เดอะมอลล์ กรุ๊ปยันไม่ลงทุนเพิ่มปีนี้เพราะผลพวงเศรษฐกิจ เผยยอดขายไตรมาสแรกเติบโต 25% เดินหน้าอัดกิจกรรมการตลาดต่อเนื่องทั้งปี ผู้บริหารเอ็มโพเรียมและพารากอนชี้ภาพรวมค้าปลีกต้องฉีกแนวถึงเวิร์ค
นายไพบูลย์ กนกวัฒนาวรรณ รองประธานกรรมการบริหารอาวุโส บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า ปีนี้เดอะมอลล์ยังไม่มีแผนลงทุนเพิ่ม แต่จะปรับปรุงเดอะมอลล์ในบางสาขา เช่น ท่าพระและบางแค ทั้งนี้เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน อย่างไรก็ตามโดยรวมปีนี้มองว่าไม่มีความกังวลในปัจจัยลบใดเป็นพิเศษ
โดยยอดรายได้ในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมาของเดอะมอลล์ถือว่าตามเป้าที่วางไว้ที่ 8,500 ล้านบาทหรือเติบโต 25% ในส่วนปัจจัยลบต่างๆ เช่น ภาวะเศรษฐกิจและการเมืองนั้นส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคโดยรวมบ้าง แต่ของเดอะมอลล์ กรุ๊ปไม่ได้รับผลกระทบมากนัก
นายณัฐพงศ์ กิจนิจชีวะ ผู้จัดการทั่วไป สายการตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจในปีนี้บริษัทฯ เตรียมเน้นจัดกิจกรรมการตลาดอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจมากขึ้น เนื่องจากต้องการกระตุ้นยอดรายได้และกำลังซื้อของผู้บริโภค
ล่าสุดทางเดอะมอลล์ กรุ๊ปได้จับมือกับพันธมิตรอย่างดีแทคในการมอบสิทธิประโยชน์ให้แก่ลูกค้าของห้างในเครือ ประกอบด้วยเดอะมอลล์ 7 สาขา, ดิ เอ็มโพเรียม,สยาม พารากอน, สยาม ดิสคัฟเวอร์รี่และสยามเซ็นเตอร์ ที่เป็นสมาชิกดีแทค แม็กซิไมซ์ ได้รับส่วนลดพิเศษ 5% ในส่วนโซนร้านอาหาร ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. 49- 30 เม.ย.50 รวมระยะเวลา 1 ปี ส่วนฟาสต์ฟูดและฟูดคอร์ทที่ใช้คูปองกระดาษรับส่วนลด 10% เริ่ม 1 พ.ค. 49- 31 ก.ค. 49
สำหรับภาพรวมช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้เดอะมอลล์คาดว่าจะมียอดขายเติบโตขึ้นกว่าไตรมาสแรก เพราะปัจจัยทางการเมืองเริ่มดีขึ้น ส่วนยอดรายได้ทั้งปีบริษัทฯคาดว่าจะมีรายได้รวมจากการธุรกิจศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้ากว่า 33,000 ล้านบาทและเติบโตกว่า 10% ซึ่งถือว่าเป็นไปตามเป้าที่วางไว้
นางณัฐศมน วงศ์กิตติพัฒน์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการใหญ่สายการตลาด บริษัท สยามพารากอน รีเทล จำกัด ผู้บริหารศูนย์การค้าสยาม พารากอนและดิ เอ็มโพเรียม กล่าวว่า ภาพรวมธุรกิจค้าปลีกปีนี้มองว่าแต่ละบริษัทจะต้องปรับกลยุทธ์ในการบริหารมากขึ้น หากใครสามารถฉีกแนวคู่แข่งก็จะได้เปรียบ ซึ่งที่ผ่านมาห้างค้าปลีกส่วนใหญ่จะมีการทำตลาดที่คล้ายคลึงกัน แนวโน้มการแข่งขันในปัจจุบันตลาดจะหันไปโฟกัสที่ลูกค้าเป็นหลัก รวมถึงบริษัทฯที่เล็งเห็นถึงความสำคัญของลูกค้าเป็นหลัก โดยในปีนี้จะมีการทำกลยุทธ์ทางการตลาดแบบซีอาร์เอ็มมากขึ้น และมีแผนเปิดตัวแคมเปญเฉพาะในเร็วๆนี้
สำหรับงบการตลาดทั้งปีของดิ เอ็มโพเรียมและสยามพารากอนในปีนี้เตรียมไว้ 300 ล้านบาท แบ่งเป็นช่วงไตรมาสแรก 100 ล้านบาท โดยจัดแคมเปญต่อเนื่อง ร่วมมือกับพันธมิตรในการทำตลาดมากขึ้น ส่วนช่วงกลางปีนี้ที่มีมหกรรมบอลโลกในส่วนของทั้งสองศูนย์การค้าฯจะมีการร่วมกิจกรรมและโปรโมชั่นในบางแผนกและบางสินค้า เช่น พาวเวอร์ มอลล์ เป็นต้น
ทั้งนี้ยอดรายได้ในช่วง 3 เดือนแรกที่ผ่านมาของปีนี้เป็นไปตามเป้า แบ่งเป็นยอดรายได้สยาม พารากอนมีกว่า 2,500 ล้านบาท และ ดิ เอ็มโพเรียมมียอดขาย 1,800 ล้านบาท เนื่องจากการจัด 3 แคมเปญใหญ่ เช่น ปีใหม่,ตรุษจีนและช่วงซัมเมอร์
ส่วนยอดรายได้ทั้งปีนี้ของสยาม พารากอนคาดว่าจะมีรายได้ 10,000 ล้านบาท ส่วนดิ เอ็มโพเรียมตั้งเป้ายอดขายกว่า 7,000 ล้านบาท และมีอัตราการเติบโต 5-8% จากปีที่แล้วที่มียอดรายได้ 6,500 ล้านบาท
นายไพบูลย์ กนกวัฒนาวรรณ รองประธานกรรมการบริหารอาวุโส บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า ปีนี้เดอะมอลล์ยังไม่มีแผนลงทุนเพิ่ม แต่จะปรับปรุงเดอะมอลล์ในบางสาขา เช่น ท่าพระและบางแค ทั้งนี้เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน อย่างไรก็ตามโดยรวมปีนี้มองว่าไม่มีความกังวลในปัจจัยลบใดเป็นพิเศษ
โดยยอดรายได้ในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมาของเดอะมอลล์ถือว่าตามเป้าที่วางไว้ที่ 8,500 ล้านบาทหรือเติบโต 25% ในส่วนปัจจัยลบต่างๆ เช่น ภาวะเศรษฐกิจและการเมืองนั้นส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคโดยรวมบ้าง แต่ของเดอะมอลล์ กรุ๊ปไม่ได้รับผลกระทบมากนัก
นายณัฐพงศ์ กิจนิจชีวะ ผู้จัดการทั่วไป สายการตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจในปีนี้บริษัทฯ เตรียมเน้นจัดกิจกรรมการตลาดอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจมากขึ้น เนื่องจากต้องการกระตุ้นยอดรายได้และกำลังซื้อของผู้บริโภค
ล่าสุดทางเดอะมอลล์ กรุ๊ปได้จับมือกับพันธมิตรอย่างดีแทคในการมอบสิทธิประโยชน์ให้แก่ลูกค้าของห้างในเครือ ประกอบด้วยเดอะมอลล์ 7 สาขา, ดิ เอ็มโพเรียม,สยาม พารากอน, สยาม ดิสคัฟเวอร์รี่และสยามเซ็นเตอร์ ที่เป็นสมาชิกดีแทค แม็กซิไมซ์ ได้รับส่วนลดพิเศษ 5% ในส่วนโซนร้านอาหาร ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. 49- 30 เม.ย.50 รวมระยะเวลา 1 ปี ส่วนฟาสต์ฟูดและฟูดคอร์ทที่ใช้คูปองกระดาษรับส่วนลด 10% เริ่ม 1 พ.ค. 49- 31 ก.ค. 49
สำหรับภาพรวมช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้เดอะมอลล์คาดว่าจะมียอดขายเติบโตขึ้นกว่าไตรมาสแรก เพราะปัจจัยทางการเมืองเริ่มดีขึ้น ส่วนยอดรายได้ทั้งปีบริษัทฯคาดว่าจะมีรายได้รวมจากการธุรกิจศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้ากว่า 33,000 ล้านบาทและเติบโตกว่า 10% ซึ่งถือว่าเป็นไปตามเป้าที่วางไว้
นางณัฐศมน วงศ์กิตติพัฒน์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการใหญ่สายการตลาด บริษัท สยามพารากอน รีเทล จำกัด ผู้บริหารศูนย์การค้าสยาม พารากอนและดิ เอ็มโพเรียม กล่าวว่า ภาพรวมธุรกิจค้าปลีกปีนี้มองว่าแต่ละบริษัทจะต้องปรับกลยุทธ์ในการบริหารมากขึ้น หากใครสามารถฉีกแนวคู่แข่งก็จะได้เปรียบ ซึ่งที่ผ่านมาห้างค้าปลีกส่วนใหญ่จะมีการทำตลาดที่คล้ายคลึงกัน แนวโน้มการแข่งขันในปัจจุบันตลาดจะหันไปโฟกัสที่ลูกค้าเป็นหลัก รวมถึงบริษัทฯที่เล็งเห็นถึงความสำคัญของลูกค้าเป็นหลัก โดยในปีนี้จะมีการทำกลยุทธ์ทางการตลาดแบบซีอาร์เอ็มมากขึ้น และมีแผนเปิดตัวแคมเปญเฉพาะในเร็วๆนี้
สำหรับงบการตลาดทั้งปีของดิ เอ็มโพเรียมและสยามพารากอนในปีนี้เตรียมไว้ 300 ล้านบาท แบ่งเป็นช่วงไตรมาสแรก 100 ล้านบาท โดยจัดแคมเปญต่อเนื่อง ร่วมมือกับพันธมิตรในการทำตลาดมากขึ้น ส่วนช่วงกลางปีนี้ที่มีมหกรรมบอลโลกในส่วนของทั้งสองศูนย์การค้าฯจะมีการร่วมกิจกรรมและโปรโมชั่นในบางแผนกและบางสินค้า เช่น พาวเวอร์ มอลล์ เป็นต้น
ทั้งนี้ยอดรายได้ในช่วง 3 เดือนแรกที่ผ่านมาของปีนี้เป็นไปตามเป้า แบ่งเป็นยอดรายได้สยาม พารากอนมีกว่า 2,500 ล้านบาท และ ดิ เอ็มโพเรียมมียอดขาย 1,800 ล้านบาท เนื่องจากการจัด 3 แคมเปญใหญ่ เช่น ปีใหม่,ตรุษจีนและช่วงซัมเมอร์
ส่วนยอดรายได้ทั้งปีนี้ของสยาม พารากอนคาดว่าจะมีรายได้ 10,000 ล้านบาท ส่วนดิ เอ็มโพเรียมตั้งเป้ายอดขายกว่า 7,000 ล้านบาท และมีอัตราการเติบโต 5-8% จากปีที่แล้วที่มียอดรายได้ 6,500 ล้านบาท