xs
xsm
sm
md
lg

สมาคมโฆษณาสอนมวยภาครัฐ ทำตลาดก่อนน้ำเมาจีนทะลักไทย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สมาคมโฆษณาธุรกิจแห่งประเทศไทยวอนภาครัฐแก้ปัญหาให้ถูกจุด  อย่าด่วนสรุปว่าโฆษณาเป็นตัวทำให้คนดื่มเหล้ามากและทำให้เกิดอุบัติเหตุ  แนะร่วมมือกันช่วยแก้ปัญหาและควรแก้ที่ต้นเหตุในเรื่องการศึกษาและครอบครัว  ชี้แบรนด์นอกได้เปรียบแบรนด์ไทย  และรายใหม่แจ้งเกิดยาก  รวมถึงสินค้าราคาถูกจากจีนอาจทะลักเข้ามาทำตลาดไทย เตรียมประชุมทั้งภาครัฐและเอกชนอีกครั้งในวันศุกร์ที่ 27 ต.ค.นี้

นายปารเมศร์ รัชไชยบุญ
ประธานกิตติมศักดิ์ สมาคมโฆษณาธุรกิจแห่งประเทศไทย  เปิดเผยว่า  จากกรณีที่ภาครัฐเตรียมควบคุมการโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกช่องทาง เนื่องจากเห็นว่าโฆษณาเป็นตัวที่กระตุ้นให้คนดื่มแอลกฮอล์มากขึ้นและส่งผลเสียร้ายแรงอื่นๆตามมา เช่น อุบัติเหตุกว่า 80% พบว่ามาจากการดื่มแอลกอฮอล์เกินมาตรฐาน   และอีก 70% มาจากการดื่มสุราขาว   เป็นต้น     ทั้งนี้หากภาครัฐเล็งเห็นว่าโฆษณาผ่านสื่อมีประสิทธิภาพในการโน้มน้าวให้คนบริโภคสินค้าแอลกฮอล์มากขึ้นจริงโฆษณาก็น่าจะมีประสิทธิภาพในการให้ข้อมูลที่ถูกต้องแก่ประชาชนได้ จากนั้นประชาชนก็เป็นผู้ตัดสินใจเลือกเอง   

“ในฐานะสมาคมฯพร้อมทำตามกฎหมายและรณรงค์ให้เกิดทัศนคติที่ดีอยู่แล้ว  แต่คำถามที่เกิดขึ้น คือ การแก้ปัญหาถูกจุดหรือไม่ในการควบคุมสื่อโฆษณาสินค้าแอลกอฮอล์ทุกช่องทาง  โดยปัญหาใหญ่ในขณะนี้ คือ เรื่องสุราขาว  ซึ่งมีการเก็บภาษีน้อย ส่งผลให้สินค้ามีราคาถูกจึงง่ายต่อการซื้อของผู้บริโภค  ทั้งนี้หากศึกษาข้อมูลจะพบว่าในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2549 นี้มีการบริโภคเหล้าขาวไปแล้ว 254 ล้านลิตร  ตรงนี้มองว่าหากทางภาครัฐมีการแก้ไขให้ถูกจุดในเรื่องภาษีสุราขาวก็จะทำให้มีรายได้ในส่วนนี้เพิ่มขึ้นเป็น 20,000 ล้านบาทต่อปี หรือช่วยเพิ่มภาษีให้รัฐได้ถึง 10 เท่า จากปัจจุบันมีรายได้จากการเก็บภาษีเหล้าขาวเพิ่มเป็น 2,000 ล้านบาท  ดังนั้นถ้ามีการขึ้นภาษีเหล้าขาวเพิ่มจะทำให้คุณภาพของเหล้าขาวดีขึ้นและราคาสินค้าจะสูงขึ้น ส่งผลให้จำนวนคนดื่มก็จะน้อยลง”  

สำหรับยอดจำหน่ายสุราในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา แบ่งเป็นสัดส่วนจะพบว่าสุราขาวมีมากสุดที่ 75.6% , สุราพิเศษ 9.8%, สุรากลั่นชุมชน 4.9% และสุราผสม 4.8% เป็นต้น   

นายวิทวัส ชัยปาณี  นายกสมาคมโฆษณาธุรกิจแห่งประเทศไทย กล่าวว่า วิธีแก้ปัญหาที่ถูกต้อง คือ เริ่มต้นจากสถาบันครอบครัวและการศึกษา  ซึ่งในยุคปัจจุบันที่มีการสื่อสารเปิดกว้างมาก เช่น อินเทอร์เน็ต  ฯลฯ   ตรงนี้หากภาครัฐยิ่งปิดกั้นมากเท่าใดก็จะทำให้เด็กอยากทดลองเรียนรู้ด้วยตนเองมากขึ้น   รวมถึงการทำโฆษณาสินค้าแอลกอฮอล์อาจพลิกแพลงหรือมีกลยุทธ์ใหม่ออกมา  

ล่าสุดความคืบหน้าเรื่องมาตรการควบคุมแอลกอฮอล์กำลังอยู่ในขั้นร่างพ.ร.บ.อยู่  โดยวันศุกร์ที่ 27 ต.ค.นี้จะมีการประชุมร่วมกันอีกครั้งระหว่างหน่วยงานภาครัฐและเอกชนเพื่อสรุปผล    ทั้งนี้หากขั้นตอนต่างๆที่ได้รับการเสนอแล้วคาดว่าครม.จะอนุมัติและประกาศได้ภายในเวลา 3 สัปดาห์จากนี้  โดยคาดว่าจะทันภายในวันที่ 3 ธ.ค. 49 นี้ที่ทุกสื่อจะถูกจำกัดหมด  ดังนั้นในช่วงนี้สินค้ากลุ่มแอลกอฮอล์ เช่น สุราหงษ์ทองและช้างจึงทำการตลาดหนักก่อนที่จะถูกควบคุมการทำตลาดและโฆษณา

“จากมาตรการควบคุมสินค้าแอลกอฮอล์ของภาครัฐทำให้ผู้ประกอบการรายใหญ่ของไทยที่แบรนด์ติดตลาดแล้วได้เปรียบ ขณะที่แบรนด์ใหม่จะเกิดขึ้นในตลาดยาก  โดยแนวโน้มตลาดจะหันไปเล่นเรื่องราคาเป็นหลัก รวมถึงการขายสินค้าและเทรด โปรโมชั่นในการกระตุ้นกำลังซื้อของลูกค้า  ขณะที่สินค้าเหล้าเบียร์ที่มาจากต่างประเทศก็จะมีความได้เปรียบแบรนด์ไทยมากกว่า เช่น การถ่ายทอดสดกีฬาจากต่างประเทศถ้าสินค้านั้นมีโลโก้หรือเป็นสปอนเซอร์ก็อนุโลมให้ออกอากาศได้ หรือการที่สินค้าราคาถูกจากจีนอาจทะลักเข้ามาทำตลาดไทยก็เป็นไปได้”   
กำลังโหลดความคิดเห็น