“ปรีชา” สั่งฟันพวกฉวยโอกาส! โก่งราคาเสื้อตราฉลองสิริราชสมบัติ

“รมช.พาณิชย์” สั่งฟันพ่อค้าแม่ค้าที่กักตุนและโก่งราคาเสื้อตราสัญลักษณ์ฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี จี้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเข้าไปดูต้นทุนการผลิต ขณะที่กรมทรัพย์สินทางปัญญาพิจารณาเตรียมยื่นจดสิทธิบัตรเครื่องหมายการค้าดังกล่าว ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อไม่ให้เกิดการนำตราสัญลักษณ์นี้ไปใช้ในเชิงพาณิชย์ หรือค้ากำไรเกินควร


นายปรีชา เลาหพงศ์ชนะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ได้รับการร้องเรียนจากผู้บริโภคจำนวนมาก กรณีเสื้อตราสัญลักษณ์ฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ขาดตลาดและมีราคาค่อนข้างสูง ซึ่งเรื่องนี้กระทรวงพาณิชย์จะเข้าไปดูต้นทุนการผลิตของบริษัทที่ได้รับพระบรมราชานุญาตให้เป็นผู้ผลิตเสื้อยืดดังกล่าว ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ขอทำความเข้าใจกรณีที่มีผู้ประกอบการจำนวนมากได้ทำเรื่องไปที่เลขาธิการพระราชวัง เพื่อขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตนำตราสัญลักษณ์ผลิตเสื้อดังกล่าว เพื่อให้ประชาชนทั่วประเทศจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี โดยผู้ประกอบการที่ได้รับพระบรมราชานุญาตให้เป็นผู้ผลิตจากสำนักพระราชวัง

“แต่ขณะนี้ปรากฏว่า เสื้อที่มีการจำหน่ายมีการโก่งราคาและขาดตลาด ดังนั้น กระทรวงพาณิชย์จะมีหนังสือไปยังผู้ประกอบการ เพื่อให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าไปดูเรื่องบัญชีการเงินไปดูถึงต้นทุนการผลิต ส่วนของกำไรและการบริจาคว่าเป็นไปตามที่ได้ทำเรื่องขออนุญาตที่จะนำรายได้จากการจำหน่ายดังกล่าวทูลเกล้าฯ ถวายมากน้อยแค่ไหน หากเห็นว่าเป็นการค้ากำไรเกินควร และทำให้ตลาดปั่นป่วน รวมทั้งมีการปฏิเสธการจำหน่าย ซึ่งเข้าข่ายกฎหมายว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ซึ่งมีโทษจำคุก 7 ปี ปรับ 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” นายปรีชา ระบุ

ทั้งนี้ จากต้นทุนที่กรมการค้าภายในได้ดำเนินการติดตาม หากเป็นเสื้อยืดคอกลมต้นทุนอยู่ที่ 80 บาท แต่ราคาขายอยู่ที่ 120-150 บาท เสื้อโปโล ต้นทุนอยู่ที่ 120-150 บาท และค่าปักอีก 30 บาท ซึ่งต้นทุนจะอยู่ที่ประมาณตัวละ 180 บาท โดยราคาขายอยู่ที่ 250-260 บาท ราคาดังกล่าวขึ้นอยู่กับชนิดของเนื้อผ้า

แต่ขณะนี้มีการจำหน่ายเสื้อยืดคอกลมและโปโลตัวละอย่างน้อยละ 250-400 บาท ซึ่งกระทรวงพาณิชย์เห็นว่าเป็นการค้ากำไรเกินควรและทำให้ตลาดปั่นป่วน จึงขอให้พี่น้องประชาชนที่พบเห็นพฤติกรรมการเอารัดเอาเปรียบทั้งปฏิเสธการจำหน่ายขายเกินราคาให้ร้องเรียนมาที่สายด่วนแม่บ้าน 1569 ส่วนกรณีเป็นผู้ผลิต หากมีการผลิตและคิดอัตราสูง โดยไม่ตรงกับขอพระบรมราชานุญาตก็จะดำเนินการตามกฎหมายด้วยเช่นกัน

นอกจากนี้ ได้สั่งการให้กรมทรัพย์สินทางปัญญาไปดูเรื่องตราสัญลักษณ์ดังกล่าว โดยกรมทรัพย์สินทางปัญญาจะทำการยื่นจดสิทธิบัตรเครื่องหมายการค้าดังกล่าวถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวต่อไป เพื่อไม่ให้เกิดการนำตราสัญลักษณ์นี้ไปใช้ในเชิงพาณิชย์ หรือค้ากำไรเกินควรมากเกินไป