กอน.เร่งเคลียร์ปัญหากลุ่มวังขนายติดหนี้ค่าอ้อยต่อชาวไร่ กำหนด 3 แนวทางทั้งวอนแบงก์กรุงเทพปล่อยแพกกิ้งเครดิต กลุ่มวังขนายเตรียมนำเงินส่งออกน้ำตาลมาจ่ายหนี้ และหักคอนำเงินส่วนต่างน้ำตาล 3 บาท/ กก.มาจ่ายหนี้ ขณะที่ธนาคารกรุงเทพยังไม่รับปากว่าจะปล่อยกู้เพิ่มหรือไม่
นายดำริ สุโขธนัง รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (กอน.) เปิดเผยว่า จากการหารือร่วมกับธนาคารกรุงเทพ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ตัวแทนกลุ่มวังขนายและชาวไร่อ้อย กรณีที่กลุ่มวังขนาย ติดหนี้ค่าอ้อยขั้นต้นชาวไร่อ้อยเขตลพบุรีและชาวไร่อ้อยเขต 7 เป็นมูล 200-300 ล้านบาท ทางกลุ่มวังขนายได้ชี้แจงว่า ติดปัญหาเรื่องขาดสภาพคล่องทางการเงิน เพราะทางธนาคารกรุงเทพยังไม่ได้ปล่อยเงินกู้เพิ่มในส่วนของแพคกิ้งเครดิตที่โรงงานควรได้เพิ่มหลังรัฐบาลอนุมัติปรับขึ้นราคาน้ำตาลทราย 3 บาทต่อกิโลกรัม โดยที่ประชุมวันนี้ได้ขอให้ธนาคารกรุงเทพพิจารณาปล่อยกู้เพิ่ม แต่ทางธนาคารระบุว่า กลุ่มวังขนายอยู่ในแผนปรับโครงสร้างหนี้ หากปล่อยเพิ่มก็ยังติดกรอบการควบคุมการปล่อยกู้ของ ธปท. อย่างไรก็ตาม ตัวแทนจะนำไปหารือกับคณะกรรมการธนาคารกรุงเทพเสียก่อนว่าจะเห็นชอบหรือไม่
นายดำริ กล่าวว่า แต่หากธนาคารกรุงเทพไม่สามารถปล่อยกู้เพิ่มได้ ทางกลุ่มวังขนายก็ระบุว่าจะหาทางนำเงินจากการส่งออกน้ำตาลทรายที่คาดว่าจะได้ในเร็วๆ นี้มาจ่ายเงินค่าอ้อย แต่หากยังไม่ได้เงินส่วนนี้อีก ทาง กอน.ก็จะเข้าไปใช้วิธีการนำเงินส่วนต่างที่โรงงานจะได้รับเพิ่ม 3 บาทต่อกิโลกรัมมาจ่ายตรงแก่ชาวไร่
“ขอยืนยันว่าโรงงานน้ำตาลอื่นๆ ไม่ได้มีปัญหา มีเพียงกลุ่มวังขนายที่ติดขัดสภาพคล่องทางการเงินเท่านั้น โดย กอน.จะประชุมวันจันทร์ที่ 22 พ.ค.นี้ว่าจะลงโทษกลุ่มวังขนายอย่างไร” นายดำริ กล่าว
นายดำริ สุโขธนัง รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (กอน.) เปิดเผยว่า จากการหารือร่วมกับธนาคารกรุงเทพ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ตัวแทนกลุ่มวังขนายและชาวไร่อ้อย กรณีที่กลุ่มวังขนาย ติดหนี้ค่าอ้อยขั้นต้นชาวไร่อ้อยเขตลพบุรีและชาวไร่อ้อยเขต 7 เป็นมูล 200-300 ล้านบาท ทางกลุ่มวังขนายได้ชี้แจงว่า ติดปัญหาเรื่องขาดสภาพคล่องทางการเงิน เพราะทางธนาคารกรุงเทพยังไม่ได้ปล่อยเงินกู้เพิ่มในส่วนของแพคกิ้งเครดิตที่โรงงานควรได้เพิ่มหลังรัฐบาลอนุมัติปรับขึ้นราคาน้ำตาลทราย 3 บาทต่อกิโลกรัม โดยที่ประชุมวันนี้ได้ขอให้ธนาคารกรุงเทพพิจารณาปล่อยกู้เพิ่ม แต่ทางธนาคารระบุว่า กลุ่มวังขนายอยู่ในแผนปรับโครงสร้างหนี้ หากปล่อยเพิ่มก็ยังติดกรอบการควบคุมการปล่อยกู้ของ ธปท. อย่างไรก็ตาม ตัวแทนจะนำไปหารือกับคณะกรรมการธนาคารกรุงเทพเสียก่อนว่าจะเห็นชอบหรือไม่
นายดำริ กล่าวว่า แต่หากธนาคารกรุงเทพไม่สามารถปล่อยกู้เพิ่มได้ ทางกลุ่มวังขนายก็ระบุว่าจะหาทางนำเงินจากการส่งออกน้ำตาลทรายที่คาดว่าจะได้ในเร็วๆ นี้มาจ่ายเงินค่าอ้อย แต่หากยังไม่ได้เงินส่วนนี้อีก ทาง กอน.ก็จะเข้าไปใช้วิธีการนำเงินส่วนต่างที่โรงงานจะได้รับเพิ่ม 3 บาทต่อกิโลกรัมมาจ่ายตรงแก่ชาวไร่
“ขอยืนยันว่าโรงงานน้ำตาลอื่นๆ ไม่ได้มีปัญหา มีเพียงกลุ่มวังขนายที่ติดขัดสภาพคล่องทางการเงินเท่านั้น โดย กอน.จะประชุมวันจันทร์ที่ 22 พ.ค.นี้ว่าจะลงโทษกลุ่มวังขนายอย่างไร” นายดำริ กล่าว