ตลาดลูกอมแข่งขันสูง "ฮอลล์" ปรับกลยุทธ์แบบรายเดือน ปีนี้อัดกิจกรรมต่อเนื่องทั้งปี ล่าสุดทุ่มงบกว่า 50 ล้านบาทเปิดตัวแคมเปญใหญ่ฉลองครบรอบ 40ปีด้วยการแจกทอง 1 ล้านบาท 16 สัปดาห์ผ่านรายการจ้อจี้ หนีการจัดแคมเปญแบบอินสแตนท์ วินที่โดนห้าม ด้านตลาดส่งออกปีนี้ได้ฤกษ์รุกแดนปลาดิบ ภายใต้แบรนด์ "ไวท์ ทีน" คาดสิ้นปีรักษาแชร์รวมไว้ได้ที่ 32 % ส่วนตลาดรวมลูกอมเชื่อว่าโต 10% จากตลาด4,400 ล้านบาท
นายอาณัติ จุลินทร กรรมการผู้จัดการ บริษัท แคดเบอรี่ อาดัมส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายลูกอมฮอลล์ เปิดเผยว่า สถานการณ์โดยรวมของตลาดลูกอมในขณะนี้มีการแข่งขันกันสูงทั้งทางด้านการตลาดจากคู่แข่ง , ความผันผวนของวัตถุดิบอย่างน้ำมัน และวัตถุดิบน้ำตาลที่มีการปรับขึ้นราคาทำให้กระทบต้นทุนการผลิต ซึ่งตรงนี้บริษัทฯมีแผนการรองรับโดยการพยายามลดต้นทุนการผลิตภายในองค์กรและมีการประหยัดมากขึ้น รวมถึงสำรวจและทำตลาดแบบเดือนต่อเดือน ขณะที่การปรับขึ้นราคาสินค้านั้นยังไม่มีแผนขึ้นแต่จะพยายามตรึงราคาไว้เหมือนเดิมที่ 2 เม็ด 1 บาท
แผนการตลาดปีนี้ของบริษัทฯ เตรียมจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่องทั้งปี อีกทั้งปีนี้เป็นปีที่ฮอลล์ครบรอบ 40 ปีด้วย ล่าสุดบริษัทฯจึงเตรียมงบประมาณกว่า 50 ล้านบาทในการเปิดตัวแคมเปญใหญ่ที่สุดในปีนี้ "ฮอลล์ 40 ปี แห่งความสดชื่นทั่วไทย แจกโชคใหญ่เศรษฐีเงินล้าน" ด้วยการแจกโชคทองมูลค่า 1 ล้านบาทติดต่อกัน 16 สัปดาห์ โดยแคมเปญนี้เริ่มตั้งแต่มีนาคมที่ผ่านมาและจะสิ้นสุดเดือนสิงหาคม ซึ่งการจับรางวัลผู้โชคดีในแต่ละอาทิตย์ผ่านทางรายการจ้อจี้ ช่อง 7 ทั้งนี้ปีที่แล้วบริษัทฯได้มีแคมเปญใหญ่ในรูปแบบอินสแทนท์ วิน "ฮอลล์ลุ้นล้าน ภาค 2"
"ฮอลล์เน้นการเปิดตัวนวัตกรรมใหม่อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดต้นปีเปิดตัวฮอลล์ ไอซ์ที่เป็นแพ็คไป จับกลุ่มเป้าหมายคนในเมืองเป็นหลัก ขณะที่รสชาติใหม่ปีนี้ไม่มีแผนเปิดตัว ปัจจุบันลูกอมฮอลล์มี 5 รสชาติ ได้แก่ ฮอลล์ เมนโท-ลิปตัส, รสน้ำผึ้งผสมเลมอน,ขิงสไปซ์ ซึ่ง 3 รสชาตินี้รวมกันมีสัดส่วนยอดขายคิดเป็นสัดส่วน 80% ของยอดขายทั้งหมด ที่เหลือเป็นของรสราสเบอร์รี่และเฟรชไลม์"
ส่วนตลาดส่งออกในปัจจุบันมีอยู่หลายประเทศ เช่น ฟิลิปปินส์,มาเลเซีย,ไต้หวัน,อเมริกาและยุโรป ปีนี้เตรียมเน้นตลาดยุโรปและอเมริกาเป็นหลัก รวมถึงปีนี้ยังได้ทำโออีเอ็มให้บริษัทที่ญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก ภายใต้แบรนด์ "ไวท์ ทีน" ลูกอมระงับกลิ่นปาก ทั้งนี้สัดส่วนยอดรายได้จากต่างประเทศคิดเป็น 20%
สำหรับภาพรวมตลาดลูกอมในไทยปีนี้คาดการณ์ว่าตลาดรวมจะโต 10% จากตลาดรวม 4,400 ล้านบาท ในปีที่ผ่านมามีอัตราการโต 12.4% ซึ่งปัจจัยที่ทำให้ตลาดโตเป็นเพราะการเปิดตัวสินค้าใหม่ของแต่ละรายและการทำกิจกรรมทางการตลาด เป็นต้น โดยตลาดลูกอม แบ่งออกเป็นตลาดลูกอมเม็ดแข็ง คิดเป็นสัดส่วน54% ตลาดลูกอมเม็ดนุ่ม 21% และอื่นๆ 25% ปัจจุบันบริษัทฯมีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 1 อยู่ที่ 32% แบ่งเป็นลูกอมฮอลล์ 20.4% คลอเล็ท 10% และทรีบอล 1%
