“ต่อตระกูล ยมนาค” เผยผลสอบซีทีเอ็กซ์ 9000 สุวรรณภูมิ เอาผิดได้ทั้ง ขรก.ประจำ และคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องได้แล้ว ส่วนจะเอาผิดระดับข้าราชการการเมืองได้หรือไม่นั้น ต้องรอผลสอบของ คตส. สอบพยานเพิ่ม พร้อมปิดสำนวน 3 ธันวาคมนี้ ก่อนส่งให้คณะกรรมการ คตส. ชุดใหญ่ ส่งเรื่องฟ้องศาลฎีกาต่อไป เผยคนเกี่ยวข้องเป็นระดับข้าราชการประจำ-คณะกรรมการตรวจการจ้าง และบอร์ด ทอท.ในช่วงที่เกี่ยวข้อง
นายต่อตระกูล ยมนาค โฆษกคณะอนุกรรมการตรวจสอบโครงการจัดซื้อเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดซีทีเอ็กซ์ รุ่น 9000 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ของคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อรัฐ หรือ คตส. เปิดเผยถึงความคืบหน้าผลการสอบสวนและเอาผิดกับผู้ที่เกี่ยวข้องว่า ขณะนี้มีผลสอบของคณะอนุกรรมการ คตส. มีความคืบหน้ามากและได้มีการสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องหลายคนไปแล้ว เพื่อเป็นข้อมูลในการเอาผิดกับเจ้าหน้าที่ระดับคณะกรรมการ และข้าราชการที่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม ผลการสอบสวนหาตัวผู้กระทำผิดนั้น มีความชัดเจนว่าจะสามารถเอาผิดกับข้าราชการประจำและฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาได้ตั้งแต่ก่อนหน้านี้
และเป็นไปตามผลการสอบสวนของสำนักงานคณะกรรมการตรวจเงินแผ่น หรือ สตง.ที่มีคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา เป็นประธาน ได้สอบสวนและสรุปผลการสอบสวนมาตั้งแต่ช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมาแล้ว แต่การหาหลักฐานเพื่อเอาผิดกับระดับข้าราชการการเมืองนั้น อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานให้มากขึ้น และกำลังพิจารณากันว่าคณะอนุกรรมการจะส่งเรื่องให้ศาลตัดสินเอาผิดกับเฉพาะข้าราชการประจำและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องที่สรุปได้ในเบื้องต้นไปก่อน หรือจะต้องรอให้มีหลักฐานมัดตัวเพื่อเอาผิดกับระดับข้าราชการการเมืองได้แล้วค่อยส่งให้ศาลพิจารณาครั้งเดียวเป็นคดีใหญ่ไปเลย
“ตอนนี้ ถ้าจะเอาผิดก็ทำได้ ในส่วนของพวกข้าราชการประจำ คณะกรรมการก็มีส่วน แต่ก็ทำได้ในแง่ของการเอาผิดวินัย สำหรับข้าราชการ หรือรัฐวิสาหกิจ ก็สามารถทำได้ง่าย แต่ก็มีการหารือกันว่า จะหยุดสอบสวนแค่นี้ก่อนดีกว่าแล้วส่งให้ศาลเป็นผู้พิจารณาตัดสินคดี หรือจะรอสักพักแล้วหาหลักฐานสาวไปถึงระดับข้าราชการทางการเมือง แล้วส่งฟ้องศาลให้เป็นคดีใหญ่เลยจะดีกว่าหรือไม่ เพราะว่าขณะนี้ก็มีเสียงจากประชาชนหลายฝ่ายเร่งเร้าอยากจะเห็นการดำเนินคดี แต่คณะกรรมการก็ต้องพิจารณาให้รอบคอบ เพราะหากส่งฟ้องแล้วหลักฐานอ่อน ไปถึงกระบวนศาลฎีกา คดีการเมืองได้เลย แล้วหลุดไปก็น่าเสียดาย ซึ่งกำลังดูว่าจะเอาอย่างไรกันดี” นายต่อตระกูล กล่าว
นายต่อตระกูล กล่าวด้วยว่า หลังจากนี้ไปจะเรียกพยานมาสอบเพิ่มขึ้นอีก ก่อนจะสรุปผลการสอบสวนทั้งหมดนั้น และปิดสำนวนในวันที่ 3 ธันวาคมนี้ ก่อนจะส่งให้คณะกรรมการ คตส.ชุดใหญ่ดำเนินการ อย่างไรก็ตาม เห็นว่า ขณะนี้ยังมีเรื่องไม่โปร่งในการประมูลต่าง ๆ ภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิอีกเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะเรื่องใหม่ที่เกิดขึ้น คือพบว่ามีการปรับแก้ไขแบบ และลดจำนวนห้องน้ำภายในอาคารผู้โดยสาร และปัญหาหลังคาผ้าใบไม่มีคุณภาพ ซึ่งคณะกรรมการ คตส.อยู่ระหว่างการตรวจสอบด้วย อย่างไรก็ตาม มีรายงานข่าวว่า บุคคลที่เกี่ยวข้องเป็นข้าราชการประจำ และคณะกรรมการตรวจรับการจ้าง ของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) และอาจมีระดับคณะกรรมการบริหาร ทอท.ในฐานะที่เป็นผู้พิจารณาอนุมัติ และลงนามในสัญญาในเรื่องนี้ด้วย
