หอแว่นควัก 80 ล้าน เดินเครื่องกรุยทางตลาดต่อเปิดสาขาใน-ต่างประเทศ หวังแย่งแชร์ท็อปเจริญ ล่าสุดดึงนาตาลีเป็นแบรนด์แอมบาสซาเดอร์กระตุ้นยอดขายทั้งปี หวังเติบโต 20%
นายภาคี ประจักษ์ธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท หอแว่นกรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯมีแผนการดำเนินงานเพื่อที่จะสร้างยอดรายได้เพิ่มมากขึ้น โดยแผนเบื้องต้นได้เตรียมงบลงทุนในปีนี้รวม 80 ล้านบาท แบ่งเป็นงบ 50 ล้านบาท สำหรับขยายสาขาในประเทศ 10 แห่ง จากปัจจุบันมี 95 แห่ง แบ่งเป็น ร้านหอแว่น 9 แห่ง และเบทเทอร์วิชั่น 1 แห่ง พร้อมทั้งมีแผนเปิดสาขาที่ประเทศมาเลเซียอีก 2 แห่ง จากปัจจุบันมี 12 แห่ง ส่วนประเทศสิงคโปร์ปัจจุบันมี 9 แห่ง และยังไม่มีแผนเปิดสาขาเพิ่ม เนื่องจากเป็นประเทศขนาดเล็กและมีสาขาครอบคลุมพื้นที่แล้ว
ทั้งนี้บริษัทฯได้เตรียมงบประมาณ สำหรับการทำตลาดตลอดทั้งปี ไว้ประมาณ 30 ล้านบาท ซึ่งจะจัดแบ่งออกเป็นงบสำหรับการจัดทำสื่ออะโบฟเดอะไลน์และบีโลว์เดอะไลน์ อีกทั้งบริษัทฯยังแบ่งงบประมาณดังกล่าวแบ่งออกเป็น 15 ล้านบาท เพื่อใช้สำหรับเปิดตัวแทนสินค้า (แบรนด์ แอมบาสซาเดอร์) โดยจะใช้ มิสยูนิเวิร์ส 2005 นาตาลี เกลโบวาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ ซึ่งนับว่าเป็นครั้งแรกของวงการแว่นตาและของบริษัทฯเองที่ใช้กลยุทธ์อย่างนี้ ทั้งนี้การจัดทำอย่างนี้เป้าหมายคือสร้างภาพลักษณ์ของร้านเบทเทอร์ วิชั่น และหอแว่น ให้อยู่ในระดับนานาชาติ รวมถึงเป็นแบรนด์ระดับภูมิภาค โดยบริษัทฯได้ทำสัญญากับนาตาลี 1 ปี
อย่างไรก็ตามบริษัทฯคาดว่าการดึงนาตาลี เกลโบวา จะเป็นตัวช่วยผลักดันให้ยอดของบริษัทฯมีรายได้รวมสิ้นปีนี้เติบโตตามเป้าหมาย 20% หรือมีมูลค่ากว่า 1,080 ล้านบาท แบ่งเป็นยอดขายจากต่างประเทศ 20% และในประเทศ 80% นอกจากนี้ ตั้งเป้าหมายมีส่วนแบ่งการตลาดจาก 18% เป็น 20% ของมูลค่าตลาดรวม 5,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นอันดับ 2 รองจากร้านแว่นท็อปเจริญ ที่มีส่วนแบ่ง 40%
นายภาคี กล่าวต่อว่า การนำกลยุทธ์การตลาดของบริษัทฯจะยังคงเน้นการสร้างแบรนด์อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความแตกต่างระหว่างร้าน “หอแว่น และ Better Vision” ให้อย่างชัดเจนมากขึ้น โดยการวางตำแหน่งตราสินค้าจะเน้นการนำเข้าสินค้าแฟชั่น มากขึ้น
“สำหรับงบการทำตลาดปีนี้ บางส่วนจะชะลอเพื่อรอดูสถานการณ์อีกครั้ง แต่งบที่ใช้เปิดตัวนาตาลี ไม่สามารถชะลอได้ เนื่องจากได้ทำสัญญากันไว้แล้ว โดยคาดว่านาตาลีจะช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าระดับบีและเอเข้ามาซื้อสินค้าภายในร้านมากขึ้น หลังจากเดือนมกราคมที่ผ่านมา มียอดขายลดลง 10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เพราะได้รับผลกระทบจากเหตุระเบิดช่วงปีใหม่ ทำให้ผู้บริโภคชะลอการซื้อ จากปกติที่ต้นปีเป็นหน้าขายแว่นตา ส่วนภาพรวมแว่นตาแฟชั่นในปีนี้ คาดยังเติบโตได้ดี เช่นเดียวกับช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากดารา พิธีกรรายการทีวี รวมถึงกลุ่มลูกค้าในเมืองไทย นิยมใส่แว่นตามากขึ้น”