ผู้ประกอบการขนส่ง เรียกร้องรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม แก้ปัญหาส่วยทางหลวง หลังผู้ประกอบการต้องเสียเงิน 500-15,000 บาท โดยตำรวจอ้างว่า น้ำหนักรถบรรทุกเกินจากที่กำหนด ทั้งที่เมื่อชั่งออกจากโรงงานน้ำหนักไม่เกินจากที่กำหนด
นายสรรเสริญ วงศ์ชะอุ่ม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังผู้ประกอบการสมาคมขนส่งสินค้าเข้าพบที่กระทรวงคมนาคม ว่า สมาคมได้มาหารือและขอให้ช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องส่วยทางหลวงที่หายไปนาน และเริ่มกลับมาใหม่ในช่วงนี้ หลังจากที่มีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล และเปลี่ยนผู้บังคับการตำรวจทางหลวง ซึ่งหลังจากรับเรื่องไว้ ก็จะดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงไปที่กรมทางหลวงทันที
ขณะที่ นายบุ่นเอี้ยน ศรีแสนสุชาติ นายกสามาคมขนส่งสินค้า กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงบางนาย ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่รอบๆ พื้นที่กรุงเทพมหานคร ได้เริ่มมีการเรียกเก็บเงินในการบรรทุกน้ำหนักเกิน, ปัญหาเรื่อง สติกเกอร์รถบรรทุก และเรียกเก็บเงินจากผู้ประกอบการ เฉลี่ยคันละ 500-15,000 บาท ทั้งๆ ที่ไม่ได้ทำความผิดอะไร
“ตอนนี้เรื่องส่วยมันกลับมาอีกแล้ว โดยสมาคมก็แจ้งมา และมีรถบรรทุกโดนเรียกเก็บแล้ว หากน้ำหนักเกิน 200-300 กิโลกรัม อาจจะถูกเรียกเก็บ 500-1,000 บาท บางครั้งก็เกิน 500-700 กิโลกรัม บางทีก็โดน 1,000-5,000 บาท แต่หากเกินเป็นตันก็เสียเป็น 10,000-15,000 บาท แต่ที่มาพบรัฐมนตรี เพราะบางครั้งน้ำหนักมันเกินไม่จริง และเป็นการกลั่นแกล้ง ช่วงที่รถเข้าชั่งน้ำหนักมาจากโรงงานน้ำหนักมันก็ไม่เกิน แต่พอมาชั่งจากที่กรมทางหลวง น้ำหนักมันกลับเกินมา แต่หน่วยงานรัฐก็บอกว่าตาชั่งเป็นมาตรฐาน ขออย่าให้เอารัดเอาเปรียบประชาชน” นายบุ่นเอี้ยน กล่าว
นายสรรเสริญ กล่าวด้วยว่า สมาคมขนส่งสินค้า ยังได้หารือถึงความชัดเจนในการประกาศกระทรวงคมนาคม ในการน้ำหนักรถบรรทุกจำนวน 26 ตัน ที่กรมทางหลวงได้ประกาศผ่อนผันชั่วคราวให้ผู้ประกอบการขนส่งมาตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2549 และจะครบกำหนดในวันที่ 30 ธันวาคมนี้ ซึ่งเรื่องนี้ตนจะขอหารือในรายละเอียดกับผู้บริหารกรมทางหลวงก่อนว่าจะสรุปว่าให้ผ่อนผันต่อไป หรือจะออกเป็นกฎหมายบังคับ และให้มีการกำหนดน้ำหนักรถบรรทุกเท่าใด เป็นเรื่องที่จะต้องเจรจากัน
ด้าน นายบุ่นเอี้ยน กล่าวว่า ได้ขอให้กระทรวงคมนาคมมีความชัดเจน ถึงนโยบายการผ่อนผันให้มีการบรรทุกน้ำหนัก 26 ตันต่อไปได้หรือไม่ หากได้ก็ให้รีบออกประกาศผ่อนผัน หรือหากไม่ได้ก็ให้มีมาตรการกำหนดชัดเจน และออกเป็นกฎหมายมากำหนดน้ำหนักเท่าใด เพราะการผ่อนผันเมื่อต้นปีที่ผ่านมา กำลังจะสิ้นสุดตามที่กระทรวงคมนาคมประกาศไว้ในวันที่ 30 ธันวาคมนี้
“ตามประกาศเดิมจะหมดกำหนดแล้ว จึงอยากพบเพื่อบอกว่าอย่าให้เกิดช่องว่าง จะผ่อนผันหรือกำหนดน้ำหนัก ก็ขอให้รีบทำ และผู้ประกอบการขนส่งสินค้าก็เพราะจะดำเนินการอยู่แล้ว และการกำหนดน้ำหนักรถบรรทุกจำนวน 26 ตัน ก็ถือว่าเป็นน้ำหนักที่เหมาะสมอยู่แล้ว และรัฐมนตรีคนเดิมคือ นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล ก็เห็นด้วยและอนุมัติแล้ว เพียงแต่ยังไม่ได้ประกาศออกมาเป็นกฎกระทรวงเท่านั้น” นายบุ่นเอี้ยน กล่าว
นายสรรเสริญ วงศ์ชะอุ่ม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังผู้ประกอบการสมาคมขนส่งสินค้าเข้าพบที่กระทรวงคมนาคม ว่า สมาคมได้มาหารือและขอให้ช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องส่วยทางหลวงที่หายไปนาน และเริ่มกลับมาใหม่ในช่วงนี้ หลังจากที่มีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล และเปลี่ยนผู้บังคับการตำรวจทางหลวง ซึ่งหลังจากรับเรื่องไว้ ก็จะดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงไปที่กรมทางหลวงทันที
ขณะที่ นายบุ่นเอี้ยน ศรีแสนสุชาติ นายกสามาคมขนส่งสินค้า กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงบางนาย ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่รอบๆ พื้นที่กรุงเทพมหานคร ได้เริ่มมีการเรียกเก็บเงินในการบรรทุกน้ำหนักเกิน, ปัญหาเรื่อง สติกเกอร์รถบรรทุก และเรียกเก็บเงินจากผู้ประกอบการ เฉลี่ยคันละ 500-15,000 บาท ทั้งๆ ที่ไม่ได้ทำความผิดอะไร
“ตอนนี้เรื่องส่วยมันกลับมาอีกแล้ว โดยสมาคมก็แจ้งมา และมีรถบรรทุกโดนเรียกเก็บแล้ว หากน้ำหนักเกิน 200-300 กิโลกรัม อาจจะถูกเรียกเก็บ 500-1,000 บาท บางครั้งก็เกิน 500-700 กิโลกรัม บางทีก็โดน 1,000-5,000 บาท แต่หากเกินเป็นตันก็เสียเป็น 10,000-15,000 บาท แต่ที่มาพบรัฐมนตรี เพราะบางครั้งน้ำหนักมันเกินไม่จริง และเป็นการกลั่นแกล้ง ช่วงที่รถเข้าชั่งน้ำหนักมาจากโรงงานน้ำหนักมันก็ไม่เกิน แต่พอมาชั่งจากที่กรมทางหลวง น้ำหนักมันกลับเกินมา แต่หน่วยงานรัฐก็บอกว่าตาชั่งเป็นมาตรฐาน ขออย่าให้เอารัดเอาเปรียบประชาชน” นายบุ่นเอี้ยน กล่าว
นายสรรเสริญ กล่าวด้วยว่า สมาคมขนส่งสินค้า ยังได้หารือถึงความชัดเจนในการประกาศกระทรวงคมนาคม ในการน้ำหนักรถบรรทุกจำนวน 26 ตัน ที่กรมทางหลวงได้ประกาศผ่อนผันชั่วคราวให้ผู้ประกอบการขนส่งมาตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2549 และจะครบกำหนดในวันที่ 30 ธันวาคมนี้ ซึ่งเรื่องนี้ตนจะขอหารือในรายละเอียดกับผู้บริหารกรมทางหลวงก่อนว่าจะสรุปว่าให้ผ่อนผันต่อไป หรือจะออกเป็นกฎหมายบังคับ และให้มีการกำหนดน้ำหนักรถบรรทุกเท่าใด เป็นเรื่องที่จะต้องเจรจากัน
ด้าน นายบุ่นเอี้ยน กล่าวว่า ได้ขอให้กระทรวงคมนาคมมีความชัดเจน ถึงนโยบายการผ่อนผันให้มีการบรรทุกน้ำหนัก 26 ตันต่อไปได้หรือไม่ หากได้ก็ให้รีบออกประกาศผ่อนผัน หรือหากไม่ได้ก็ให้มีมาตรการกำหนดชัดเจน และออกเป็นกฎหมายมากำหนดน้ำหนักเท่าใด เพราะการผ่อนผันเมื่อต้นปีที่ผ่านมา กำลังจะสิ้นสุดตามที่กระทรวงคมนาคมประกาศไว้ในวันที่ 30 ธันวาคมนี้
“ตามประกาศเดิมจะหมดกำหนดแล้ว จึงอยากพบเพื่อบอกว่าอย่าให้เกิดช่องว่าง จะผ่อนผันหรือกำหนดน้ำหนัก ก็ขอให้รีบทำ และผู้ประกอบการขนส่งสินค้าก็เพราะจะดำเนินการอยู่แล้ว และการกำหนดน้ำหนักรถบรรทุกจำนวน 26 ตัน ก็ถือว่าเป็นน้ำหนักที่เหมาะสมอยู่แล้ว และรัฐมนตรีคนเดิมคือ นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล ก็เห็นด้วยและอนุมัติแล้ว เพียงแต่ยังไม่ได้ประกาศออกมาเป็นกฎกระทรวงเท่านั้น” นายบุ่นเอี้ยน กล่าว