ไอทีวี มั่นใจภาพรวมสื่อทีวีปีนี้ยังโตสวนกระแสสารพัดปัจจัยลบ เชื่อไตรมาสสุดท้ายตลาดคึกคัก พร้อมเดินหน้าปรับเปลี่ยนรายการบางส่วน ล่าสุดเปิดศักราชช่วงเวลาใหม่ของละครเกาหลีมาเป็นช่วงบ่าย ประเดิมเรื่อง"ฉันนี่แหล่ะ...คิมซัมซุน" หนีคู่แข่งอย่างช่อง 7 ที่นำเสนอละครช่วงเช้า พร้อมทำการตลาดแบบครบวงจร หวังทวงตำแหน่งผู้นำแชมป์ละครเกาหลีคืน ล่าสุดเตรียมความพร้อมรอสปน.เข้าตรวจเยี่ยมกรณีผังรายการผิดสัญญา
นายทรงศักดิ์ เปรมสุข กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ไอทีวี เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจสื่อทีวีในช่วงไตรมาสที่สี่ของปีนี้มองว่าตลาดจะกลับมาดี จากปัจจัยหลายตัว อาทิ การเมืองเริ่มนิ่ง,ราคาน้ำมันเริ่มปรับตัวดีขึ้น และตัวเลขการส่งออกยังอยู่ในเกณฑ์ดี เป็นต้น ประกอบกับเป็นช่วงไฮซีซั่นหรือช่วงจับจ่ายใช้สอยของคน ซึ่งหากไม่มีสิ่งใดเข้ามาวุ่นวายหรือกระทบกระเทือนตลาดไปมากกว่านี้ ก็คาดว่าตลาดจะกลับมาดีอีกครั้ง โดยเชื่อว่าภาพรวมอุตสาหกรรมทีวีปีนี้ยังเติบโตขึ้น 7% ซึ่งถือว่าโตกว่าตลาดรวมของอุตสาหกรรมโฆษณาที่คาดว่าจะเติบโต 5% ตรงนี้สามารถพิสูจน์ได้ว่าสื่อทีวียังคงเป็นสื่อหลักที่มีประสิทธิภาพ ถึงแม้ว่าตลาดจะเกิดปัจจัยลบในด้านต่างๆก็ตาม
ส่วนแผนการบริหารงานของไอทีวีในช่วง 4 เดือนต่อจากนี้เตรียมปรับเปลี่ยนรายการบางส่วน โดยจะเน้นดึงรายการหรือละครที่มีคุณภาพมานำเสนอสู่คนดูอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเตรียมนำเสนอละครซีรี่ย์เกาหลีเรื่องใหม่ "ฉันนี่แหล่ะ...คิมซัมซุน" ที่สร้างเรตติ้งสูงสุดในเกาหลีถึง 50.5% โดยจะออกอากาศในเวลาใหม่ คือ เวลา 13.00-14.00 น. จากเดิมออกอากาศเวลา 11.00-12.00 น. เนื่องจากต้องการหลีกเลี่ยงคู่แข่งหรือช่อง 7 ที่นำเสนอละครเกาหลีในช่วงเวลา 9.00-11.00น. ซึงจะมีกลุ่มเป้าหมายที่ต่างกันออกไป โดยกลุ่มเป้าหมายหลักของละครเกาหลีนี้จะเน้นกลุ่มวัยรุ่นและคนที่เพิ่งเริ่มต้นทำงานหรือมีอายุระหว่าง 15-30 ปี บริษัทฯคาดหวังเรตติ้งจะได้ประมาณ 3-4%
สำหรับละครเรื่องใหม่นี้บริษัทฯ มั่นใจว่าจะสามารถทวงตำแหน่งแชมป์กลับคืนมาได้แน่ ดังนั้นจึงมีการทำการตลาดแบบ 360 องศา อาทิ การทำสปอต โปรโมต, สื่อกลางแจ้ง, อีเวนต์ต่างๆ เช่น จัดกิจกรรมชวนดูหนังและกินเค้กกับคิมซัมซุน และจัดเพรส ทัวร์ตามรอยละครที่เกาหลี เป็นต้น
พร้อมกันนี้บริษัทฯยังเตรียมนำเสนอละครเรื่องใหม่ "คมรักคมเสน่หา" แทนเรื่องรักหรรษา...คาราโอเกะ โดยจะออกาอากาศวันแรกในวันที่ 9 ก.ย.49 , การ์ตูนเรื่องใหม่ "เจปัง..สูตรดังเขย่าโลก" ออกอากาศเวลา 9.30-10.00 น. ในวันเสาร์และอาทิตย์ คาดว่าจะเริ่มต้นในเดือนตุลาคมนี้ และรายการใหม่ "ยอดคนไทยระดับโลก" ออกอากาศเวลา 10.30-11.00 น. ทุกวันอาทิตย์ เริ่มออกออกอากาศตอนแรกวันที่ 17 ก.ย.49นี้
ทั้งนี้จากการสำรวจข้อมูลล่าสุดในช่วงวันที่ 1-27 ส.ค. 49 พบว่าภาพรวมไอทีวีอยู่ในอันดับ 3 ทั้งในแง่จำนวนผู้ชม มีสัดส่วน 13.6% เป็นรองช่อง 7 ที่อยู่อันดับที่ 1 ด้วยสัดส่วนคนดู 29.4% รองมาช่อง 3 มี 25.7% ส่วนยอดเรตติ้งในช่วเงวลาไพรม์ไทม์พบว่าไอทีวีก็อยู่อันดับ 3 โดยมีสัดส่วน 3.62% เป็นรองช่อง 7 ที่มี9.83% ตามด้วยช่อง 3 มี5.61% ขณะที่ส่วนแบ่งค่าโฆษณาพบว่าไอทีวีอยู่อันดับ 3 มีสัดส่วน 17% ตามช่อง 7ที่มี 28% และช่อง 3มี21.8%
นอกจากนี้ยังพบว่าละคร 2 เรื่องที่ไอทีวีเพิ่งเปิดตัวไป ได้แก่ เรื่องนรสิงห์และเงินปากผีได้รับการตอบรับดีจากผู้บริโภค โดยมียอดเรตติ้งสูงถึง 6% นอกจากนี้รายการข่าวไอทีวี ฮอทนิวส์ที่ออกอากาศเวลา 21.10-22.10น. พบว่าในบางช่วงมีเรตติ้ง 3-4% ซึ่งถือว่าสูงกว่าทางช่อง 7 ที่ออกอากาศละคร และรายการคุย คุ๊ย ข่าวจากช่อง 9
ล่าสุดทางปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.)เตรียมเข้าตรวจเยี่ยมไอทีวี เพื่อเจรจาและตกลงกรณีที่ทางสปน.แจ้งค่าปรับการผิดสัญญาในผังรายการของไอทีวีกว่า 7 หมื่นล้านบาทในเร็วๆนี้ ซึ่งหากตกลงกันได้ทุกอย่างก็จบ แต่หากตกลงกันไม่ได้ก็ต้องไปพึ่งคณะอนุญาโตตุลาการต่อไป
นายทรงศักดิ์ เปรมสุข กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ไอทีวี เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจสื่อทีวีในช่วงไตรมาสที่สี่ของปีนี้มองว่าตลาดจะกลับมาดี จากปัจจัยหลายตัว อาทิ การเมืองเริ่มนิ่ง,ราคาน้ำมันเริ่มปรับตัวดีขึ้น และตัวเลขการส่งออกยังอยู่ในเกณฑ์ดี เป็นต้น ประกอบกับเป็นช่วงไฮซีซั่นหรือช่วงจับจ่ายใช้สอยของคน ซึ่งหากไม่มีสิ่งใดเข้ามาวุ่นวายหรือกระทบกระเทือนตลาดไปมากกว่านี้ ก็คาดว่าตลาดจะกลับมาดีอีกครั้ง โดยเชื่อว่าภาพรวมอุตสาหกรรมทีวีปีนี้ยังเติบโตขึ้น 7% ซึ่งถือว่าโตกว่าตลาดรวมของอุตสาหกรรมโฆษณาที่คาดว่าจะเติบโต 5% ตรงนี้สามารถพิสูจน์ได้ว่าสื่อทีวียังคงเป็นสื่อหลักที่มีประสิทธิภาพ ถึงแม้ว่าตลาดจะเกิดปัจจัยลบในด้านต่างๆก็ตาม
ส่วนแผนการบริหารงานของไอทีวีในช่วง 4 เดือนต่อจากนี้เตรียมปรับเปลี่ยนรายการบางส่วน โดยจะเน้นดึงรายการหรือละครที่มีคุณภาพมานำเสนอสู่คนดูอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเตรียมนำเสนอละครซีรี่ย์เกาหลีเรื่องใหม่ "ฉันนี่แหล่ะ...คิมซัมซุน" ที่สร้างเรตติ้งสูงสุดในเกาหลีถึง 50.5% โดยจะออกอากาศในเวลาใหม่ คือ เวลา 13.00-14.00 น. จากเดิมออกอากาศเวลา 11.00-12.00 น. เนื่องจากต้องการหลีกเลี่ยงคู่แข่งหรือช่อง 7 ที่นำเสนอละครเกาหลีในช่วงเวลา 9.00-11.00น. ซึงจะมีกลุ่มเป้าหมายที่ต่างกันออกไป โดยกลุ่มเป้าหมายหลักของละครเกาหลีนี้จะเน้นกลุ่มวัยรุ่นและคนที่เพิ่งเริ่มต้นทำงานหรือมีอายุระหว่าง 15-30 ปี บริษัทฯคาดหวังเรตติ้งจะได้ประมาณ 3-4%
สำหรับละครเรื่องใหม่นี้บริษัทฯ มั่นใจว่าจะสามารถทวงตำแหน่งแชมป์กลับคืนมาได้แน่ ดังนั้นจึงมีการทำการตลาดแบบ 360 องศา อาทิ การทำสปอต โปรโมต, สื่อกลางแจ้ง, อีเวนต์ต่างๆ เช่น จัดกิจกรรมชวนดูหนังและกินเค้กกับคิมซัมซุน และจัดเพรส ทัวร์ตามรอยละครที่เกาหลี เป็นต้น
พร้อมกันนี้บริษัทฯยังเตรียมนำเสนอละครเรื่องใหม่ "คมรักคมเสน่หา" แทนเรื่องรักหรรษา...คาราโอเกะ โดยจะออกาอากาศวันแรกในวันที่ 9 ก.ย.49 , การ์ตูนเรื่องใหม่ "เจปัง..สูตรดังเขย่าโลก" ออกอากาศเวลา 9.30-10.00 น. ในวันเสาร์และอาทิตย์ คาดว่าจะเริ่มต้นในเดือนตุลาคมนี้ และรายการใหม่ "ยอดคนไทยระดับโลก" ออกอากาศเวลา 10.30-11.00 น. ทุกวันอาทิตย์ เริ่มออกออกอากาศตอนแรกวันที่ 17 ก.ย.49นี้
ทั้งนี้จากการสำรวจข้อมูลล่าสุดในช่วงวันที่ 1-27 ส.ค. 49 พบว่าภาพรวมไอทีวีอยู่ในอันดับ 3 ทั้งในแง่จำนวนผู้ชม มีสัดส่วน 13.6% เป็นรองช่อง 7 ที่อยู่อันดับที่ 1 ด้วยสัดส่วนคนดู 29.4% รองมาช่อง 3 มี 25.7% ส่วนยอดเรตติ้งในช่วเงวลาไพรม์ไทม์พบว่าไอทีวีก็อยู่อันดับ 3 โดยมีสัดส่วน 3.62% เป็นรองช่อง 7 ที่มี9.83% ตามด้วยช่อง 3 มี5.61% ขณะที่ส่วนแบ่งค่าโฆษณาพบว่าไอทีวีอยู่อันดับ 3 มีสัดส่วน 17% ตามช่อง 7ที่มี 28% และช่อง 3มี21.8%
นอกจากนี้ยังพบว่าละคร 2 เรื่องที่ไอทีวีเพิ่งเปิดตัวไป ได้แก่ เรื่องนรสิงห์และเงินปากผีได้รับการตอบรับดีจากผู้บริโภค โดยมียอดเรตติ้งสูงถึง 6% นอกจากนี้รายการข่าวไอทีวี ฮอทนิวส์ที่ออกอากาศเวลา 21.10-22.10น. พบว่าในบางช่วงมีเรตติ้ง 3-4% ซึ่งถือว่าสูงกว่าทางช่อง 7 ที่ออกอากาศละคร และรายการคุย คุ๊ย ข่าวจากช่อง 9
ล่าสุดทางปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.)เตรียมเข้าตรวจเยี่ยมไอทีวี เพื่อเจรจาและตกลงกรณีที่ทางสปน.แจ้งค่าปรับการผิดสัญญาในผังรายการของไอทีวีกว่า 7 หมื่นล้านบาทในเร็วๆนี้ ซึ่งหากตกลงกันได้ทุกอย่างก็จบ แต่หากตกลงกันไม่ได้ก็ต้องไปพึ่งคณะอนุญาโตตุลาการต่อไป