รถซูบารุ ร้อง "ชัยนันท์" เดือดร้อนถูก ขสมก.แจ้งตำรวจจับวิ่งทับเส้นทางรถเมล์ ขอผ่อนผันรอกรมขนส่งฯ จัดระเบียบภายใน 1 เดือน
พลเอกชัยนันท์ เจริญศิริ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังกลุ่มผู้ประกอบการรถสี่ล้อเล็กรับจ้าง(ซูบารุ) กว่า 200 คันนำรถมาจอดประท้วงที่บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า วานนี้ (24 ก.พ.) ว่า ได้เจรจากับนางนภัสสร รัศมีสุริเยนทร์ ตัวแทนรถซูบารุ และรับข้อร้องเรียนที่รถซูบารุ ขอให้กระทรวงคมนาคมผ่อนผันการจับกุมในหลายพื้นที่ในระหว่างรอสรุปแผนการจัดระเบียบ โดยเร่งรัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหาข้อยุติภายใน 1 เดือน ซึ่งทำให้กลุ่มซูบารุได้สลายตัวไป
ทั้งนี้ การดำเนินการ ได้มอบให้นายคำรบลักขิ์ สุรัสวดี รองปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธานหารือกับกรมการขนส่งทางบกและองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ในวันที่ 29 ก.พ.2549 กรณีที่ผู้ประกอบการรถร่วมขสมก.ได้ร้องเรียนให้ขสมก.แจ้งความตำรวจจับกุมรถสี่ล้อเล็กที่วิ่งทับเส้นทาง และให้นายโอภาส เพชรมุณี รักษาการ ผอ.ขสมก. เจรจากับเจ้าหน้าที่แต่ละพื้นที่ผ่อนผันการจับกุมรถซูบารุชั่วคราว โดยการแก้ปัญหารถซูบารุที่วิ่งในซอย แต่มีการพัฒนาเป็นถนนใหญ่จะหาทางออกให้ผู้ประกอบการเปลี่ยนประเภทรถมาเป็นรถประจำทางแทนหรือจัดหาเส้นทางที่เหมาะสม ส่วนรถที่ออกจากซอยมาวิ่งในถนนใหญ่และวิ่งทับเส้นทางรถเมล์จะต้องปรับให้เหมาะสม รวมทั้งดำเนินการอย่างจริงจังกับรถที่ผิดกฎหมายจดทะเบียนในต่างจังหวัด วิ่งนอกเส้นทาง โดยจะต้องขึ้นทะเบียนรถทั้งหมดเพื่อจัดระเบียบเส้นทาง และควบคุมจำนวน
นางนภัสสร กล่าวว่า ผู้ประกอบการรถซูบารุ ยินดีที่จะปฏิบัติตามเพื่อปรับปรุงให้เป็นรถที่ถูกกฎหมาย แต่ขณะนี้รถเกือบ 5,000 คันถูกตำรวจจับกุมจนเดือดร้อนมาก เพราะจะถูกปรับคันละ 1,000 บาทและหากถูกจับครั้งที่ 2 จะถูกยึดรถทำมาหากินไม่ได้ ซึ่งปัญหาเกิดจากรถสี่ล้อเล็กเหล่านี้ได้ให้บริการมานานกว่า 20 ปี ในตรอกซอกซอยต่างๆ แต่เมื่อตรอกซอยพัฒนาเป็นถนนใหญ่ ทำให้รถที่วิ่งในเส้นทางดังกล่าวกลายเป็นรถผิดกฎหมาย เพราะระเบียบกำหนด ให้วิ่งออกจากซอยได้ไม่เกิน 100 เมตร แต่การจำกัดให้วิ่งเฉพาะในซอยคงยอมรับไม่ได้ เพราะจะต้องแข่งกับรถจักรยานยนต์รับจ้างที่มีอยู่จำนวนมาก
ด้านนายโอภาส เพชรมุณี ผอ.ขสมก. กล่าวว่า ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันแก้ปัญหา รถซูบารุก็ต้องจัดระบบควบคุมกันเอง ทั้งปัญหาการจอดแช่ป้ายซึ่งสร้างปัญหาให้กับรถเมล์ การทิ้งผู้โดยสารระหว่างทาง รวมไปถึงจะต้องกำหนดกรอบเส้นทางที่ชัดเจนเพื่อมิให้เกิดปัญหาซ้ำซ้อนกับรถร่วมอีกด้วย
พลเอกชัยนันท์ เจริญศิริ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังกลุ่มผู้ประกอบการรถสี่ล้อเล็กรับจ้าง(ซูบารุ) กว่า 200 คันนำรถมาจอดประท้วงที่บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า วานนี้ (24 ก.พ.) ว่า ได้เจรจากับนางนภัสสร รัศมีสุริเยนทร์ ตัวแทนรถซูบารุ และรับข้อร้องเรียนที่รถซูบารุ ขอให้กระทรวงคมนาคมผ่อนผันการจับกุมในหลายพื้นที่ในระหว่างรอสรุปแผนการจัดระเบียบ โดยเร่งรัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหาข้อยุติภายใน 1 เดือน ซึ่งทำให้กลุ่มซูบารุได้สลายตัวไป
ทั้งนี้ การดำเนินการ ได้มอบให้นายคำรบลักขิ์ สุรัสวดี รองปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธานหารือกับกรมการขนส่งทางบกและองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ในวันที่ 29 ก.พ.2549 กรณีที่ผู้ประกอบการรถร่วมขสมก.ได้ร้องเรียนให้ขสมก.แจ้งความตำรวจจับกุมรถสี่ล้อเล็กที่วิ่งทับเส้นทาง และให้นายโอภาส เพชรมุณี รักษาการ ผอ.ขสมก. เจรจากับเจ้าหน้าที่แต่ละพื้นที่ผ่อนผันการจับกุมรถซูบารุชั่วคราว โดยการแก้ปัญหารถซูบารุที่วิ่งในซอย แต่มีการพัฒนาเป็นถนนใหญ่จะหาทางออกให้ผู้ประกอบการเปลี่ยนประเภทรถมาเป็นรถประจำทางแทนหรือจัดหาเส้นทางที่เหมาะสม ส่วนรถที่ออกจากซอยมาวิ่งในถนนใหญ่และวิ่งทับเส้นทางรถเมล์จะต้องปรับให้เหมาะสม รวมทั้งดำเนินการอย่างจริงจังกับรถที่ผิดกฎหมายจดทะเบียนในต่างจังหวัด วิ่งนอกเส้นทาง โดยจะต้องขึ้นทะเบียนรถทั้งหมดเพื่อจัดระเบียบเส้นทาง และควบคุมจำนวน
นางนภัสสร กล่าวว่า ผู้ประกอบการรถซูบารุ ยินดีที่จะปฏิบัติตามเพื่อปรับปรุงให้เป็นรถที่ถูกกฎหมาย แต่ขณะนี้รถเกือบ 5,000 คันถูกตำรวจจับกุมจนเดือดร้อนมาก เพราะจะถูกปรับคันละ 1,000 บาทและหากถูกจับครั้งที่ 2 จะถูกยึดรถทำมาหากินไม่ได้ ซึ่งปัญหาเกิดจากรถสี่ล้อเล็กเหล่านี้ได้ให้บริการมานานกว่า 20 ปี ในตรอกซอกซอยต่างๆ แต่เมื่อตรอกซอยพัฒนาเป็นถนนใหญ่ ทำให้รถที่วิ่งในเส้นทางดังกล่าวกลายเป็นรถผิดกฎหมาย เพราะระเบียบกำหนด ให้วิ่งออกจากซอยได้ไม่เกิน 100 เมตร แต่การจำกัดให้วิ่งเฉพาะในซอยคงยอมรับไม่ได้ เพราะจะต้องแข่งกับรถจักรยานยนต์รับจ้างที่มีอยู่จำนวนมาก
ด้านนายโอภาส เพชรมุณี ผอ.ขสมก. กล่าวว่า ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันแก้ปัญหา รถซูบารุก็ต้องจัดระบบควบคุมกันเอง ทั้งปัญหาการจอดแช่ป้ายซึ่งสร้างปัญหาให้กับรถเมล์ การทิ้งผู้โดยสารระหว่างทาง รวมไปถึงจะต้องกำหนดกรอบเส้นทางที่ชัดเจนเพื่อมิให้เกิดปัญหาซ้ำซ้อนกับรถร่วมอีกด้วย