กรมส่งเสริมการส่งออกดึงนักลงทุนสหรัฐรายใหญ่ร่วมจำหน่ายและส่งเสริมพัฒนาสินค้าไทย โดยเน้นสินค้าสำคัญ 3 กลุ่มหลัก คือ อาหาร เครื่องประดับและอัญมณี และสินค้าแฟชั่น ซึ่งห้างสรรพสินค้าชั้นนำของสหรัฐยินดีสนับสนุนการจำหน่ายสินค้าของไทยมากขึ้น ขณะเดียวกัน ยังจะส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยออกแบบสินค้าโอท็อป เพื่อให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคชาวอเมริกัน
นางจันทรา บูรณฤกษ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก กล่าวว่า นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้หารือกับนักลงทุนธุรกิจรายใหญ่ของสหรัฐ 3 กลุ่มหลัก คือ กลุ่มอาหาร ซึ่งเป็นผู้นำเข้าสินค้าอาหารจากไทยเพื่อนำไปจำหน่ายในห้างสรรพสินค้า Walmart, Costco และ Wegman ผู้ประกอบการสหรัฐยินดีจัดกิจกรรมอาหารไทยให้ลูกค้าสหรัฐได้รู้จักอาหารไทยมากขึ้น สำหรับกลุ่มสินค้าเครื่องประดับและอัญมณี มีนักธุรกิจหลายรายสนใจสนับสนุนสินค้าไทย เช่น Fortunoff ซึ่งเป็นผู้จำหน่ายสินค้าเครื่องประดับอัญมณี เฟอร์นิเจอร์ในตลาดระดับบน เน้นในเมืองขนาดใหญ่ เช่น New York , New Jersey และยังมีบริษัท Samuel Aaron Inc. ได้ใช้ไทยเป็นฐานการผลิตสินค้าระดับกลางที่สำคัญที่สุด ซึ่งครองสัดส่วนประมาณร้อยละ 40
นอกจากนี้ ยังมีบริษัท limited Blands Inc. ซึ่งเป็นธุรกิจค้าปลีกสินค้าแฟชั่นเครื่องแต่งกาย เครื่องสำอาง และบริษัท Clavin Klein Home เจ้าของสินค้า Van Heusen , Arrow ซึ่งต้องการนำเข้าสินค้าของตกแต่งบ้านและเสื้อผ้าสำเร็จรูปมากขึ้น แม้ยอมรับว่าสินค้าของไทยจะมีราคาแพงกว่าจีนประมาณร้อยละ 20-30 แต่เอกชนสหรัฐยอมรับว่าสินค้าไทยมีคุณภาพเหนือกว่า ที่สำคัญ นายสมคิด ได้หารือกับผู้บริหารห้างสรรพสินค้า Saks fifth Avenue ซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้ารายใหญ่ของสหรัฐ ซึ่งยินดีนำสินค้าไทยจำหน่ายบนห้างสรรพสินค้าดังในนิวยอร์ก เพื่อให้เป็นสินค้าชั้นนำของโลก โดยจะส่งเจ้าหน้าที่มาช่วยออกแบบสินค้าโอท็อป ระหว่างการจัดงานโอท็อป พรีเมี่ยม ช่วงปลายปีนี้ เพื่อให้เป็นที่ต้องการของลูกค้าในสหรัฐ
นางจันทรา กล่าวอีกว่า สำหรับตลาดสินค้าในสหรัฐ นับว่าเป็นตลาดที่ใหญ่มาก โดยช่วงเดือนมกราคม-พฤษภาคม ที่ผ่านมา สามารถจำหน่ายสินค้าได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 17.55 จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ร้อยละ 10 ซึ่งสินค้าเครื่องประดับและอัญมณี จำหน่ายได้ประมาณ 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 30 โดยมีอินเดีย เป็นคู่แข่งที่สำคัญในสหรัฐ
นางจันทรา บูรณฤกษ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก กล่าวว่า นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้หารือกับนักลงทุนธุรกิจรายใหญ่ของสหรัฐ 3 กลุ่มหลัก คือ กลุ่มอาหาร ซึ่งเป็นผู้นำเข้าสินค้าอาหารจากไทยเพื่อนำไปจำหน่ายในห้างสรรพสินค้า Walmart, Costco และ Wegman ผู้ประกอบการสหรัฐยินดีจัดกิจกรรมอาหารไทยให้ลูกค้าสหรัฐได้รู้จักอาหารไทยมากขึ้น สำหรับกลุ่มสินค้าเครื่องประดับและอัญมณี มีนักธุรกิจหลายรายสนใจสนับสนุนสินค้าไทย เช่น Fortunoff ซึ่งเป็นผู้จำหน่ายสินค้าเครื่องประดับอัญมณี เฟอร์นิเจอร์ในตลาดระดับบน เน้นในเมืองขนาดใหญ่ เช่น New York , New Jersey และยังมีบริษัท Samuel Aaron Inc. ได้ใช้ไทยเป็นฐานการผลิตสินค้าระดับกลางที่สำคัญที่สุด ซึ่งครองสัดส่วนประมาณร้อยละ 40
นอกจากนี้ ยังมีบริษัท limited Blands Inc. ซึ่งเป็นธุรกิจค้าปลีกสินค้าแฟชั่นเครื่องแต่งกาย เครื่องสำอาง และบริษัท Clavin Klein Home เจ้าของสินค้า Van Heusen , Arrow ซึ่งต้องการนำเข้าสินค้าของตกแต่งบ้านและเสื้อผ้าสำเร็จรูปมากขึ้น แม้ยอมรับว่าสินค้าของไทยจะมีราคาแพงกว่าจีนประมาณร้อยละ 20-30 แต่เอกชนสหรัฐยอมรับว่าสินค้าไทยมีคุณภาพเหนือกว่า ที่สำคัญ นายสมคิด ได้หารือกับผู้บริหารห้างสรรพสินค้า Saks fifth Avenue ซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้ารายใหญ่ของสหรัฐ ซึ่งยินดีนำสินค้าไทยจำหน่ายบนห้างสรรพสินค้าดังในนิวยอร์ก เพื่อให้เป็นสินค้าชั้นนำของโลก โดยจะส่งเจ้าหน้าที่มาช่วยออกแบบสินค้าโอท็อป ระหว่างการจัดงานโอท็อป พรีเมี่ยม ช่วงปลายปีนี้ เพื่อให้เป็นที่ต้องการของลูกค้าในสหรัฐ
นางจันทรา กล่าวอีกว่า สำหรับตลาดสินค้าในสหรัฐ นับว่าเป็นตลาดที่ใหญ่มาก โดยช่วงเดือนมกราคม-พฤษภาคม ที่ผ่านมา สามารถจำหน่ายสินค้าได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 17.55 จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ร้อยละ 10 ซึ่งสินค้าเครื่องประดับและอัญมณี จำหน่ายได้ประมาณ 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 30 โดยมีอินเดีย เป็นคู่แข่งที่สำคัญในสหรัฐ