ที่ประชุม ครม.เศรษฐกิจนัดพิเศษมอบหมายกระทรวงคลังเป็นตัวกลางประสานให้ธนาคารออมสินปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำให้ ธอส.และ ธ.ก.ส. เพื่อให้ไปปล่อยกู้ช่วยเหลือและแบ่งเบาภาระของเกษตรกร รวมทั้งให้หาทางดึงเงินกองทุนต่างๆ ที่มีอยู่มาใช้ให้เกิดประโยชน์ด้วย
ภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ด้านเศรษฐกิจ โดยมี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ดำเนินมาตรการเร่งด่วน โดยดูแลราคาสินค้าเกษตรไม่ให้ตกต่ำ และลดต้นทุนของเกษตรกร โดยที่ประชุมให้เน้นดูแลผลผผลิตที่จะออกมาใน 3-6 เดือนข้างหน้า เช่น มังคุด ทุเรียน พืชพลังงาน กุ้ง และไก่ โดยอนุมัติงบประมาณ 50 ล้านบาท ในการกระจายสินค้าผลไม้ไปทั่วประเทศ ส่วนสับปะรดที่ยังมีปริมาณเกินความต้องการของตลาด 200,000 ตัน จะร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรมดูดซับนำไปแปรรูปเป็นอาหารสัตว์ ใช้งบประมาณ 80 ล้านบาท นอกจากนี้ในด้านมาตรการลดค่าใช้จ่าย จะมีการลดดอกเบี้ยให้เกษตรกร โดยร่วมมือกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ลดดอกเบี้ยร้อยละ 1 สำหรับผู้มีหนี้ไม่เกิน 100,000 บาท 2.ลดค่าไฟฟ้าให้ภาคเกษตร โดยอาจลดลงให้เท่ากับภาคอุตสาหกรรม หรือลดลงประมาณร้อยละ 20 และกระทรวงเกษตรจะจัดทำปุ๋ยชีวภาพเพื่อแจกจ่ายให้เกษตรกรทั่วประเทศ
นายธีรพงษ์ ตั้งธีระสุนันท์ ผู้จัดการ ธ.ก.ส. กล่าวว่า ที่ประชุมมอบหมายให้ธนาคารไปศึกษาแนวทางเพื่อให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ นำเงินมาฝากกับ ธ.ก.ส. จำนวนประมาณ 20,000-30,000 ล้านบาท เพื่อชดเชยกับส่วนต่างที่ธนาคารจะลดดอกเบี้ยเพื่อลดภาระให้เกษตรกร โดยขณะนี้ธนาคารมีบัญชีลูกค้าประมาณ 2.2 ล้านครอบครัว คิดเป็นมูลค่าประมาณ 120,000 ล้านบาท และการลดดอกเบี้ยตามนโยบายคาดว่า ธนาคารจะสูญเสียดอกเบี้ยรับประมาณ 500-600 ล้านบาท ซึ่งไม่น่าจะมีปัญหาอะไร โดยเงินฝากที่ส่วนราชการจะนำมาฝากที่ธนาคาร จะได้รับดอกเบี้ยขั้นต่ำร้อยละ 0.75
นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) กล่าวว่า ที่ประชุมได้มอบหมายกระทรวงการคลัง เป็นตัวกลางประสานระหว่างธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ธ.ก.ส. และธนาคารออมสิน เพื่อให้ ธอส.และ ธ.ก.ส. ขอกู้เงินจากธนาคารออมสินในอัตราดอกเบี้ยต่ำ ซึ่งก่อนหน้านี้เคยมีแนวคิดนี้มาแล้ว แต่ยังไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะที่ผ่านมา ออมสินไม่ลดดอกเบี้ยให้ แต่นโยบายนี้รัฐบาลต้องการให้ทั้ง 2 ธนาคารแบ่งเบาภาระตรึงอัตราดอกเบี้ยและลดดอกเบี้ยให้กับเกษตรกรได้ตามความเหมาะสมนอกจากนี้ยังมอบหมายให้กระทรวงการคลัง พิจารณาแนวทางที่จะนำเงินกองทุนต่างๆ ออกมาหมุนเวียนให้เกิดประโยชน์กับทุกฝ่าย และให้องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพฯ (ขสมก.) ไปพิจารณาเกี่ยวกับการลดค่าตั๋วรายเดือนให้ประชาชนที่มีรายได้น้อย และให้ บมจ. ปตท.ช่วย ขสมก. ในการปรับใช้เครื่องยนต์เอ็นจีวี ซึ่งจะสามารถลดต้นทุนได้วันละ 10 ล้านบาท
ภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ด้านเศรษฐกิจ โดยมี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ดำเนินมาตรการเร่งด่วน โดยดูแลราคาสินค้าเกษตรไม่ให้ตกต่ำ และลดต้นทุนของเกษตรกร โดยที่ประชุมให้เน้นดูแลผลผผลิตที่จะออกมาใน 3-6 เดือนข้างหน้า เช่น มังคุด ทุเรียน พืชพลังงาน กุ้ง และไก่ โดยอนุมัติงบประมาณ 50 ล้านบาท ในการกระจายสินค้าผลไม้ไปทั่วประเทศ ส่วนสับปะรดที่ยังมีปริมาณเกินความต้องการของตลาด 200,000 ตัน จะร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรมดูดซับนำไปแปรรูปเป็นอาหารสัตว์ ใช้งบประมาณ 80 ล้านบาท นอกจากนี้ในด้านมาตรการลดค่าใช้จ่าย จะมีการลดดอกเบี้ยให้เกษตรกร โดยร่วมมือกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ลดดอกเบี้ยร้อยละ 1 สำหรับผู้มีหนี้ไม่เกิน 100,000 บาท 2.ลดค่าไฟฟ้าให้ภาคเกษตร โดยอาจลดลงให้เท่ากับภาคอุตสาหกรรม หรือลดลงประมาณร้อยละ 20 และกระทรวงเกษตรจะจัดทำปุ๋ยชีวภาพเพื่อแจกจ่ายให้เกษตรกรทั่วประเทศ
นายธีรพงษ์ ตั้งธีระสุนันท์ ผู้จัดการ ธ.ก.ส. กล่าวว่า ที่ประชุมมอบหมายให้ธนาคารไปศึกษาแนวทางเพื่อให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ นำเงินมาฝากกับ ธ.ก.ส. จำนวนประมาณ 20,000-30,000 ล้านบาท เพื่อชดเชยกับส่วนต่างที่ธนาคารจะลดดอกเบี้ยเพื่อลดภาระให้เกษตรกร โดยขณะนี้ธนาคารมีบัญชีลูกค้าประมาณ 2.2 ล้านครอบครัว คิดเป็นมูลค่าประมาณ 120,000 ล้านบาท และการลดดอกเบี้ยตามนโยบายคาดว่า ธนาคารจะสูญเสียดอกเบี้ยรับประมาณ 500-600 ล้านบาท ซึ่งไม่น่าจะมีปัญหาอะไร โดยเงินฝากที่ส่วนราชการจะนำมาฝากที่ธนาคาร จะได้รับดอกเบี้ยขั้นต่ำร้อยละ 0.75
นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) กล่าวว่า ที่ประชุมได้มอบหมายกระทรวงการคลัง เป็นตัวกลางประสานระหว่างธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ธ.ก.ส. และธนาคารออมสิน เพื่อให้ ธอส.และ ธ.ก.ส. ขอกู้เงินจากธนาคารออมสินในอัตราดอกเบี้ยต่ำ ซึ่งก่อนหน้านี้เคยมีแนวคิดนี้มาแล้ว แต่ยังไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะที่ผ่านมา ออมสินไม่ลดดอกเบี้ยให้ แต่นโยบายนี้รัฐบาลต้องการให้ทั้ง 2 ธนาคารแบ่งเบาภาระตรึงอัตราดอกเบี้ยและลดดอกเบี้ยให้กับเกษตรกรได้ตามความเหมาะสมนอกจากนี้ยังมอบหมายให้กระทรวงการคลัง พิจารณาแนวทางที่จะนำเงินกองทุนต่างๆ ออกมาหมุนเวียนให้เกิดประโยชน์กับทุกฝ่าย และให้องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพฯ (ขสมก.) ไปพิจารณาเกี่ยวกับการลดค่าตั๋วรายเดือนให้ประชาชนที่มีรายได้น้อย และให้ บมจ. ปตท.ช่วย ขสมก. ในการปรับใช้เครื่องยนต์เอ็นจีวี ซึ่งจะสามารถลดต้นทุนได้วันละ 10 ล้านบาท