สถานการณ์การเมืองและพิษเศรษฐกิจทำอิมแพกชะลอแผนลงทุน ระบุขอลุ้นการเมืองก่อนวางโปรเจคใหญ่ เอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ โรงแรม และรถโมโนเรล เผยไม่ชัวร์ไม่ลงทุน ส่วนเรื่องการเข้าตลาดหลักทรัพย์กำลังอยู่ระหว่างการศึกษา แต่จะต้องได้ราคาหุ้นที่พอใจ และระดมเงินได้มากพอที่จะลงทุนโครงการใหม่ ส่วนแผนบริหารพื้นที่หลังเปิดชาร์เรนเจอร์ฮอลล์เตรียมเพิ่มการจัดงานเองมากขึ้น ตั้งเป้าสิ้นปีรายได้เติบโต 30-40%
นายพอลล์ กาญจนพาสน์ กรรมการผู้จัดการ อิมแพกเอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้น จำกัด ผู้บริหารอิมแพก เปิดเผยว่า บริษัทได้ปรับแผนการลงทุนออกไปเล็กน้อย โดยจากที่กำหนดต้องลงทุนสร้างโรงแรมในปลายปีนี้จะเลื่อนออกไปเป็นปีหน้า สาเหตุมาจากปัญหาเศรษฐกิจในปัจจุบัน เช่น ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นได้ส่งผลสินค้าปรับราคา ต้นทุนการก่อสร้างก็เพิ่มขึ้น ขณะที่คนชะลอกับจับจ่าย หลายโครงการที่มีแผนการเช่าพื้นที่จัดงาน โดยเฉพาะหน่วยงานของรัฐต้องชะลอออกไปอย่างไม่มีกำหนด ทำให้บริษัทต้องทบทวนการลงทุน คือต้องแน่ใจก่อนตัดสินใจลงทุน
"ตอนนี้บริษัทเพิ่งลงทุนสร้างและเปิดตัวชาร์เรนเจอร์ ฮอลล์มาได้ไม่นาน ตรงนี้ทำให้บริษัทมีภาระหนี้สินค่าก่อสร้างอยู่บ้าง จึงอยากเคลียร์ให้หมด ก่อนเริ่มโครงการต่อๆไป ขณะเดียวกันก็ต้องมาคิดให้รอบคอบว่า จะสร้างโรงแรมเพียงอย่างเดียว หรือจะทำเป็นศูนย์เอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ครบวงจร เพื่อรองรับลูกค้าที่อยู่ในโครงการทั้งหมด รวมถึงเรื่องขนาดโครงการว่าแค่ไหนจึงเหมาะสม ทั้งหมดเป็นเหตุผลที่ทำให้เราต้องชะลอโครงการ แต่ยืนยันแน่นอนว่าจะต้องทำ"
เร่งศึกษาเข้าตลาดหลักทรัพย์
สำหรับเรื่องการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์บริษัทยังสนใจและกำลังศึกษาดูอยู่เช่นกัน เพราะส่วนหนึ่งบริษัทก็ต้องการระดมเงินเพื่อมาใช้ในการลงทุน ส่วนจำนวนเงินที่ต้องการได้จากการระดมทุนครั้งนี้ก็ต้องมากพอที่จะสร้างโครงการใหม่ๆได้ แต่ทั้งนี้ที่ผ่านมาบริษัทที่ปรึกษายังมองว่ายังไม่ควรรีบเข้าตลาดฯในตอนนี้ เนื่องจากสถานการณ์ตลาดฯยังไม่เอื้อ ประกอบกับมูลค่าทรัพย์สินและการประเมินรายได้ในอนาคต ยังไม่มากพอ ทำให้ราคาหุ้นที่เหมาะสมหากเข้าตลาดฯในช่วงนี้ ยังไม่เป็นที่พอใจของบริษัท เพราะถ้าได้ราคาที่พอใจเมื่อใดก็จะตัดสินใจเข้าตลาดทันที ซึ่งขณะนี้บริษัทที่ก็เร่งสร้างมูลค่าให้เกิดแก่ทรัพย์สินที่มีอยู่ โดยเฉพาะตัวศูนย์ประชุมอิมแพก ทีเพิ่มในส่วนของพื้นที่ชาร์เรนเจอร์ฮอลล์เข้ามา ตรงนี้จะเป็นแหล่งสร้างรายได้ของบริษัท หากมีงานเข้ามามากๆ ก็สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ประเมินได้
อย่างไรก็ตามปีนี้สัดส่วนการใช้พื้นที่ของอิมแพกตลอดทั้งปีเฉลี่ยที่ 60-70% และเมื่อเพิ่มพื้นที่ชาร์เรนเจอร์ฮอลล์ มาอีก 60,000 ตร.ม. จากพื้นที่เดิมที่มีอยู่แล้วในอิมแพกที่ 70,000 ตร.ม. จะทำให้สัดส่วนการใช้พื้นที่ อาจเพิ่มได้เป็น 75-80% มีรายได้รวมทั้งปีเติบโต 30-40% จากเดิมที่จะโตปีละ 10-20% และยังมีศักยภาพรับงานได้อีกจำนวนมาก
สร้างงานใหม่เพิ่มรายได้
ขณะเดียวกัน บริษัทได้เพิ่มสัดส่วนงานที่ทางศูนย์การประชุมฯ อิมแพก เมืองทองธานีเป็นผู้จัดเอง อีก 3-4 งาน ซึ่งจะทำให้ จำนวนงาน ที่อิมแพกเป็นผู้จัดเองในปีนี้จะเพิ่มเป็น 8-9 งานไม่น้อยกว่านั้น ทำให้สัดส่วนรายได้เปลี่ยนจากเดิม ที่บริษัท มีรายได้จากการเช่าพื้นที่ 90-95% และ อีก 5-10% เป็นรายได้จากการที่บริษัทเป็นผู้จัดงานเอง ป็น รายได้จากการเช่าพื้นที่ แต่ปีนี้จะเป็น รายได้จากการเช่าพื้นที่ 80% และ รายได้จากการเป็นผู้จัดงานเอง 20%
ล่าสุดเดือนมิถุนายน เตรียมจัดงาน ด๊อกโชว์ และ งาน งานคอนเสิร์ต ที่จะมีขึ้นในวันที่ 28 มิ.ย.49 และ ในเดือน ก.ค.49 เตรียมจัดงานสวนสนุก อินดอร์ โดยจะนำเครื่องเล่นจากต่างประเทศ หลากหลายชนิด มาจัดงานแสดง ให้ประชาชนเข้ามาเที่ยวชม และเล่นของเล่นต่างๆ
"ก่อนหน้านี้ อิมแพกเคยมี มหกรรมเครื่องเล่นสวนสนุก แต่จัดแบบเอาท์ดอร์ แต่ครั้งนี้จะเป็นสวนสนุกรูปแบบใหม่ที่จัดขึ้นในร่ม และเป็นเครื่องเล่นแบบใหม่ ที่เรานำเข้ามาจากต่างประเทศ จึงเป็นอีกหนึ่งงานที่น่าจะได้รับความสนใจจากคนไทย โดยเฉพาะกลุ่มครอบครัว และคนรุ่นใหม่"
เล็งลงทุนโมโนเรลรับเมกกะโปรเจค
อย่างไรก็ตาม นายพอลล์ ได้ กล่าวถึงแผนในอนาคต ที่เตรียมรองรับโครงการของรัฐบาล ทั้ง โครงการศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ และโครงการรถไฟฟ้า ที่ในแผนงาน จะมีสถานีรถไฟฟ้าที่หน้าเมืองทองธานี ดังนั้น เราจะลงทุน โมโนเรล เป็นกระเช้า เข้ามาถึงโครงการศูนย์ประชุม และ บริเวณอาคารพักอาศัย ของเมืองทองธานี ซึ่งหากมีดีมานด์ เรื่องที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น จากการขยายส่วนราชการมาไว้แจ้งวัฒนะ เราก็พร้อมที่จะลงทุน ด้านที่อยู่อาศัยเพิ่มเติม เพราะยังมีที่ดินรอบโครงการเหลืออีกจำนวนมาก แต่ทั้งนี้ต้องแน่ใจและเห็นของจริงก่อนว่า รัฐบาลได้ทำแล้ว
"จากสถานการณ์ทางการเมืองขณะนี้ มองว่า ทุกอย่างต้องเลื่อนออกไปหมด อย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 6 เดือน โดยเฉพาะโครงการขนาดใหญ่ ที่ต้องเสนอของบประมาณจำนวนมาก เพราะต้องนี้รัฐบาลรักษาการไม่อาจพิจารณาได้ ขณะเดียวกันหากเลือกตั้งใหม่ เป็นรัฐบาลชุดใหม่ ก็ต้องมีนโยบายใหม่ จึงทำให้เราต่อเฝ้าระวังและติดตามอย่างใกล้ชิด" นายพอลล์ กล่าว