รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์เดินหน้ารณรงค์ไม่ใช้สินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ และมั่นใจปีนี้สินค้าละเมิดลิขสิทธิ์จะน้อยลง โดยในช่วง 4 เดือนแรก (ม.ค.-เม.ย.) จับกุมผู้ต้องหาได้ 281 คน ยึดของกลางได้กว่า 62,000 ชิ้น

นายปรีชา เลาหพงศ์ชนะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังร่วมกับศิลปินและเจ้าของลิขสิทธิ์เพลงต่างๆ เดินรณรงค์ที่ห้างสรรพสินค้าพันธุ์ทิพย์ พลาซ่า เพื่อต้องการให้ประชาชนไม่ซื้อ ไม่ขาย ไม่ใช้ของปลอม ว่าการมารณรงค์ครั้งนี้เพื่อต้องการตอกย้ำ หลังจากหลายฝ่ายทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงห้างสรรพสินค้าต่างๆ ร่วมมือกับภาครัฐไม่ขายสินค้าเถื่อน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องหมายการค้าและการละเมิดลิขสิทธิ์ต่างๆ และตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นไป เนื่องจากในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี และเป็นช่วงที่พระราชอาคันตุกะ รวมถึงประมุขแต่ละประเทศจะเดินทางมาประเทศไทย ทำให้ประเทศไทยต้องร่วมมือกันลดปัญหาการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาในรูปแบบต่างๆ ให้น้อยลง และที่ผ่านมาการแก้ไขปัญหาการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาป้องกันและปราบปรามได้อย่างดี แต่ส่วนสำคัญขึ้นอยู่กับประชาชนผู้ใช้จะต้องตระหนักให้ใช้ของถูกกฎหมายไม่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งความร่วมมือครั้งนี้จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนนี้เป็นต้นไป
“ครั้งนี้นำคณะมารณรงค์ที่ห้างพันธุ์ทิพย์ พลาซ่า และเป็นสิ่งที่น่าดีใจที่เจ้าของห้างสรรพสินค้าให้ความร่วมมือและยกเลิกร้านค้าที่ขายเทปเถื่อนในห้าง 4-5 ร้านแล้ว ซึ่งมาตรการครั้งใหม่ เจ้าหน้าที่จะแจ้งเตือน หากพบร้านค้าใดจำหน่ายของละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ในขั้นแรกจะแจ้งเตือนและหากยังฝ่าฝืนก็จะดำเนินคดีทางกฎหมายทั้งทางแพ่งและอาญาต่อร้านค้าและเจ้าของห้างสรรพสินค้า” นายปรีชา กล่าว
นอกจากนี้ การที่ไทยเดินหน้าเร่งป้องกันและปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาในรูปแบบต่างๆ เหตุผลอีกประการหนึ่งคือต้องการให้สหรัฐและอีกหลายประเทศเห็นความตั้งใจของประเทศไทยในการปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อประเทศไทยจะได้ไม่ถูกตัดสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (จีเอสพี) โดยสถิติการจับกุมนับตั้งแต่เดือนมกราคม-เมษายน 2549 สามารถจับกุมรวม 315 คดี ผู้ต้องหา 281 คน ยึดของกลางได้รวม 62,618 ชิ้น และเชื่อว่าปีนี้จากผลการรณรงค์น่าจะทำให้การละเมิดน้อยลงไปแน่นอน
นายปรีชา กล่าวว่า วันพรุ่งนี้ (2 มิ.ย.) กรมทรัพย์สินทางปัญญาจะหารือกับผู้บริหารบริษัท ทศภาค เกี่ยวกับลิขสิทธิ์การถ่ายทอดฟุตบอลโลก 2006 ที่ยังเป็นข้อสงสัยและหวั่นวิตกว่าจะมีการละเมิดการถ่ายทอดดังกล่าว เมื่อได้ข้อสรุปจะแถลงให้ทราบต่อไป
นายปรีชา เลาหพงศ์ชนะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังร่วมกับศิลปินและเจ้าของลิขสิทธิ์เพลงต่างๆ เดินรณรงค์ที่ห้างสรรพสินค้าพันธุ์ทิพย์ พลาซ่า เพื่อต้องการให้ประชาชนไม่ซื้อ ไม่ขาย ไม่ใช้ของปลอม ว่าการมารณรงค์ครั้งนี้เพื่อต้องการตอกย้ำ หลังจากหลายฝ่ายทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงห้างสรรพสินค้าต่างๆ ร่วมมือกับภาครัฐไม่ขายสินค้าเถื่อน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องหมายการค้าและการละเมิดลิขสิทธิ์ต่างๆ และตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นไป เนื่องจากในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี และเป็นช่วงที่พระราชอาคันตุกะ รวมถึงประมุขแต่ละประเทศจะเดินทางมาประเทศไทย ทำให้ประเทศไทยต้องร่วมมือกันลดปัญหาการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาในรูปแบบต่างๆ ให้น้อยลง และที่ผ่านมาการแก้ไขปัญหาการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาป้องกันและปราบปรามได้อย่างดี แต่ส่วนสำคัญขึ้นอยู่กับประชาชนผู้ใช้จะต้องตระหนักให้ใช้ของถูกกฎหมายไม่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งความร่วมมือครั้งนี้จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนนี้เป็นต้นไป
“ครั้งนี้นำคณะมารณรงค์ที่ห้างพันธุ์ทิพย์ พลาซ่า และเป็นสิ่งที่น่าดีใจที่เจ้าของห้างสรรพสินค้าให้ความร่วมมือและยกเลิกร้านค้าที่ขายเทปเถื่อนในห้าง 4-5 ร้านแล้ว ซึ่งมาตรการครั้งใหม่ เจ้าหน้าที่จะแจ้งเตือน หากพบร้านค้าใดจำหน่ายของละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ในขั้นแรกจะแจ้งเตือนและหากยังฝ่าฝืนก็จะดำเนินคดีทางกฎหมายทั้งทางแพ่งและอาญาต่อร้านค้าและเจ้าของห้างสรรพสินค้า” นายปรีชา กล่าว
นอกจากนี้ การที่ไทยเดินหน้าเร่งป้องกันและปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาในรูปแบบต่างๆ เหตุผลอีกประการหนึ่งคือต้องการให้สหรัฐและอีกหลายประเทศเห็นความตั้งใจของประเทศไทยในการปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อประเทศไทยจะได้ไม่ถูกตัดสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (จีเอสพี) โดยสถิติการจับกุมนับตั้งแต่เดือนมกราคม-เมษายน 2549 สามารถจับกุมรวม 315 คดี ผู้ต้องหา 281 คน ยึดของกลางได้รวม 62,618 ชิ้น และเชื่อว่าปีนี้จากผลการรณรงค์น่าจะทำให้การละเมิดน้อยลงไปแน่นอน
นายปรีชา กล่าวว่า วันพรุ่งนี้ (2 มิ.ย.) กรมทรัพย์สินทางปัญญาจะหารือกับผู้บริหารบริษัท ทศภาค เกี่ยวกับลิขสิทธิ์การถ่ายทอดฟุตบอลโลก 2006 ที่ยังเป็นข้อสงสัยและหวั่นวิตกว่าจะมีการละเมิดการถ่ายทอดดังกล่าว เมื่อได้ข้อสรุปจะแถลงให้ทราบต่อไป