วรวุฒิโบ้ยดึง“วีเจ”ร่วม ช้างปัดซื้อสิทธิ์บอลโลก

“สุรชัย-วรวุฒิ” ปฎิเสธเสียงแข็ง ไม่ได้ดึง “วีเจ” และ “สันติภาพ” ร่วมทีมบริหาร ในบริษัทใหม่ อาร์เอสบีเอส ด้านตัวแทนทศภาคเผยไม่มีนโยบายเข้าไปแข่งขันยื่นซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลก 2 สมัยหน้า เพราะที่ผ่านมานายวรวุฒิเป็นผู้ติดต่อ งานนี้อาร์เอสหยิบชิ้นปลามัน เตรียมแผนตลาดรองนับเต็มรูปแบบ คาดบอลโลก 2 สมัยสร้างรายได้ให้ 2 พันล้านบาท

บริษัท อาร์เอส อินเตอร์เนชั่นแนล บรอดคาสติ้ง แอนด์ สปอร์ต แมเนจเม้นท์ จำกัด (RSbs) ผู้ดำเนินงานบริหารจัดการธุรกิจทางด้านกีฬาแบบครบวงจร ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) ถือหุ้น 50% กับ บริษัท บรอดคาสติ้ง แอนด์ สปอร์ต แมแนจเมนต์ จำกัด ของนายวรวุฒิ ถือหุ้น 50% จากทุนจดทะเบียน 50 ล้านบาท ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวานนี้

อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่า บริษัทฯดังกล่าวนอกจากมีนายวรวุฒิ โรจนพานิช เป็นผู้บริหารแล้ว ซึ่งเดิมทีเป็นกรรมการผู้จัดการ บริษัท ทศภาค จำกัด ในเครือเบียร์ช้างของนายเจริญ สิริวัฒนภักดี และได้ลาออกมาเมื่อ 2-3 เดือนที่ผ่านมา ยังมีบรรดาบิ๊กๆที่อยู่ในแวดวงกีฬาเมืองไทยจะเข้ามาร่วมงานและบริหารด้วย ไม่ว่าจะเป็นนายวิจิตร เกตุแก้ว นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย นายสันติภาพ เตชะวณิช อดีตผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ผู้ใหญ่อีกคนของวงการกีฬาบ้านเรา ถึงขนาดที่ทางอาร์เอสบีเอสได้จัดเตรียมสถานที่ห้องหับไว้เรียบร้อยแล้ว

ปฎิเสธดึงวิจิตร-สันติภาพร่วมทีม
นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) กล่าวปฎิเสธข่าวดังกล่าวว่า ไม่เป็นความจริง แต่ยอมรับว่าที่ผ่านมาได้มีการปรึกษาหารือบ้าง เพราะทั้ง 2 คนถือเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ในวงการกีฬา และเมื่อจะเข้าไปทำธุรกิจทางด้านกีฬาจึงต้องขอคำแนะนำบ้าง

ขณะที่นายวรวุฒิ โรจนพานิช ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อาร์เอส อินเตอร์เนชั่นแนล บรอดคาสติ้ง แอนด์ สปอร์ต แมเนจเม้นท์ จำกัด (RSbs) ได้ปฏิเสธเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่ได้มีการติดต่อนายวิจิตรให้เข้ามาเป็นที่ปรึกษาแต่อย่างใด แต่เป็นคนที่อยู่ในวงการเดียวกันรู้จักกันมานานอยู่แล้ว

นายวรวุฒิ เปิดเผยถึงแนวทางการทำธุรกิจว่า บริษัทฯได้รับลิขสิทธิ์การแข่งขันฟุตบอลโลก (World Cup)ในทุกสื่อจำนวน 2 สมัย ได้แก่ ในปี 2553 และปี 2557 โดยบริษัทฯจะเริ่มบริหารงานลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลกตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2550 จนถึงสิ้นสุดการได้รับลิขสิทธิ์ในอีก 8 ปีข้างหน้า

ดังนั้นบริษัทฯจึงต้องเตรียมความพร้อมในส่วนต่างๆ อาทิ เตรียมจัดตั้งหน่วยงานเข้ามาดูแลธุรกิจ ได้แก่ การจัดตั้งศูนย์ไอที เพื่อรวบรวมประวัติของนักกีฬา หรือการจัดตั้งศูนย์เพรสเซ็นเตอร์เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้สื่อข่าว

นอกจากนี้ยังต้องมีหน่วยงานออร์กาไนซ์เซอร์ เพื่อจัดงานที่เกี่ยวข้องกับกีฬาหรือสปอร์ตมาร์เก็ตติ้ง รวมถึงด้านการถ่ายทอดสดรายการกีฬาด้วย ทั้งนี้การดำเนินงานดังกล่าวจะทำให้บริษัทฯจะกลายเป็นหน่วยงานที่มีการบริหารจัดการด้านกีฬาที่ครบวงจรแห่งหนึ่งในไทย

ทั้งนี้ลิขสิทธิ์ในครั้งนี้ที่บริษัทฯได้รับถือว่าเป็นการได้รับลิขสิทธิ์ที่ครอบคลุมทุกช่องทางทั้งในส่วนของบรอดแบนด์ที่สามารถชมได้ทั้งการถ่ายทอดสดและเทปบันทึกการแข่งขันในระบบอินเทอร์เน็ต และโทรศัพท์มือถือ ฯลฯ

ขณะที่ฟรีทีวีที่จะเอาภาพการแข่งขันกีฬาดังกล่าวมาออกอากาศต้องมีการขออนุญาตผ่านบริษัทฯ ส่วนการนำภาพสัญลักษณ์ลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลกหรือแมสคอตมาออกอากาศหรือทำการตลาดใดๆจะต้องมาขออนุญาติบริษัทฯก่อน

“การติดต่อลิขสิทธ์ฟุตบอลโลกดังกล่าวเป็นการทำในนามของตัวผม ซึ่งการที่ได้ดีลครั้งนี้มาก็เพราะผมมีความสัมพันธ์ที่ดีจึงได้ลิขสิทธิ์นี้มา นอกจากนี้แล้วเรายังสนใจซื้อลิขสิทธิ์กีฬาประเภทอื่นๆ เช่น การเข้าไปซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลยูโร 2008 เป็นต้น แต่ยังไม่สามารถบอกรายละเอียดอะไรได้ในขณะนี้” นายวรวุฒิกล่าว

นายสุรชัย เปิดเผยว่า บริษัทฯคาดหวังยอดรายได้ของการดำเนินธุรกิจลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลกในอีก 2 สมัยข้างหน้านี้จะสร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาทหรือสมัยละ1,000 ล้านบาท จากเดิมทำรายได้สมัยละ 600-700 ล้านบาท ทั้งนี้เป็นเพราะรูปแบบการดำเนินงานเปลี่ยนไป เนื่องจากไม่ต้องรอให้ถึงปีการแข่งขันก็สามารถทำการตลาดได้

ไทยเบฟแก้เกี้ยวไม่แข่งแย่งสิทธิ์บอลโลก
นายเกษมสันต์ วีระกุล ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กร บริษัท ไทยเบฟเวอเรจส์ และผู้บริหารบริษัท ทศภาค เจ้าของลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลก 2 สมัยก่อนหน้านี้ เปิดเผยว่า บริษัทฯไม่มีนโยบายเข้าไปแข่งขันเสนอซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลสมัย 2010-2014

เนื่องจากลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลกที่ทศภาคได้ครั้งที่แล้วมีนายวรวุฒิ โรจนพานิชและนายวรวีร์ มะกุดี เลขาธิการสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยเป็นผู้ติดต่อและประสานงานไป แต่ปัจจุบันนายวรวุฒิ ได้ออกไปตั้งบริษัทใหม่กับทางบริษัทอาร์เอสฯเพื่อบริหารจัดการลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลกในอีก 2 สมัยหน้า ตรงนี้บริษัทฯไม่ได้ติดใจ

โดยในส่วนไทยเบฟฯ หากได้รับข้อเสนอที่ดีก็พร้อมที่จะเข้าไปเป็นสปอนเซอร์หลักในการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกเหมือนเดิม ส่วนตัวธุรกิจทศภาคยังรับจัดทำกิจกรรมการตลาดด้านกีฬาอยู่และดูแลสิทธิประโยชน์ให้สมาคมที่บริษัทไทยเบฟเวอเรจส์ เข้าไปเป็นสปอนเซอร์อย่างสมาคมฟุตบอล อยู่เหมือนเดิม