“วราเทพ” เตรียมแจ้งทุกกระทรวงให้เบิกจ่ายงบเมกะโปรเจกต์รอบแรกที่ไม่เกี่ยวข้องกับโครงการ “โมเดิร์นไนเซชั่น” ของรัฐบาลออกใช้ดำเนินการก่อน คาดจะมีเม็ดเงินในส่วนนี้เข้าสู่ระบบอีกประมาณ 4-5 หมื่นล้านบาท ระบุการจัดทำงบประมาณปี 2550 หากการจัดตั้งรัฐบาลล่าช้าจนถึงไตรมาส 1 ปีหน้า อาจทำให้เกิดปัญหาได้
นายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงข้อวิตกกังวลเรื่องการจัดทำงบประมาณปี 2550 ที่อาจจะมีความล่าช้า เนื่องจากยังไม่มีการเลือกตั้งว่า นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้กำชับให้กระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณ ดูแลการจัดทำงบประมาณปี 2550 ซึ่งก่อนหน้านี้คาดว่า จะมีการจัดตั้งรัฐบาลหลังเดือนพฤษภาคมประมาณ 1-2 เดือน แต่เมื่อเหตุการณ์เปลี่ยนไป โดยอาจจะมีการเลือกตั้งในเดือนตุลาคม หรือมีการจัดตั้งรัฐบาลล่าช้าออไปอีก 3 เดือน ดังนั้นคงต้องมีการหารือร่วมกันเพื่อหาทางเร่งรัดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบราชการให้เร็วขึ้น แต่การจัดตั้งรัฐบาลที่ล่าช้าออกไปอีก 3 เดือน ยังสามารถบรรเทาผลกระทบได้ เพราะสามารถใช้งบเหลื่อมปีของปี 2550 ได้ รวมทั้งสามารถเบิกจ่ายได้ตามกรอบที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะงบประจำ เงินเดือน จะไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน ขณะที่ในส่วนงบลงทุน กฎหมายได้เปิดช่องให้ใช้งบผูกพันปี 2549 ได้
อย่างไรก็ตาม หากว่าการจัดตั้งรัฐบาลล่าช้าไปจนถึงไตรมาส 1 ของปี 2550 นายวราเทพยอมรับว่า จะมีความน่าเป็นห่วงพอสมควร และคงต้องหารือในระดับนโยบายกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกครั้งว่า อาจจะต้องทยอยใช้งบประมาณเดิมไปก่อนเท่าที่จำเป็น ส่วนงบการลงทุนใหม่ ๆ คงต้องรอการพิจารณาอีกครั้ง โดยวันที่ 23 พฤษภาคมนี้ นายทนง พิทยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จะเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหารือการจัดทำงบประมาณต่อไป
ส่วนกรณีที่หน่วยราชการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2549 ล่าช้า นายวราเทพ กล่าวว่า ในส่วนงบประจำการเบิกจ่ายยังเป็นไปตามปกติ แต่สำหรับงบลงทุนที่ต้องเร่งการเบิกจ่ายให้ได้ร้อยละ 73 ยอมรับว่าบางส่วนงานยังมีความล่าช้าอยู่ เพราะรัฐบาลมีการปรับระบบการประมูลงานเป็นแบบอี-ออคชั่น ซึ่งบางส่วนราชการในท้องถิ่นมีผู้ประมูลไม่มาก และวงเงินต่ำกว่า 2 ล้านบาท ซึ่งก็จะมีมาตรการยืดหยุ่นผ่อนปรนให้กับหน่วยราชการเหล่านี้ ให้สามารถเบิกจ่ายงบประมาณที่ใช้ในการประมูลได้มากขึ้น
นอกจากนี้เม็ดเงินในโครงการเมกะโปรเจกต์บางหน่วยราชการยังไม่ได้เบิกจ่ายงบประมาณออกมาใช้ เนื่องจากต้องรอรัฐบาลชุดใหม่ และรอการดำเนินการควบคู่ไปกับการสร้างประเทศไทยให้ทันสมัย (โมเดิร์นไนเซชั่น) ซึ่งสำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และกระทรวงการคลัง จะนำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันอังคารนี้ เพื่อแจ้งให้กระทรวงที่มีงบประมาณในโครงการเมกะโปรเจกต์ในปี 2549 ทราบว่า หากโครงการใดไม่จำเป็นต้องผูกพันกับโครงการโมเดิร์นไนเซชั่น ก็สามาถเบิกจ่ายงบสำหรับโครงการเมกะโปรเจกต์ได้ทันที โดยจะมีเม็ดเงินออกมาจากส่วนนี้อีกไม่ต่ำกว่า 40,000-50,000 ล้านบาท