เดอะมอลล์คุยโว ยอดขายกระเช้าช่วงปีใหม่ปีนี้พุ่งขึ้นถึง 25% ชี้ขนาดราคาที่นิยมของตลาดอยู่ที่ 2,000 กว่าบาท
จากช่วงปีใหม่ที่ผ่านมาการจับจ่ายใช้สอยของบรรดากลุ่มลูกค้าที่ซื้อ “กระเช้าของขวัญ” ยังได้รับความนิยม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มลูกค้าที่อยู่ตามองค์กร ทั้งภาครัฐ และ ภาคเอกชน ที่นิยมเลือกกระเช้าแทนของขวัญ เช่นเดียวกับปีที่ผ่านๆมา แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร ของขวัญที่เป็นกระเช้ายังมียอดขายที่ดี เนื่องจากปีใหม่ยังเป็นเทศกาลเกี่ยวกับการให้และนับได้ว่าเป็นปัจจัยหลักอยู่แล้ว
โดยกลุ่มสินค้าที่นิยมเลือกในปี 2550 จะเป็นเทรนด์ของ “โกเซอรี่” สินค้าที่ใช้เกี่ยวกับชีวิตประจำวัน อาทิ นม น้ำผลไม้ โอวัลติน ชากาแฟ เป็นต้นและสินค้าที่คละเคล้ากันไป ส่งผลให้ เม็ดเงินของตลาดกระเช้าของขวัญในปี 2550 มีสะพัดกว่า 1 พันล้านบาท และมีการเติบโตขึ้นกว่า 10% เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา
ในปีนี้เอง การแข่งขันมีความรุนแรงมากขึ้น ซึ่งผู้ค้าก็จะใช้กลยุทธ์ราคาและโปรโมชันเข้ามาดึงดูดความสนใจโดยพบว่า บรรดาซูเปอร์มาร์เก็ต ห้างสรรพสินค้า ดิสเคานท์สโตร์ ยักษ์ใหญ่ รวมถึงห้างร้านต่างๆมักจะนำออกมาวางจำหน่ายเป็นจำนวนมากเช่นกันในช่วงเวลาดังกล่าวเพื่อต้อนรับเทศกาลปีใหม่ ด้วยรูปแบบบรรจุภัณฑ์ที่สวยงามและหลากหลายในระดับราคาที่มีให้เลือกตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักพัน หลักหมื่นบาท
กลยุทธ์ที่ผู้ประกอบการนำมาใช้หลักๆจะชู 4 จุดแข็งเพื่อเป็นจุดขายให้ลูกค้าตัดสินใจเลือกซื้อคือ 1. ดีไซน์ระดับพรีเมี่ยม เน้นการตกแต่งสวยงาม เฉดสีตรงกับเทรนด์ยอดนิยม 2.วาไรตี้ คือความหลากหลาย คือมีกระเช้าที่บรรจุสินค้าในหลายรูปแบบ ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย 3.คุณภาพ เน้นความสด ใหม่ ของสินค้าทุกรายการ มีวันที่ผลิต และหมดอายุ 4.โซลูชั่น หรือการให้บริการครบวงจร เพื่อเป็นการสอดรับกับความต้องการ
เดอะมอลล์โวยอดพุ่ง
นางลักขณา นะวิโรจน์ กรรมการ บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยถึง ยอดขายกระเช้าในช่วงต้นปี 2550 ทั้งกลุ่มมีการเติบโต 25% คิดเป็นมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท เมื่อเปรียบกับช่วงปีที่ผ่านมาที่มีอยู่ 10 –15% สาเหตุส่วนหนึ่งอันเนื่องมาจากการเพิ่มสาขาที่พารากอน
สำหรับสินค้าที่ได้รับความนิยมนำมาจัดกระเช้าจะเกาะเทรนด์ของสุขภาพ ผสมผสานกับสินค้าหลากหลายทั่วไป แต่ที่เฉลี่ยแล้วนั้นมูลค่าของกระเช้าจะมีราคาขายเริ่มต้นที่ 1,350 – 15,300 บาท โดยสินค้าที่กลุ่มลูกค้านิยมซื้อมากที่สุดจะมีราคาเฉลี่ยอยู่ประมาณ 2,000 บาท
“นอกจากกลยุทธ์ด้านราคาในแบบกระเช้าสุดประหยัดแบบทุกปีแล้ว บริษัทฯยังได้ขยายฐานลูกค้าระดับบนด้วยกระเช้าพรีเมี่ยม เพื่อรองรับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลายมากขึ้นเนื่องจากในปีนี้กลุ่มลูกค้าระดับไฮเอนด์มีเพิ่มมากขึ้น จากการเปิดที่พารากอน ส่งให้ยอดขายทั้งกลุ่มมีอัตราการเติบโตที่เพิ่มมากขึ้นเป็นอย่างมาก ทำให้ยอดขายทั้งกลุ่มมีทิศทางที่ดีอยู่ และเราเชื่อมั่นปีหน้ายอดขายกระเช้าของทั้งกลุ่มจะต้องมีการเติบโตเช่นเดียวกับปีนี้ แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศจะเป็นอย่างไรก็ตาม บริษัทฯยังเชื่อมั่นว่า กระเช้ายังเป็นของขวัญที่แทนความรู้สึกของคนให้อยู่เช่นเดิม เช่นเดียวกับ การปรับเปลี่ยนรวมถึงการปรับสินค้าให้เข้ากับภาวะเพิ่มสีสันจะสอดคล้องกับความต้องการให้กับกลุ่มลูกค้าในทุกๆปีจะสามารถเพิ่มยอดขายกระเช้าได้ทุกปี” นางลักขณากล่าว