อีเว้นท์แมกกาซีนปรับเกมธุรกิจ ผุดสำนักพิมพ์ใหม่รุกสิ่งพิมพ์เต็มที่ เตรียมออกพ็อกเก็ตบุ๊ค ชะลอธุรกิจอื่น ส่วนโปรเจ็คต์เปิดแมกกาซีนอีเว้นท์ในจีนยังอืดไม่คืบหน้า ล่าสุดเปิดตัวสถาบันพรีเซ็นเตอร์ป้อนคนเข้าสู่วงการ พร้อมจัดงานอีเว้นท์แฟร์ครั้งแรก
นายพจน์ ปัญจฐิติพร บรรณาธิการบริหาร สำนักพิมพ์ อีเอ็ม พับลิชชิ่ง ผู้ผลิตนิตยสารอีเว้นท์แมกกาซีน เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางกลุ่มได้ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจใหม่ โดยได้ก่อตั้งสำนักพิมพ์อีเอ็มพับลิชชิ่งขึ้นมาเพื่อรับผิดชอบผลิตนิตยสารอีเว้นท์แมกกาซีน แทนบริษัท โฟร์ไนน์ เคานท์ตี้ จำกัด เดิมที่เป็นคนทำแต่เวลานี้ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับตัวนิตยสารและสิ่งพิมพ์แล้ว
โดยที่ผ่านมาได้ทำการปรับนิตยสารอีเว้นท์แมกกาซีน หลังจากที่ผลิตมา 4 ปีแล้ว ให้มีขนาดเล็กลงเป็นมินิไซส์ เพิ่มยอดพิมพ์เป็น 90,000 แบบจากเดิม 70,000 ฉบับ เป็นรายสองเดือน ปรับราคลงเหลือ 60 บาทจากเดิม 80 บาท และเตรียมออกหนังสือพ็อกเก็ตบุ๊คอีกหลายเล่มในปีนี้ คาดว่าในปีนี้จะมีรายได้ในกลุ่มสิ่งพิมพ์ประมาณ 15-18 ล้านบาท
ขณะเดียวกันในส่วนของธุรกิจเก็ทวันมีเดีย ซึ่งเป็นธุรกิจที่ทำเกี่ยวกับการแจกตัวอย่างสินค้าต่างๆให้กับเจ้าของสินค้าที่ต้องการแจกตัวอย่างสินค้า ก็ได้ชะลอไปก่อน ส่วนธุรกิจโฆษณาบนรถตู้นั้นก็ได้มอบสิทธิ์ให้กับพันธมิตรรายใหม่ทำแทนไปแล้ว
ส่วนธุรกิจการขยายสื่อสิ่งพิมพ์ในประเทศจีนนั้นยังไม่มีความคืบหน้ามากนักยังอยู่ในช่วงของการศึกษาความเหมาะสม เพราะตลาดและวัฒนาธรรมรวมทั้งพฤติกรรมของคนจีนกับไทยยังมีความแตกต่างกันอยู่มาก โดยมีแผนจับมือกับพันธมิตรคือกลุ่ม บริษัท เอดีซีพี มีเดีย จำกัด ที่ได้ร่วมทุนจัดตั้งบริษัทใหม่ชื่อว่า บริษัท อีเว้นท์ แมกกาซีน ไชน่า จำกัด ที่เซี่ยงไฮ้ โดยฝ่ายไทยถือหุ้น 49% และฝ่ายจีนถือหุ้น 51% เพื่อดำเนินธุรกิจสิ่งพิมพ์รายเดือนชื่อว่า อีเว้นท์ แมกกาซีน ไชน่า เป็นฉบับภาษาจีนซึ่งตามแผนเดิมคาดว่าจะเริ่มวางตลาดฉบับแรกประมาณเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ยอดพิมพ์ประมาณ 500,000 เล่มต่อเดือน ราคาประมาณ 20 หยวนต่อเล่มหรือประมาณ 100 บาทต่อเล่ม ซึ่งคาดว่าจะมียอดรายได้ประมาณ 450 ล้านบาทต่อปีโดยคาดว่าจะต้องใช้เงินลงทุนเบื้องต้นไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท
สำหรับธุรกิจล่าสุดคือ การจัดจั้งสถาบันพรีเซ็นเตอร์ ซึ่งจะเป็นสถาบันที่ทำการผลิตบุคลากรทางด้านพรีเซ็นเตอร์เพื่อป้อนให้กับตลาดทั้งการโฆษณาสินค้า ตลาดอีเว้นท์ ต่างๆ ซึ่งจะมีการร่วมมือกับทางสถาบันการศึกษาเพื่อร่างหลักสูตรและการอบรมต่าง ๆขึ้นมา ขณะนี้มีบุคลากรที่เป็นพรีเซ็นเตอร์ประมาณ 60 คนซึ่งเป็นผู้หญิงล้วน ส่วนใหญ่เป็นนิสิตนักศึกษาที่กำลังศึกษาอยู่ โดยคาดว่าจากนี้อีกประมาณ 3 ปีจะมีหลักสูตรที่ชัดเจนและสถานที่ในการอบรม
“สิ่งที่ทำขึ้นนี้ถือเป็นแห่งแรกของไทย และเราไม่ได้เน้นเชิงธุรกิจ แต่ทำขึ้นมาเพื่อต้องการสร้างวงการพรีเซ็นเตอร์ให้มันชัดแจนและมั่นคง และทำเพื่อต้องการให้ธุรกิจอีเว้นท์มีความครบวงจรมากขึ้น เราไม่ได้กำหนดว่า พรีเซ็นเตอร์จะต้องอยู่กับเรา เพียงแต่เมื่อจบหลักสูตรก็จบไป เราอาจจะหางานป้อนให้ และคิดค่าใช้จ่ายเล็กน้อยไม่ได้มากมาย เป็นค่าดำเนินการเท่านั้นเอง”
ล่าสุดได้จัดงานอีเว้นท์ แฟร์ ขึ้นเป็นครั้งแรกในไทย ที่บีอีซีเทโร วันที่ 19-20 พฤษภาคมนี้ มีผู้เข้าร่วมประมาณ 45 ราย รวมเป็น 90 กว่าบู้ธ ซึ่งเป็นงานที่รวบรวมบรรดาบริษัทออกาไนเซอร์ และงานอีเว้นท์ ตลอดจนธุรกิจที่เกี่ยวข้องเป็นครั้งแรก เพื่อให้เป็นศูนย์รวมของธุรกิจนี้ และให้บริษัทออกาไนเซอร์และลูกค้ามีโอกาสพบปะกันได้ด้วย
นายพจน์ ปัญจฐิติพร บรรณาธิการบริหาร สำนักพิมพ์ อีเอ็ม พับลิชชิ่ง ผู้ผลิตนิตยสารอีเว้นท์แมกกาซีน เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางกลุ่มได้ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจใหม่ โดยได้ก่อตั้งสำนักพิมพ์อีเอ็มพับลิชชิ่งขึ้นมาเพื่อรับผิดชอบผลิตนิตยสารอีเว้นท์แมกกาซีน แทนบริษัท โฟร์ไนน์ เคานท์ตี้ จำกัด เดิมที่เป็นคนทำแต่เวลานี้ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับตัวนิตยสารและสิ่งพิมพ์แล้ว
โดยที่ผ่านมาได้ทำการปรับนิตยสารอีเว้นท์แมกกาซีน หลังจากที่ผลิตมา 4 ปีแล้ว ให้มีขนาดเล็กลงเป็นมินิไซส์ เพิ่มยอดพิมพ์เป็น 90,000 แบบจากเดิม 70,000 ฉบับ เป็นรายสองเดือน ปรับราคลงเหลือ 60 บาทจากเดิม 80 บาท และเตรียมออกหนังสือพ็อกเก็ตบุ๊คอีกหลายเล่มในปีนี้ คาดว่าในปีนี้จะมีรายได้ในกลุ่มสิ่งพิมพ์ประมาณ 15-18 ล้านบาท
ขณะเดียวกันในส่วนของธุรกิจเก็ทวันมีเดีย ซึ่งเป็นธุรกิจที่ทำเกี่ยวกับการแจกตัวอย่างสินค้าต่างๆให้กับเจ้าของสินค้าที่ต้องการแจกตัวอย่างสินค้า ก็ได้ชะลอไปก่อน ส่วนธุรกิจโฆษณาบนรถตู้นั้นก็ได้มอบสิทธิ์ให้กับพันธมิตรรายใหม่ทำแทนไปแล้ว
ส่วนธุรกิจการขยายสื่อสิ่งพิมพ์ในประเทศจีนนั้นยังไม่มีความคืบหน้ามากนักยังอยู่ในช่วงของการศึกษาความเหมาะสม เพราะตลาดและวัฒนาธรรมรวมทั้งพฤติกรรมของคนจีนกับไทยยังมีความแตกต่างกันอยู่มาก โดยมีแผนจับมือกับพันธมิตรคือกลุ่ม บริษัท เอดีซีพี มีเดีย จำกัด ที่ได้ร่วมทุนจัดตั้งบริษัทใหม่ชื่อว่า บริษัท อีเว้นท์ แมกกาซีน ไชน่า จำกัด ที่เซี่ยงไฮ้ โดยฝ่ายไทยถือหุ้น 49% และฝ่ายจีนถือหุ้น 51% เพื่อดำเนินธุรกิจสิ่งพิมพ์รายเดือนชื่อว่า อีเว้นท์ แมกกาซีน ไชน่า เป็นฉบับภาษาจีนซึ่งตามแผนเดิมคาดว่าจะเริ่มวางตลาดฉบับแรกประมาณเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ยอดพิมพ์ประมาณ 500,000 เล่มต่อเดือน ราคาประมาณ 20 หยวนต่อเล่มหรือประมาณ 100 บาทต่อเล่ม ซึ่งคาดว่าจะมียอดรายได้ประมาณ 450 ล้านบาทต่อปีโดยคาดว่าจะต้องใช้เงินลงทุนเบื้องต้นไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท
สำหรับธุรกิจล่าสุดคือ การจัดจั้งสถาบันพรีเซ็นเตอร์ ซึ่งจะเป็นสถาบันที่ทำการผลิตบุคลากรทางด้านพรีเซ็นเตอร์เพื่อป้อนให้กับตลาดทั้งการโฆษณาสินค้า ตลาดอีเว้นท์ ต่างๆ ซึ่งจะมีการร่วมมือกับทางสถาบันการศึกษาเพื่อร่างหลักสูตรและการอบรมต่าง ๆขึ้นมา ขณะนี้มีบุคลากรที่เป็นพรีเซ็นเตอร์ประมาณ 60 คนซึ่งเป็นผู้หญิงล้วน ส่วนใหญ่เป็นนิสิตนักศึกษาที่กำลังศึกษาอยู่ โดยคาดว่าจากนี้อีกประมาณ 3 ปีจะมีหลักสูตรที่ชัดเจนและสถานที่ในการอบรม
“สิ่งที่ทำขึ้นนี้ถือเป็นแห่งแรกของไทย และเราไม่ได้เน้นเชิงธุรกิจ แต่ทำขึ้นมาเพื่อต้องการสร้างวงการพรีเซ็นเตอร์ให้มันชัดแจนและมั่นคง และทำเพื่อต้องการให้ธุรกิจอีเว้นท์มีความครบวงจรมากขึ้น เราไม่ได้กำหนดว่า พรีเซ็นเตอร์จะต้องอยู่กับเรา เพียงแต่เมื่อจบหลักสูตรก็จบไป เราอาจจะหางานป้อนให้ และคิดค่าใช้จ่ายเล็กน้อยไม่ได้มากมาย เป็นค่าดำเนินการเท่านั้นเอง”
ล่าสุดได้จัดงานอีเว้นท์ แฟร์ ขึ้นเป็นครั้งแรกในไทย ที่บีอีซีเทโร วันที่ 19-20 พฤษภาคมนี้ มีผู้เข้าร่วมประมาณ 45 ราย รวมเป็น 90 กว่าบู้ธ ซึ่งเป็นงานที่รวบรวมบรรดาบริษัทออกาไนเซอร์ และงานอีเว้นท์ ตลอดจนธุรกิจที่เกี่ยวข้องเป็นครั้งแรก เพื่อให้เป็นศูนย์รวมของธุรกิจนี้ และให้บริษัทออกาไนเซอร์และลูกค้ามีโอกาสพบปะกันได้ด้วย