ที่ประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา หรือ อังค์ถัด เปิดเผยตัวเลขการลงทุนทั่วโลก พบว่าการลงทุนต่างประเทศทั่วโลกเพิ่มมากขึ้นติดต่อกันเป็นปีที่ 2 ในปีนี้ โดยจีนครองแชมป์ดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติเข้าไปได้มากที่สุดในเอเชีย
อังค์ถัดได้เปิดเผยตัวเลขการลงทุนทั่วโลกพบว่าการลงทุนต่างประเทศทั่วโลกเพิ่มมากขึ้นติดต่อกันเป็นปีที่ 2 ในปีนี้ มีสาเหตุสำคัญ 2 ประการ คือ การควบรวมกิจการที่เพิ่มมากขึ้นและการซื้อธุรกิจข้ามพรมแดน โดยการลงทุนโดยตรงทั้งโลกในปี 2548 มีประมาณ 916,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2547 ที่ร้อยละ 29 สำหรับในภาพรวมทั่วโลกประเทศที่มีเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศเข้าไปมากที่สุด คือ สหราชอาณาจักร สหรัฐ และจีน ส่วนในเอเชีย จีนยังคงเป็นประเทศยอดนิยมที่สามารถดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติเข้าไปได้มากที่สุด ขณะที่อินเดียยังไล่ตามมาอยู่ที่อันดับ 4
สำหรับประเทศไทยนั้น การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศของปีที่แล้วอยู่ที่ 3,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปี 2547 ที่มีเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติเข้ามาเพียง 1,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ตาม การลงทุนของต่างประเทศในไทยยังคงตามหลังสิงคโปร์ เกาหลีใต้ อินเดีย มาเลเซีย รวมถึงอินโดนีเซีย
ส่วนประเทศที่ส่งออกการลงทุนไปต่างประเทศมากที่สุด 3 อันดับ ได้แก่ เนเธอร์แลนด์ ฝรั่งเศส และสหราชอาณาจักร โดยการลงทุนของทั้ง 3 ประเทศมีสัดส่วนถึงครึ่งหนึ่งของปริมาณเงินลงทุนทางตรงทั่วโลก ส่วนการลงทุนในต่างประเทศของจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอเมริกาใต้และแอฟริกายังคงจำกัดอยู่ในอุตสาหกรรมแสวงหาทรัพยากรธรรมชาติเป็นหลัก
อังค์ถัดได้เปิดเผยตัวเลขการลงทุนทั่วโลกพบว่าการลงทุนต่างประเทศทั่วโลกเพิ่มมากขึ้นติดต่อกันเป็นปีที่ 2 ในปีนี้ มีสาเหตุสำคัญ 2 ประการ คือ การควบรวมกิจการที่เพิ่มมากขึ้นและการซื้อธุรกิจข้ามพรมแดน โดยการลงทุนโดยตรงทั้งโลกในปี 2548 มีประมาณ 916,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2547 ที่ร้อยละ 29 สำหรับในภาพรวมทั่วโลกประเทศที่มีเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศเข้าไปมากที่สุด คือ สหราชอาณาจักร สหรัฐ และจีน ส่วนในเอเชีย จีนยังคงเป็นประเทศยอดนิยมที่สามารถดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติเข้าไปได้มากที่สุด ขณะที่อินเดียยังไล่ตามมาอยู่ที่อันดับ 4
สำหรับประเทศไทยนั้น การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศของปีที่แล้วอยู่ที่ 3,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปี 2547 ที่มีเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติเข้ามาเพียง 1,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ตาม การลงทุนของต่างประเทศในไทยยังคงตามหลังสิงคโปร์ เกาหลีใต้ อินเดีย มาเลเซีย รวมถึงอินโดนีเซีย
ส่วนประเทศที่ส่งออกการลงทุนไปต่างประเทศมากที่สุด 3 อันดับ ได้แก่ เนเธอร์แลนด์ ฝรั่งเศส และสหราชอาณาจักร โดยการลงทุนของทั้ง 3 ประเทศมีสัดส่วนถึงครึ่งหนึ่งของปริมาณเงินลงทุนทางตรงทั่วโลก ส่วนการลงทุนในต่างประเทศของจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอเมริกาใต้และแอฟริกายังคงจำกัดอยู่ในอุตสาหกรรมแสวงหาทรัพยากรธรรมชาติเป็นหลัก