ผู้บริหารสหฟาร์มยอมรับไข้หวัดนกรอบใหม่กระทบจิตวิทยาคู่ค้า ห่วงปัญหาการกลายพันธุ์ จี้รัฐเร่งให้ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องกับเกษตรกรรายย่อยเพื่อแก้ปัญหาไข้หวัดนกอย่างถูกทาง พร้อมระบุ ก.สาธารณสุข-ก.เกษตร ต้องร่วมมือกันแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง
นายปัญญา โชติเทวัญ ประธานบริษัท สหฟาร์ม กล่าวถึงการพบเชื้อโรคไข้หวัดนกรอบใหม่ที่จังหวัดนครพนมว่า มีผลกระทบทางจิตวิทยาต่อคู่ค้าบ้าง ซึ่งทางญี่ปุ่นได้มีการสอบถามและได้ชี้แจงว่า เกิดขึ้นกับเกษตรกรรายเล็ก ไม่มีผลต่อผู้ส่งออกไก่ ซึ่งมีระบบการป้องกันอย่างดี แต่ยอมรับว่า การที่พบเชื้อไข้หวัดนกเป็นครั้งที่ 4 ในรอบ 2 ปี 6 เดือน เป็นสถานการณ์ที่ยืดเยื้อเกินไป และวิตกว่าไข้หวัดนกจะกลายพันธุ์ จนทำให้เกิดปัญหาต่อทั่วโลก
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า มาตรการของราชการมีประสิทธิผลจริง แต่ในทางปฏิบัติต้องให้เกษตรกรเข้ามามีส่วนร่วมด้วย โดยเฉพาะการให้ความรู้ ความเข้าใจและการป้องกันการติดเชื้อไข้หวัดนก เนื่องจากเกษตรกรยังไม่เข้าใจอย่างถูกต้องว่า การเลี้ยงสัตว์ปีกในปัจจุบันจะต้องมีการป้องกันอย่างเข้มงวด เพราะโอกาสที่สัตว์ปีกจะไปสัมผัสกับพาหะนำเชื้อมีมาก และต้องเข้าใจว่า เชื้อไวรัสไข้หวัดนกเป็นมหันตภัยของโลก ดังนั้น ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยให้มากที่สุด
นายปัญญากล่าวด้วยว่า อยากให้ภาครัฐเร่งขึ้นทะเบียนไก่ เพราะจนถึงขณะนี้ยังไม่มีการจดทะเบียนไก่ชน นอกจากนี้ยังต้องสอบสวนหาสาเหตุของการเกิดการพบเชื้อไข้หวัดนกอย่างละเอียดถี่ถ้วน รวมทั้งต้องตรวจสอบว่า มีการนำวัคซีนไข้หวัดนกจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาใช้ในประเทศจริงหรือไม่ เพราะรัฐบาลไทยไม่อนุญาตให้มีการใช้วัคซีนดังกล่าว เนื่องจากเกรงว่า อาจจะทำให้เกิดการกลายพันธุ์ของโรคได้
นายปัญญากล่าวอีกว่า อยากเห็นการร่วมมือระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงสาธารณสุขอย่างเข้มแข็งมากขึ้น เพราะการควบคุมดูแลปัญหาดังกล่าว จะต้องนำหลักสาธารณสุขเข้ามาประยุกต์ใช้ร่วมกับหลักสุขาภิบาลและสัตว์บาลควบคู่กันไปด้วย
นายปัญญา โชติเทวัญ ประธานบริษัท สหฟาร์ม กล่าวถึงการพบเชื้อโรคไข้หวัดนกรอบใหม่ที่จังหวัดนครพนมว่า มีผลกระทบทางจิตวิทยาต่อคู่ค้าบ้าง ซึ่งทางญี่ปุ่นได้มีการสอบถามและได้ชี้แจงว่า เกิดขึ้นกับเกษตรกรรายเล็ก ไม่มีผลต่อผู้ส่งออกไก่ ซึ่งมีระบบการป้องกันอย่างดี แต่ยอมรับว่า การที่พบเชื้อไข้หวัดนกเป็นครั้งที่ 4 ในรอบ 2 ปี 6 เดือน เป็นสถานการณ์ที่ยืดเยื้อเกินไป และวิตกว่าไข้หวัดนกจะกลายพันธุ์ จนทำให้เกิดปัญหาต่อทั่วโลก
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า มาตรการของราชการมีประสิทธิผลจริง แต่ในทางปฏิบัติต้องให้เกษตรกรเข้ามามีส่วนร่วมด้วย โดยเฉพาะการให้ความรู้ ความเข้าใจและการป้องกันการติดเชื้อไข้หวัดนก เนื่องจากเกษตรกรยังไม่เข้าใจอย่างถูกต้องว่า การเลี้ยงสัตว์ปีกในปัจจุบันจะต้องมีการป้องกันอย่างเข้มงวด เพราะโอกาสที่สัตว์ปีกจะไปสัมผัสกับพาหะนำเชื้อมีมาก และต้องเข้าใจว่า เชื้อไวรัสไข้หวัดนกเป็นมหันตภัยของโลก ดังนั้น ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยให้มากที่สุด
นายปัญญากล่าวด้วยว่า อยากให้ภาครัฐเร่งขึ้นทะเบียนไก่ เพราะจนถึงขณะนี้ยังไม่มีการจดทะเบียนไก่ชน นอกจากนี้ยังต้องสอบสวนหาสาเหตุของการเกิดการพบเชื้อไข้หวัดนกอย่างละเอียดถี่ถ้วน รวมทั้งต้องตรวจสอบว่า มีการนำวัคซีนไข้หวัดนกจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาใช้ในประเทศจริงหรือไม่ เพราะรัฐบาลไทยไม่อนุญาตให้มีการใช้วัคซีนดังกล่าว เนื่องจากเกรงว่า อาจจะทำให้เกิดการกลายพันธุ์ของโรคได้
นายปัญญากล่าวอีกว่า อยากเห็นการร่วมมือระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงสาธารณสุขอย่างเข้มแข็งมากขึ้น เพราะการควบคุมดูแลปัญหาดังกล่าว จะต้องนำหลักสาธารณสุขเข้ามาประยุกต์ใช้ร่วมกับหลักสุขาภิบาลและสัตว์บาลควบคู่กันไปด้วย