การบินไทยมั่นใจตารางบินฤดูหนาวเจ๋ง หลังได้สตาร์อัลไลแอนซ์ร่วมทำแผนการเชื่อมต่อเที่ยวบิน คาดเพิ่มขึ้นร้อยละ 5-7 โดยยอดจองเดือนกรกฎาคม-สิงหาคมนี้มีกว่าร้อยละ 70
นายวสิงห์ กิตติกุล รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่อาวุโส บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลจากการที่ได้ให้กลุ่มพันธมิตรสตาร์อัลไลแอนซ์มาเป็นที่ปรึกษาเรื่องการเชื่อมต่อเที่ยวบินตั้งแต่เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ทำให้การเชื่อมโยงเครือข่ายการบินเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยสำหรับตารางบินฤดูหนาวที่จะเริ่มใช้ในช่วงปลายเดือนกันยายน 2549 ซึ่งสอดคล้องกับกำหนดการเปิดให้บริการสนามบินสุวรรณภูมิของรัฐบาลในวันที่ 28 กันยายน 2549 จะยิ่งทำให้การเชื่อมต่อเที่ยวบินได้ผู้โดยสารมากขึ้น คาดว่าจะเพิ่มร้อยละ 5-7 จากที่ในปีที่ผ่านมาผู้โดยสารเชื่อมต่อในช่วงตารางบินฤดูหนาวมี 1.2 ล้านคน
อย่างไรก็ตาม แผนการเชื่อมเที่ยวบินนี้ไม่ได้กำหนดปัจจัยว่าต้องมีสนามบินสุวรรณภูมิเท่านั้น ถ้ายังคงใช้สนามบินดอนเมืองอยู่แผนก็จะเป็นไปตามที่ได้กำหนดไว้เช่นกัน เพียงแต่ถ้าเป็นที่สนามบินสุวรรณภูมิก็จะยิ่งเพิ่มความคล่องตัวมากขึ้น
ทั้งนี้ ในการปรับโครงสร้างและการแต่งตั้งฝ่ายบริหารของการบินไทยล่าสุด ซึ่งได้รับมอบหมายให้ประสานงานกับสายการบินต่างประเทศจะเน้นในเรื่องการเชื่อมต่อกับสายการบินในอินโดจีน เพราะอย่างในกลุ่มประเทศตะวันออกกลางก็มีการรวมตัวกัน ประเทศไทยก็ควรที่จะต้องมีเช่นกัน แล้วคู่แข่งของไทยก็มีทั้งสิงคโปร์และมาเลเซีย โดยตลาดสำคัญที่การบินไทยมองคือการเชื่อมต่อไปยังประเทศในยุโรปและออสเตรเลียที่จะต้องพยายามทำให้ไทยเป็นศูนย์กลางอินโดจีน สร้างเป็นเครือข่ายขึ้นมาให้ได้
“อีก 3 เดือนที่ยังปฏิบัติหน้าที่ก่อนเกษียณ ก็ยังมีภาระที่คณะกรรมการบริหาร (บอร์ด) มอบหมายให้นอกจากการคอยให้คำแนะนำกับคุณวัลลภ พุกกะณะสุต ที่ได้รับแต่งตั้งให้มาดูแลในฐานะรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่แทนแล้ว ก็ยังมีแผนงานที่คุณสมใจนึก เองตระกูล กรรมการบอร์ด ที่ได้ทำร่วมกันมาในเรื่องความต้องการให้กรุงเทพฯ เป็นศูนย์กลางการบิน ก็ต้องสานต่อให้แล้วเสร็จ” นายวสิงห์ กล่าว
นายวสิงห์ กล่าวด้วยว่า ตารางบินฤดูหนาวของการบินไทยในปีนี้ถือเป็นช่วงพีคที่จะทำให้การบินไทยมีรายได้มากขึ้นก่อนปิดไตรมาสสุดท้ายของปีงบประมาณ 2549 ต่อเนื่องไปจนถึงช่วงเริ่มต้นไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2550 โดยการจองที่นั่งล่วงหน้าของเดือนกรกฎาคม-สิงหาคมนี้ ก็มีแนวโน้มที่ดีมาก เพราะมีเข้ามาแล้วมากกว่าร้อยละ 74-76 ขณะเดียวกันการบริหารการใช้งานเครื่องบินก็จะทำให้เกิดประโยชน์สูงสุด
นายวสิงห์ กิตติกุล รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่อาวุโส บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลจากการที่ได้ให้กลุ่มพันธมิตรสตาร์อัลไลแอนซ์มาเป็นที่ปรึกษาเรื่องการเชื่อมต่อเที่ยวบินตั้งแต่เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ทำให้การเชื่อมโยงเครือข่ายการบินเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยสำหรับตารางบินฤดูหนาวที่จะเริ่มใช้ในช่วงปลายเดือนกันยายน 2549 ซึ่งสอดคล้องกับกำหนดการเปิดให้บริการสนามบินสุวรรณภูมิของรัฐบาลในวันที่ 28 กันยายน 2549 จะยิ่งทำให้การเชื่อมต่อเที่ยวบินได้ผู้โดยสารมากขึ้น คาดว่าจะเพิ่มร้อยละ 5-7 จากที่ในปีที่ผ่านมาผู้โดยสารเชื่อมต่อในช่วงตารางบินฤดูหนาวมี 1.2 ล้านคน
อย่างไรก็ตาม แผนการเชื่อมเที่ยวบินนี้ไม่ได้กำหนดปัจจัยว่าต้องมีสนามบินสุวรรณภูมิเท่านั้น ถ้ายังคงใช้สนามบินดอนเมืองอยู่แผนก็จะเป็นไปตามที่ได้กำหนดไว้เช่นกัน เพียงแต่ถ้าเป็นที่สนามบินสุวรรณภูมิก็จะยิ่งเพิ่มความคล่องตัวมากขึ้น
ทั้งนี้ ในการปรับโครงสร้างและการแต่งตั้งฝ่ายบริหารของการบินไทยล่าสุด ซึ่งได้รับมอบหมายให้ประสานงานกับสายการบินต่างประเทศจะเน้นในเรื่องการเชื่อมต่อกับสายการบินในอินโดจีน เพราะอย่างในกลุ่มประเทศตะวันออกกลางก็มีการรวมตัวกัน ประเทศไทยก็ควรที่จะต้องมีเช่นกัน แล้วคู่แข่งของไทยก็มีทั้งสิงคโปร์และมาเลเซีย โดยตลาดสำคัญที่การบินไทยมองคือการเชื่อมต่อไปยังประเทศในยุโรปและออสเตรเลียที่จะต้องพยายามทำให้ไทยเป็นศูนย์กลางอินโดจีน สร้างเป็นเครือข่ายขึ้นมาให้ได้
“อีก 3 เดือนที่ยังปฏิบัติหน้าที่ก่อนเกษียณ ก็ยังมีภาระที่คณะกรรมการบริหาร (บอร์ด) มอบหมายให้นอกจากการคอยให้คำแนะนำกับคุณวัลลภ พุกกะณะสุต ที่ได้รับแต่งตั้งให้มาดูแลในฐานะรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่แทนแล้ว ก็ยังมีแผนงานที่คุณสมใจนึก เองตระกูล กรรมการบอร์ด ที่ได้ทำร่วมกันมาในเรื่องความต้องการให้กรุงเทพฯ เป็นศูนย์กลางการบิน ก็ต้องสานต่อให้แล้วเสร็จ” นายวสิงห์ กล่าว
นายวสิงห์ กล่าวด้วยว่า ตารางบินฤดูหนาวของการบินไทยในปีนี้ถือเป็นช่วงพีคที่จะทำให้การบินไทยมีรายได้มากขึ้นก่อนปิดไตรมาสสุดท้ายของปีงบประมาณ 2549 ต่อเนื่องไปจนถึงช่วงเริ่มต้นไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2550 โดยการจองที่นั่งล่วงหน้าของเดือนกรกฎาคม-สิงหาคมนี้ ก็มีแนวโน้มที่ดีมาก เพราะมีเข้ามาแล้วมากกว่าร้อยละ 74-76 ขณะเดียวกันการบริหารการใช้งานเครื่องบินก็จะทำให้เกิดประโยชน์สูงสุด