xs
xsm
sm
md
lg

ซีพี เมจิตั้งการ์ดรับมือเอฟทีเอเร่งปรับตัวสู่มาตรฐานสากล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ซีพี เมจิทุ่ม 350 ล้านบาทขยายไลน์สินค้ากลุ่มเนย-ครีม ยกเครื่องปัดฝุ่นเครื่องจักรใหม่ เร่งยกระดับมาตรฐานสินค้าสู่สากลรับมือเอฟทีเอออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์พ่นพิษ นำร่องรีลอนช์แพกเกจนมพาสเจอร์ไรส์สินค้าเรือธง สิ้นปีส่วนแบ่งเพิ่มไม่ต่ำกว่า 55% ส่วนรายได้รวมกวาด 3,500 ล้านบาท

นายชุมโชค กานตพิชาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพี เมจิ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายนมพร้อมดื่มตราเมจิ เปิดเผยว่า นโยบายการดำเนินธุรกิจสินค้ากลุ่มนม บริษัทต้องการปรับสินค้าเพื่อก้าวสู่มาตรฐานระดับสากล ทั้งนี้เพื่อรับรองกับการเปิดเขตเสรีทางการค้าระหว่างประเทศ หรือเอฟทีเอระหว่างไทยกับออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ภายใต้การใช้โมเดลคล้ายกับบริษัทยักษ์ในอุตสาหกรรมนมและอาหารอย่างเนสท์เล่ ซึ่งบริษัทได้วางเป้าหมายขยายไลน์สินค้าให้ครอบคลุมเพิ่มขึ้น โดยอาศัยวัตถุดิบหลักจากนมที่เหลือมาใช้ให้คุ้มค่าและเกิดมูลค่าเพิ่ม  ซึ่งล่าสุดทุ่มงบลงทุนเครื่องจักร 50 ล้านบาท ดึงไขมันที่เหลือจากนม มาพัฒนาสินค้าใหม่ ครีม และเนยลงสู่ตลาด โดยได้เริ่มวางสินค้าผ่านช่องทางโรงแรม ภัตตราคาร ฯลฯแล้ว ขณะเดียวกันบริษัทจะต้องอาศัยค่าจ้างแรงงานของไทยที่ถูกเป็นโอกาสทางการตลาด เนื่องจากมองว่านมที่เข้ามาทำตลาดในไทย อาจจะราคาไม่ถูกมากนักเมื่อเทียบกับสินค้าไทย

"การพัฒนาสินค้าให้อยู่ระดับโกลเบิลสแตนดาร์ด ราคาเป็นที่เหมาะสมสอดคล้องกับกำลังซื้อของผู้บริโภค จะเป็นจุดแข็งที่ทำให้เราสามารถแข่งขันกับการเปิดเขตเสรีการค้าระหว่างประเทศได้ อย่างไรก็ตามอุตสาหกรรมไทยยังคงต้องปรับตัวและพัฒนาให้มากขึ้น โดยล่าสุดบริษัทได้ทุ่มงบ 300 ล้านบาทนำเข้าเทคโนโลยีบรรจุภัณฑ์พาสเจอร์ไรส์ใหม่จากประเทศเยอรมัน ซึ่งเป็นเทคโนโลยีรการบรรจุภัณฑ์ระบบ อีเอสแอล รายแรกและรายเดียวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเครื่องบรรจุภัณฑ์นี้สามารถบรรจุขนาด 450 ซีซี และ 830 ซีซี ได้ถึง 20,000 ขวดต่อชั่วโมง และขนาด 200 ซีซี ซึ่งกำลังจะติดตั้งในเดือนมิถุนายน ได้ถึง 36,000 ขวดต่อชั่วโมง และปลายปีเตรียมติดตั้งเครื่องจักรขนาด 2 ลิตร"

พร้อมกันนี้บริษัทยังได้รีลอนช์บรรจุภัณฑ์ของนมพาสเจอร์ไรส์ใหม่ทั้งหมด โดยมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบของขวดให้ดูทันสมัย พร้อมเปลี่ยนจากฝาอินเนอร์แค็ปมาเป็นฝาเซฟตี้ ซีล ซึ่งเป็นฝาอลูมินั่มฟอยด์ 2 ชั้น พร้อมด้วยฝาเกลียว เพื่อความสะอาด ปลอดภัย ช่วยคงความสดใสและยืดอายุนม นับเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในรอบ 15 ปี ทั้งนี้เพื่อรองรับกับเอฟทีเอ สำหรับปีนี้บริษัทใช้งบการตลาด 100 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา 40 ล้านบาท โดยปีนี้บริษัทตั้งเป้ากลุ่มนมพาสเจอร์ไรส์จะมีอัตราการเติบโต 20% และตอกย้ำตำแหน่งผู้นำตลาดครองส่วนแบ่งเพิ่มขึ้นจาก 50 % เป็นไม่ต่ำกว่า 55 % จากมูลค่า 2,300 ล้านบาท หรือคิดเป็น 10% ของตลาดรวมมูลค่า 23,000 ล้านบาท

แนวโน้มตลาดนมโดยรวมปีนี้มีอัตราการเติบโต 10-12% โดยเซกเมนต์ที่มีอัตราการเติบโต คือ นมเปรี้ยวจุลินทรีย์โต20% จากมูลค่าตลาด 4,000-5,000 ล้านบาท ส่วนคัพโยเกิร์ตมูลค่า 1,500 ล้านบาท เติบโต 10% พาสเจอร์ไรส์มูลค่า 2,300 ล้านบาท โต 10% และนมยูเอชทีตลาด 4,000 ล้านบาท เติบโตเพียง 5% ทั้งนี้เพราะตลาดเริ่มอิ่มตัวแล้ว สำหรับผลประกอบปีนี้บริษัทตั้งเป้า 3,500 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
กำลังโหลดความคิดเห็น