"ทศภาค-เบียร์ช้าง"หวั่นกระแสข่าวลบทลายภาพลักษณ์-ปรัชญา"คนไทยให้กันได้"จูง"สนง.กม."ออกโรงแจงลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2006 ประกาศอนุโลมสถานบันเทิง,ผับ และบาร์ เปิดดูการถ่ายทอดสดได้ ระบุยกเว้นผู้ประกอบการโรงแรม โรงภาพยนต์ จัดกิจกรรม-โปรโมชัน-ผ้ายโฆษณา ต้องเสียค่าลิขสิทธิ์หรือเจรจากับบริษัทก่อน ปฏิเสธการขายพ่วงเบียร์ชี้เป็นแคขอความร่วมมือพร้อมระบุผู้ละเมิดลิขสิทธิ์จำคุก 4 ปี
นายวรวุฒิ โรจนพานิช กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทศภาค จำกัด ในฐานะผู้ได้รับลิขสิทธิ์ในการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2006 พร้อมด้วยนายรุทร ณพคุณ สำนักกฏหมายดำเนิน สมเกียรติและบุญมา ผู้ดูแลทรัพย์ทางปัญหาของฟีฟ่า ฯลฯ ได้เปิดแถลงชี้แจงร่วมกันเพื่อสร้างความชัดเจนลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก และกรณีกลุ่มทศภาคบริษัทในเครือเบียร์ช้าง ห้ามไม่ให้บรรดา ผับบาร์ ร้านอาหาร โรงแรม ฯล เผยแพร่ภาพการแข่งขันฟุตบอลโลก 2006 หากไม่ขายเบียร์ช้าง ว่า ตามหลักกฎหมายลิขสิทธิ์ว่าด้วยการใช้สัญญาณเผยแพร่ทั้งในส่วน ฟรีทีวี,เคเบิ้ลทีวี เช่น ทางยูบีซีและไทยสกาย ,ซัสเทิลไลท์ หรือจากจานดาวเทียม,ซีซีทีวีทั้งตามโรงแรม โรงภาพยนตร์ สถานบันเทิง ผับ บาร์ ฯลฯ ในการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก ต่อสาธารณเพื่อประโยชน์การค้าหรือในเชิงพาณิชย์ถือว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ทั้งหมด
อย่างไรก็ตามเพื่อให้สอดคล้องกับปรัชญาของบริษัทไทยเบฟฯ ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เหล้าขาว เบียร์ช้าง เหล้าสี ฯลฯ ภายใต้การคืนกำไรสู่สังคม “คนไทยให้กันได้” บริษัทจึงได้มีการอนุโลมให้สำหรับร้านค้า สถานบันเทิง ผับ บาร์ ให้สามารถเปิดการแข่งขันฟุตบอลโลกได้ตามปกติ โดยไม่ต้องมาขออนุญาตหรือเสียค่าลิขสิทธิ์ ยกเว้นแต่กรณีผู้ประกอบการที่มีการจัดแคมเปญโปรโมชั่น ติดป้ายโฆษณา และโปรเจคเตอร์จอยักษ์ ไม่ว่าจะเป็น การทำกลางแจ้ง โรงแรม และโรงภาพยนตร์ จะต้องเสียค่าลิขสิทธิ์หรือมาเจรจากับทางบริษัทก่อน ซึ่งหากมีการละเมิดลิขสิทธิ์ได้กำหนดบทลงโทษตามมาตรา 69 วรรค2 ว่า ในทางอาญาติดคุกตั้งแต่6เดือน-4ปี หรือปรับ 1แสนถึง 8 แสนบาท
อีกทั้งยังได้ชี้แจงกับทางผู้ประกอบการด้วยว่า ทางบริษัทไม่เคยส่งเจ้าหน้าที่ เพื่อไปเรียกเก็บค่าลิขสิทธิ์ทั้งนี้เพื่อป้องกันมิจฉาชีพ โดยบริษัทจะจัดส่งเจ้าหน้าที่หรือทีมงาน เพื่อเจรจากับผู้ประกอบการร่วมจัดกิจกรรมกับเบียร์ช้าง ซึ่งขณะนี้มีผู้ประกอบการที่เข้าร่วม 3,000 แห่ง แบ่งเป็น 3 รูปแบบ ได้แก่ ร้านค้าระดับเอ 29 แห่งในเขตกรุงเทพฯและหัวเมือง ที่สมัครใจจำหน่ายเบียร์ช้างลักษณะเอ็กซ์คูซีฟ ร้านค้าระดับบี มีขนาดเล็ก จำนวน600 แห่ง และร้านค้าระดับซีจำนวน 2,000 แห่งเป็นร้านค้าทั่วไป โดยบริษัทจะแจกสติ๊กเกอร์ให้สำหรับร้านค้าหรือผู้ประกอบการที่เข้าร่วมจัดกิจกรรมกับเบียร์ช้างเพื่อให้ความชัดเจน ในขณะที่โรงภาพยนตร์ โรงแรม หรือการจัดลานเบียร์กลางแจ้ง จะจัดติดป้ายโฆษณาภายใต้”เวิลด์คัพ ลานเบียร์ 2006” ให้เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ไปในตัว
ออกโรงไม่เคยบังคับผู้ประกอบการ
นายสมชัย สุทธิกุลพานิช รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท ไทย เบฟเวอเรจ มาร์เก็ตติ้ง กล่าวเสริมว่า บริษัทไม่เคยบังคับให้ร้านค้าหรือผู้ประกอบการต้องขายเฉพาะเบียร์ช้างยี่ห้อเดียว แต่เป็นการขอความร่วมมือให้ช่วยเชียร์สินค้าหรือนำเบียร์ช้างเข้าไปขายมากกว่า เพราะทศภาคได้ทุ่มงบ 300 ล้านบาท ในการซื้อลิขสิทธิ์ในการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2006 ซึ่งขณะนี้รายได้จากการขายโฆษณาถ่ายทอดสดต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้ โดยขายได้ต่ำกว่า 200 ล้านบาท บริษัทจึงอยากขอความร่วมมือกับทางร้านค้าหรือผู้ประกอบการ โดยขณะนี้มีบริษัทไทยเบฟเป็นสปอนเซอร์ใหญ่ทุ่มงบไปถึง 250 ล้านบาท
“การที่กรมการค้าภายในมองว่าเบียร์ช้างทำผิดพรบ.การแข่งขันทางการค้านั้น คงเป็นเรื่องเข้าใจผิดและเท่าที่ทราบยังไม่ได้มีเจ้าหน้าที่หรือหนังสือจากกรมการค้าภายใน ส่งมายังทศภาคเพื่อให้เข้าไปชี้แจงตามที่เป็นข่าวแต่ประการใด นอกจากนี้ที่ผ่านมาการได้รับลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลกบริษัทยังมีความชัดเจน และมีความระมัดระวังในการใช้สิทธิ์ ซึ่งจะสังเกตได้ว่าแม้แต่การทำภาพยนตร์โฆษณา หรือป้ายโฆษณาบริษัทจะไม่ใช้คำว่าเวิลด์คัพ หรือ ฟุตบอลโลก และกระทั่งถ้วยฟุตบอลโลก” นายสมชัย กล่าว
นายวรวุฒิ โรจนพานิช กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทศภาค จำกัด ในฐานะผู้ได้รับลิขสิทธิ์ในการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2006 พร้อมด้วยนายรุทร ณพคุณ สำนักกฏหมายดำเนิน สมเกียรติและบุญมา ผู้ดูแลทรัพย์ทางปัญหาของฟีฟ่า ฯลฯ ได้เปิดแถลงชี้แจงร่วมกันเพื่อสร้างความชัดเจนลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก และกรณีกลุ่มทศภาคบริษัทในเครือเบียร์ช้าง ห้ามไม่ให้บรรดา ผับบาร์ ร้านอาหาร โรงแรม ฯล เผยแพร่ภาพการแข่งขันฟุตบอลโลก 2006 หากไม่ขายเบียร์ช้าง ว่า ตามหลักกฎหมายลิขสิทธิ์ว่าด้วยการใช้สัญญาณเผยแพร่ทั้งในส่วน ฟรีทีวี,เคเบิ้ลทีวี เช่น ทางยูบีซีและไทยสกาย ,ซัสเทิลไลท์ หรือจากจานดาวเทียม,ซีซีทีวีทั้งตามโรงแรม โรงภาพยนตร์ สถานบันเทิง ผับ บาร์ ฯลฯ ในการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก ต่อสาธารณเพื่อประโยชน์การค้าหรือในเชิงพาณิชย์ถือว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ทั้งหมด
อย่างไรก็ตามเพื่อให้สอดคล้องกับปรัชญาของบริษัทไทยเบฟฯ ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เหล้าขาว เบียร์ช้าง เหล้าสี ฯลฯ ภายใต้การคืนกำไรสู่สังคม “คนไทยให้กันได้” บริษัทจึงได้มีการอนุโลมให้สำหรับร้านค้า สถานบันเทิง ผับ บาร์ ให้สามารถเปิดการแข่งขันฟุตบอลโลกได้ตามปกติ โดยไม่ต้องมาขออนุญาตหรือเสียค่าลิขสิทธิ์ ยกเว้นแต่กรณีผู้ประกอบการที่มีการจัดแคมเปญโปรโมชั่น ติดป้ายโฆษณา และโปรเจคเตอร์จอยักษ์ ไม่ว่าจะเป็น การทำกลางแจ้ง โรงแรม และโรงภาพยนตร์ จะต้องเสียค่าลิขสิทธิ์หรือมาเจรจากับทางบริษัทก่อน ซึ่งหากมีการละเมิดลิขสิทธิ์ได้กำหนดบทลงโทษตามมาตรา 69 วรรค2 ว่า ในทางอาญาติดคุกตั้งแต่6เดือน-4ปี หรือปรับ 1แสนถึง 8 แสนบาท
อีกทั้งยังได้ชี้แจงกับทางผู้ประกอบการด้วยว่า ทางบริษัทไม่เคยส่งเจ้าหน้าที่ เพื่อไปเรียกเก็บค่าลิขสิทธิ์ทั้งนี้เพื่อป้องกันมิจฉาชีพ โดยบริษัทจะจัดส่งเจ้าหน้าที่หรือทีมงาน เพื่อเจรจากับผู้ประกอบการร่วมจัดกิจกรรมกับเบียร์ช้าง ซึ่งขณะนี้มีผู้ประกอบการที่เข้าร่วม 3,000 แห่ง แบ่งเป็น 3 รูปแบบ ได้แก่ ร้านค้าระดับเอ 29 แห่งในเขตกรุงเทพฯและหัวเมือง ที่สมัครใจจำหน่ายเบียร์ช้างลักษณะเอ็กซ์คูซีฟ ร้านค้าระดับบี มีขนาดเล็ก จำนวน600 แห่ง และร้านค้าระดับซีจำนวน 2,000 แห่งเป็นร้านค้าทั่วไป โดยบริษัทจะแจกสติ๊กเกอร์ให้สำหรับร้านค้าหรือผู้ประกอบการที่เข้าร่วมจัดกิจกรรมกับเบียร์ช้างเพื่อให้ความชัดเจน ในขณะที่โรงภาพยนตร์ โรงแรม หรือการจัดลานเบียร์กลางแจ้ง จะจัดติดป้ายโฆษณาภายใต้”เวิลด์คัพ ลานเบียร์ 2006” ให้เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ไปในตัว
ออกโรงไม่เคยบังคับผู้ประกอบการ
นายสมชัย สุทธิกุลพานิช รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท ไทย เบฟเวอเรจ มาร์เก็ตติ้ง กล่าวเสริมว่า บริษัทไม่เคยบังคับให้ร้านค้าหรือผู้ประกอบการต้องขายเฉพาะเบียร์ช้างยี่ห้อเดียว แต่เป็นการขอความร่วมมือให้ช่วยเชียร์สินค้าหรือนำเบียร์ช้างเข้าไปขายมากกว่า เพราะทศภาคได้ทุ่มงบ 300 ล้านบาท ในการซื้อลิขสิทธิ์ในการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2006 ซึ่งขณะนี้รายได้จากการขายโฆษณาถ่ายทอดสดต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้ โดยขายได้ต่ำกว่า 200 ล้านบาท บริษัทจึงอยากขอความร่วมมือกับทางร้านค้าหรือผู้ประกอบการ โดยขณะนี้มีบริษัทไทยเบฟเป็นสปอนเซอร์ใหญ่ทุ่มงบไปถึง 250 ล้านบาท
“การที่กรมการค้าภายในมองว่าเบียร์ช้างทำผิดพรบ.การแข่งขันทางการค้านั้น คงเป็นเรื่องเข้าใจผิดและเท่าที่ทราบยังไม่ได้มีเจ้าหน้าที่หรือหนังสือจากกรมการค้าภายใน ส่งมายังทศภาคเพื่อให้เข้าไปชี้แจงตามที่เป็นข่าวแต่ประการใด นอกจากนี้ที่ผ่านมาการได้รับลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลกบริษัทยังมีความชัดเจน และมีความระมัดระวังในการใช้สิทธิ์ ซึ่งจะสังเกตได้ว่าแม้แต่การทำภาพยนตร์โฆษณา หรือป้ายโฆษณาบริษัทจะไม่ใช้คำว่าเวิลด์คัพ หรือ ฟุตบอลโลก และกระทั่งถ้วยฟุตบอลโลก” นายสมชัย กล่าว