สมาคมนักการตลาดแบบตรงไทยเตรียมจัดงาน "ดีเอ็ม ไทยแลนด์ 2006" หวังสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการตลาดแบบตรง และเรียนรู้ถึงสื่อการตลาดแบบตรงใหม่ที่กำลังเข้ามา ตั้งเป้าเพิ่มสมาชิกจากการจัดงาน 20 บริษัท มั่นใจสิ้นปีครบ 100 บริษัทตามที่ตั้งเป้าไว้
นายทรงพล ชัยมาตรกิจ นายกสมาคมนักการตลาดแบบตรงไทย (TDMA) และประธานเจ้าหน้าที่บริษัท ทีวี ไดเร็ค จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันความเข้าใจเกี่ยวกับการตลาดแบบตรงในไทยยังมีน้อย ซึ่งที่ผ่านมาทางสมาคมฯมีการติดต่อประสานงานเฉพาะบริษัทที่ทำการตลาดแบบตรง และหน่วยงานที่เป็นภาครัฐ เนื่องจากการออกกฎหมายต่างๆที่ต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญที่จะทำหน้าที่อธิบายกรรมวิธีต่างๆ ทำให้บทบาทการทำงานของทางสมาคมยังไม่เป็นที่รู้จักในวงกว้าง
จากการที่กระแสทางการตลาดกำลังเคลื่อนไปสู่ไดเร็ก มาร์เก็ตติ้งมากขึ้นนั้น จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ทางสมาคมฯจะทำการส่งเสริมประชาสัมพันธ์ให้เกิดความเข้าใจในศักยภาพของการตลาดแบบตรงและสามารถนำกลยุทธ์ไปใช้ได้อย่างถูกต้อง ภายใต้การจัดกิจกรรมต่างๆขึ้น อาทิ งาน ดีเอ็ม ไทยแลนด์ 2006 และการจัดสัมมนาทุกๆ 2 เดือน
"แผนงานและเป้าหมายในอนาคตของทางสมาคมฯนั้นจะต้องเพิ่มจำนวนสมาชิกจากเดิม 45 บริษัท เป็น 100 บริษัท ภายในปี 2549 ซึ่งสมาชิกที่เพิ่มขึ้นนี้เป็นบริษัทที่เกี่ยวข้องกับตลาดแบบตรง เช่น บริษัทที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับ คอล เซ็นเตอร์ ,เอเจนซี่ ที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับ ไดเร็ก มาร์เก็ตติ้ง ,บริษัทที่ขายสินค้าผ่านแคตตาล๊อก เป็นต้น"
ลักษณะของการตลาดแบบตรงในปี 2549 นั้นจะเป็นลักษณะของการเข้าถึงตัวลูกค้าเป็นหลักมากขึ้น ทั้งนี้คาดว่า สื่อใหม่ๆที่จะเข้ามาในปีนี้ เช่น สื่อออนไลน์ มีเดีย และปลายปีจะเป็นสื่อลักษณะคอมมูนิเคชั่น รวมไปถึง สื่อแบบคอลเซ็นเตอร์จะมีมากขึ้น
ด้านนางสาวกนกพร นิตย์ธีรานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โอกิลวี่ วัน จำกัด กล่าวเสริมว่า อนาคตมีแนวโน้มที่จะมีสื่อใหม่เข้ามาใช้ในการสื่อสารมากขึ้น เช่น สื่อออนไลน์ เนื่องจากมีต้นทุนที่ไม่สูงมาก และเอื้อให้นักการตลาดทำเสนอสินค้าได้ดีมากขึ้น โดยเฉพาะในกรณีที่มีวางแผนการทำตลาดแบบตรงอย่างรอบคอบ
นายราเมศ เชษฐา กรรมการผู้จักการ บริษัท พีซีพี เอเชีย จำกัด ได้กล่าวถึงการจัดงาน ดีเอ็ม ไทยแลนด์ 2006 ว่า การจัดงานในครั้งนี้เป็นครั้งที่ 5 โดยภายในงานจะมีองค์ประกอบหลัก คือ เวที อินเตอร์เนชั่นแนล คอนเฟอเรนซ์ ซึ่งจะเป็นการชุมนุมของนักการตลาดและวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิจากทั่วโลก และเวที โลคัล คอนเฟอเรนซ์ สำหรับคนไทย โดยงานดีเอ็มฯจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 12-13 ก.ค. นี้ที่รร.พลาซ่า แอทินี่ ทั้งนี้สมาคมฯใช้งบในการจัดงานไปกว่า 300 ล้านบาท คาดว่าจะมีบริษัทให้ความสนใจเข้าร่วมเป็นสมาชิกกว่า10-20 บริษัท และผู้เข้าชมงานประมาณ 1,000 ราย
ปัจจุบันมูลค่าของตลาดแบบตรงมีกว่า 4,000 ล้านบาท จากการสำรวจจาก 3 กลุ่มธุรกิจ คือ กลุ่มสิ่งพิมพ์ กลุ่มบริษัทขายสินค้า และกลุ่มบริการด้านต่างๆ ทั้งนี้คาดว่าอีก 5 ปี ตลาดจะมีมูลค่าสูงถึง 10,000 ล้านบาท
นายทรงพล ชัยมาตรกิจ นายกสมาคมนักการตลาดแบบตรงไทย (TDMA) และประธานเจ้าหน้าที่บริษัท ทีวี ไดเร็ค จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันความเข้าใจเกี่ยวกับการตลาดแบบตรงในไทยยังมีน้อย ซึ่งที่ผ่านมาทางสมาคมฯมีการติดต่อประสานงานเฉพาะบริษัทที่ทำการตลาดแบบตรง และหน่วยงานที่เป็นภาครัฐ เนื่องจากการออกกฎหมายต่างๆที่ต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญที่จะทำหน้าที่อธิบายกรรมวิธีต่างๆ ทำให้บทบาทการทำงานของทางสมาคมยังไม่เป็นที่รู้จักในวงกว้าง
จากการที่กระแสทางการตลาดกำลังเคลื่อนไปสู่ไดเร็ก มาร์เก็ตติ้งมากขึ้นนั้น จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ทางสมาคมฯจะทำการส่งเสริมประชาสัมพันธ์ให้เกิดความเข้าใจในศักยภาพของการตลาดแบบตรงและสามารถนำกลยุทธ์ไปใช้ได้อย่างถูกต้อง ภายใต้การจัดกิจกรรมต่างๆขึ้น อาทิ งาน ดีเอ็ม ไทยแลนด์ 2006 และการจัดสัมมนาทุกๆ 2 เดือน
"แผนงานและเป้าหมายในอนาคตของทางสมาคมฯนั้นจะต้องเพิ่มจำนวนสมาชิกจากเดิม 45 บริษัท เป็น 100 บริษัท ภายในปี 2549 ซึ่งสมาชิกที่เพิ่มขึ้นนี้เป็นบริษัทที่เกี่ยวข้องกับตลาดแบบตรง เช่น บริษัทที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับ คอล เซ็นเตอร์ ,เอเจนซี่ ที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับ ไดเร็ก มาร์เก็ตติ้ง ,บริษัทที่ขายสินค้าผ่านแคตตาล๊อก เป็นต้น"
ลักษณะของการตลาดแบบตรงในปี 2549 นั้นจะเป็นลักษณะของการเข้าถึงตัวลูกค้าเป็นหลักมากขึ้น ทั้งนี้คาดว่า สื่อใหม่ๆที่จะเข้ามาในปีนี้ เช่น สื่อออนไลน์ มีเดีย และปลายปีจะเป็นสื่อลักษณะคอมมูนิเคชั่น รวมไปถึง สื่อแบบคอลเซ็นเตอร์จะมีมากขึ้น
ด้านนางสาวกนกพร นิตย์ธีรานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โอกิลวี่ วัน จำกัด กล่าวเสริมว่า อนาคตมีแนวโน้มที่จะมีสื่อใหม่เข้ามาใช้ในการสื่อสารมากขึ้น เช่น สื่อออนไลน์ เนื่องจากมีต้นทุนที่ไม่สูงมาก และเอื้อให้นักการตลาดทำเสนอสินค้าได้ดีมากขึ้น โดยเฉพาะในกรณีที่มีวางแผนการทำตลาดแบบตรงอย่างรอบคอบ
นายราเมศ เชษฐา กรรมการผู้จักการ บริษัท พีซีพี เอเชีย จำกัด ได้กล่าวถึงการจัดงาน ดีเอ็ม ไทยแลนด์ 2006 ว่า การจัดงานในครั้งนี้เป็นครั้งที่ 5 โดยภายในงานจะมีองค์ประกอบหลัก คือ เวที อินเตอร์เนชั่นแนล คอนเฟอเรนซ์ ซึ่งจะเป็นการชุมนุมของนักการตลาดและวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิจากทั่วโลก และเวที โลคัล คอนเฟอเรนซ์ สำหรับคนไทย โดยงานดีเอ็มฯจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 12-13 ก.ค. นี้ที่รร.พลาซ่า แอทินี่ ทั้งนี้สมาคมฯใช้งบในการจัดงานไปกว่า 300 ล้านบาท คาดว่าจะมีบริษัทให้ความสนใจเข้าร่วมเป็นสมาชิกกว่า10-20 บริษัท และผู้เข้าชมงานประมาณ 1,000 ราย
ปัจจุบันมูลค่าของตลาดแบบตรงมีกว่า 4,000 ล้านบาท จากการสำรวจจาก 3 กลุ่มธุรกิจ คือ กลุ่มสิ่งพิมพ์ กลุ่มบริษัทขายสินค้า และกลุ่มบริการด้านต่างๆ ทั้งนี้คาดว่าอีก 5 ปี ตลาดจะมีมูลค่าสูงถึง 10,000 ล้านบาท