รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานระบุจะสามารถออกประกาศเชิญชวนรับซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตไฟฟ้ารายใหญ่ (ไอพีพี) ประมาณปลายไตรมาสแรกของปี 2550 ด้านสหพันธ์องค์กรผู้บริโภคค้านเพราะยังไม่มีความจำเป็นที่ต้องรีบร้อน แต่ควรรอให้แผนพีดีพีออกมาก่อน
นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันท์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวเปิดงานการเปิดการรับฟังความคิดเห็นประชาชนเกี่ยวกับโครงการประกาศเชิญชวนการรับซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ (ไอพีพี) โดยคาดว่าจะสามารถออกประกาศเชิญชวนพร้อมเงื่อนไขต่าง ๆ ได้ประมาณปลายไตรมาสแรกหรือต้นไตรมาส 2 ของปี 2550 โดยเงื่อนไขต่าง ๆ จะเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับการรับฟังความคิดเห็นซึ่งกระทรวงพลังงานก็จะนำมาสรุปเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้ใช้ไฟฟ้าและไม่ให้กระทบต่อราคาค่าไฟฟ้าของประชาชน อีกทั้งยังต้องมีเงื่อนไขเกี่ยวกับการดูแลชุมชน การรักษาสิ่งแวดล้อม การการศึกษา และสุขภาพของชุมชน
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลยังคงให้การส่งเสริมการรับซื้อไฟฟ้าจากรายเล็กมาก (วีเอสพีพี) ที่ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน พลังงานลม และขยะ มีกำลังผลิตตั้งแต่ 1-10 เมกะวัตต์ และส่งเสริมการรับซื้อจากรายเล็ก (เอสพีพี) ที่มีกำลังผลิต 10-90 เมกะวัตต์ รวมถึงการส่งเสริมการผลิตของไอพีพี สำหรับสัดส่วนไฟฟ้าในอนาคตคงจะมาจากรายเล็กมากประมาณร้อยละ 5 เอสพีพี ร้อยละ 5-10 รับซื้อจากต่างประเทศร้อยละ 20 ที่เหลือรับซื้อจากผู้ผลิตรายใหญ่และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)
ด้านนางสายรุ้ง ทองปลอน ผู้จัดการสหพันธ์องค์กรผู้บริโภค กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยที่กระทรวงพลังงานจะออกประกาศเชิญชวนไอพีพีในช่วงนี้ เพราะขณะนี้แผนพัฒนากำลังไฟฟ้าระยะยาวยังไม่ออกมา เพราะเหตุใดจึงเร่งรีบที่จะออกประกาศเชิญชวน แต่เห็นด้วยที่จะรับฟังความเห็นประชาชน แต่ต้องเปิดเผยข้อมูลให้ครบถ้วน เพราะเท่าที่ตรวจสอบเอกสารที่ได้รับถือว่าสอบตกเพราะข้อมูลไม่ชัดเจนหลายประเด็น
นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันท์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวเปิดงานการเปิดการรับฟังความคิดเห็นประชาชนเกี่ยวกับโครงการประกาศเชิญชวนการรับซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ (ไอพีพี) โดยคาดว่าจะสามารถออกประกาศเชิญชวนพร้อมเงื่อนไขต่าง ๆ ได้ประมาณปลายไตรมาสแรกหรือต้นไตรมาส 2 ของปี 2550 โดยเงื่อนไขต่าง ๆ จะเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับการรับฟังความคิดเห็นซึ่งกระทรวงพลังงานก็จะนำมาสรุปเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้ใช้ไฟฟ้าและไม่ให้กระทบต่อราคาค่าไฟฟ้าของประชาชน อีกทั้งยังต้องมีเงื่อนไขเกี่ยวกับการดูแลชุมชน การรักษาสิ่งแวดล้อม การการศึกษา และสุขภาพของชุมชน
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลยังคงให้การส่งเสริมการรับซื้อไฟฟ้าจากรายเล็กมาก (วีเอสพีพี) ที่ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน พลังงานลม และขยะ มีกำลังผลิตตั้งแต่ 1-10 เมกะวัตต์ และส่งเสริมการรับซื้อจากรายเล็ก (เอสพีพี) ที่มีกำลังผลิต 10-90 เมกะวัตต์ รวมถึงการส่งเสริมการผลิตของไอพีพี สำหรับสัดส่วนไฟฟ้าในอนาคตคงจะมาจากรายเล็กมากประมาณร้อยละ 5 เอสพีพี ร้อยละ 5-10 รับซื้อจากต่างประเทศร้อยละ 20 ที่เหลือรับซื้อจากผู้ผลิตรายใหญ่และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)
ด้านนางสายรุ้ง ทองปลอน ผู้จัดการสหพันธ์องค์กรผู้บริโภค กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยที่กระทรวงพลังงานจะออกประกาศเชิญชวนไอพีพีในช่วงนี้ เพราะขณะนี้แผนพัฒนากำลังไฟฟ้าระยะยาวยังไม่ออกมา เพราะเหตุใดจึงเร่งรีบที่จะออกประกาศเชิญชวน แต่เห็นด้วยที่จะรับฟังความเห็นประชาชน แต่ต้องเปิดเผยข้อมูลให้ครบถ้วน เพราะเท่าที่ตรวจสอบเอกสารที่ได้รับถือว่าสอบตกเพราะข้อมูลไม่ชัดเจนหลายประเด็น