบ่งเป็น สื่อ บีทีเอส 70-80% และสื่อโมเดิร์นเทรด จากบิ๊กซี และเทสโก้ โลตัสอีก 20%
อย่างไรก็ตามนายมารุตได้กล่าวถึงทิศทางธุรกิจสื่อโฆษณานอกบ้าน หรือ โอเอชเอ็มด้วยว่า ธุรกิจสื่อนอกบ้านจะมีอัตราการเติบโตอย่างน้อยประมาณ 10% จาก 8,383 ล้านบาท ขณะที่สื่อประเภทเอาท์ดอร์ที่อยู่ได้ จะเป็นเอาท์ดอร์ที่มีโลเกชั่นที่ดีเป็นหลัก