ผู้บริหารแบงก์กรุงเทพเรียกร้องให้ทั้งภาครัฐและเอกชนเร่งปรับตัวรับมือกับภาวะความผันผวนของเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลก รวมทั้งสร้างความสามารถในการแข่งขัน โดยปัจจัยเสี่ยงของเศรษฐกิจล้วนเหมือนกันทั่วโลก ทั้งราคาน้ำมัน อัตราเงินเฟ้อ อัตราแลกเปลี่ยน และอัตราดอกเบี้ย ประเมินเศรษฐกิจไทยปีนี้ยังเติบโตได้ร้อยละ 4-4.5
นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวเรียกร้องให้ทุกฝ่ายทั้งภาครัฐและเอกชนเร่งปรับตัวเพื่อรับมือกับภาวะความผันผวนของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทย อย่างไรก็ตาม ความผันผวนดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะประเทศไทยเท่านั้น แต่เกิดขึ้นกับทุกประเทศ เพราะแต่ละประเทศเผชิญปัจจัยเสี่ยงเหมือนกันไม่ว่าจะเป็นราคาน้ำมัน อัตราเงินเฟ้อ อัตราแลกเปลี่ยน และอัตราดอกเบี้ย ดังนั้น ภาคเอกชนไทยจะต้องเร่งปรับตัวลดต้นทุน เน้นแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งจากการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจไตรมาสแรกปีนี้ ถือว่าดีกว่าที่คาดไว้ โดยได้รับอานิสงส์จากภาคการส่งออกที่ขยายตัวสูง ดังนั้น ธนาคารกรุงเทพเชื่อว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้จะยังคงเติบโตร้อยละ 4-4.5
ส่วนกรณีที่รัฐบาลจะเริ่มกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการเร่งใช้จ่ายงบประมาณ นายโฆสิต กล่าวว่า เป็นเรื่องที่จะมีผลทำให้เศรษฐกิจเติบโต แต่ไม่ได้หมายความว่าการเติบโตของเศรษฐกิจจะไม่ล้มเหลว เพราะเป็นคนละเรื่อง จะเห็นได้จากสหรัฐ ซึ่งเคยมีการเติบโตทางเศรษฐกิจสูง แต่ล้มเหลวในหลายเรื่อง โดยเฉพาะความสามารถในการแข่งขัน อย่างไรก็ตาม เห็นว่าความไม่สงบในบ้านเมืองส่งผลกระทบอาจทำให้ประเทศเสียโอกาส ซึ่งสถานการณ์เศรษฐกิจไทยขณะนี้เข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจที่มีความเสี่ยงสูง ดังนั้น ทุกภาคส่วนจะต้องเน้นการปรับตัว ไม่เช่นนั้นจะแข่งขันไม่ได้และมีผลต่อภาพรวมเศรษฐกิจระยะยาว
ทั้งนี้ ธนาคารกรุงเทพได้ร่วมกับกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สถาบันไทย-เยอรมัน สมาคมเครื่องจักรกลไทย แ ละชมรมบัวหลวงเอสเอ็มอี จัดสัมมนาสร้างรากฐานอุตสาหกรรมเอสเอ็มอีให้ลูกค้าเอสเอ็มอีของธนาคารได้ทราบแนวโน้มเศรษฐกิจ และเห็นความสำคัญของการปรับตัว สร้างความสามารถในการแข่งขัน
นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวเรียกร้องให้ทุกฝ่ายทั้งภาครัฐและเอกชนเร่งปรับตัวเพื่อรับมือกับภาวะความผันผวนของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทย อย่างไรก็ตาม ความผันผวนดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะประเทศไทยเท่านั้น แต่เกิดขึ้นกับทุกประเทศ เพราะแต่ละประเทศเผชิญปัจจัยเสี่ยงเหมือนกันไม่ว่าจะเป็นราคาน้ำมัน อัตราเงินเฟ้อ อัตราแลกเปลี่ยน และอัตราดอกเบี้ย ดังนั้น ภาคเอกชนไทยจะต้องเร่งปรับตัวลดต้นทุน เน้นแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งจากการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจไตรมาสแรกปีนี้ ถือว่าดีกว่าที่คาดไว้ โดยได้รับอานิสงส์จากภาคการส่งออกที่ขยายตัวสูง ดังนั้น ธนาคารกรุงเทพเชื่อว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้จะยังคงเติบโตร้อยละ 4-4.5
ส่วนกรณีที่รัฐบาลจะเริ่มกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการเร่งใช้จ่ายงบประมาณ นายโฆสิต กล่าวว่า เป็นเรื่องที่จะมีผลทำให้เศรษฐกิจเติบโต แต่ไม่ได้หมายความว่าการเติบโตของเศรษฐกิจจะไม่ล้มเหลว เพราะเป็นคนละเรื่อง จะเห็นได้จากสหรัฐ ซึ่งเคยมีการเติบโตทางเศรษฐกิจสูง แต่ล้มเหลวในหลายเรื่อง โดยเฉพาะความสามารถในการแข่งขัน อย่างไรก็ตาม เห็นว่าความไม่สงบในบ้านเมืองส่งผลกระทบอาจทำให้ประเทศเสียโอกาส ซึ่งสถานการณ์เศรษฐกิจไทยขณะนี้เข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจที่มีความเสี่ยงสูง ดังนั้น ทุกภาคส่วนจะต้องเน้นการปรับตัว ไม่เช่นนั้นจะแข่งขันไม่ได้และมีผลต่อภาพรวมเศรษฐกิจระยะยาว
ทั้งนี้ ธนาคารกรุงเทพได้ร่วมกับกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สถาบันไทย-เยอรมัน สมาคมเครื่องจักรกลไทย แ ละชมรมบัวหลวงเอสเอ็มอี จัดสัมมนาสร้างรากฐานอุตสาหกรรมเอสเอ็มอีให้ลูกค้าเอสเอ็มอีของธนาคารได้ทราบแนวโน้มเศรษฐกิจ และเห็นความสำคัญของการปรับตัว สร้างความสามารถในการแข่งขัน