เจเอสแอลสู้ต่อหลังหลายรายการหลุดผังทีวีปีนี้ เดินหน้าผลิตรายการใหม่รูปแบบวาไรตี้ทอล์คโชว์ ออกอากาศช่อง 9 พร้อมเปิดตัวรายการใหม่ที่ช่อง 7 แทนรายการแข่งร้อยได้ล้าน เล็งลงทุนและสร้างรายได้เพิ่มจากบริษัท ทีวีบูรพา ดึงคอนเทนท์ต่อยอดธุรกิจสิ่งพิมพ์ ด้านยอดรายได้ปีนี้ไม่หวังเติบโต
นางจำนรรค์ ศิริตัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเจเอสแอล จำกัด เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานในปีนี้บริษัทฯจะเน้นทำรายการให้มีคุณภาพมากกว่าการขยายในแง่ปริมาณ โดยบริษัทฯเตรียมปรับเปลี่ยนรูปแบบรายการใหม่ ล่าสุดเปิดตัวรายการวาไรตี้ทอล์คโชว์ทางโมเดิร์นไนน์ทีวี ภายใต้ชื่อ “สุริวิภา” และจะมีรายการใหม่อีก 1 รายการแทนแข่งร้อยได้ล้านที่ออกอากาศทางช่อง 7 คาดว่าจะมีการเปิดตัวเร็วๆนี้
ขณะที่รายการอื่นๆ ของบริษัทฯ เช่น 07โชว์ ได้มีการปรับรูปแบบรายการไปบ้างแล้วในเรื่องการแข่งร้องเพลงคาราโอเกะซึ่งถือว่าเป็นจุดเด่นของรายการ ,รายการเจาะใจ ที่นำเสนอรูปแบบรายการแบบเรียลลิตี้หรือมีการสัมภาษณ์คนและเจาะกิจกรรม และรายการจันทร์พันดาวที่มาแทนที่รายการจันทร์เจ้าของ ทางช่อง 7
ปัจจุบันรายการของบริษัทฯและบริษัททีวีบูรพา ซึ่งเป็นบริษัทในเครือเจ เอส แอล มีกว่า9 รายการ ได้แก่ คน ค้น คน, กบนอกกะลา,หลุมดำ ออกอากาศทางโมเดิร์นไนน์ รายการแข่งร้อยได้ล้าน, 07 โชว์ และจันทร์พันดาว ออกอากาศทางช่อง 7 ส่วนรายการกล้าแลกและเจาะใจ ออกอากาศทางช่อง 5 เป็นต้น ทั้งนี้บริษัทฯคาดว่าทุกรายการน่าจะขายโฆษณาได้เต็มหมด โดยปัจจุบันขายโฆษณาไปได้แล้วประมาณ 70-80%
ในภาวะเศรษฐกิจที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ในปัจจุบันทำให้บริษัทฯเล็งลงทุนในบริษัททีวีบูรพา จำกัดเพิ่มเติมในส่วนของธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ อาทิ มีแผนพัฒนารูปแบบหนังสือหรือนิตยสารในแบบของตัวเอง ,อาจทำนิตยสารรายวัน รายปักษ์และรายอาทิตย์ จากปัจจุบันจะมีเพียงพ็อคเก็ตบุ๊คและนิตยสารคน ค้น คน
ประกอบกับปีนี้บริษัทฯจะปรับธุรกิจในส่วนของอีเวนต์โดยตั้งเป้าจะจัดกิจกรรมเพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะในส่วนงานจากเอกชน ซึ่งสัดส่วนงานอีเวนต์ของบริษัทฯ จะแบ่งเป็นของรัฐบาล 50% และเอกชน 50%
สำหรับยอดรายได้ปี 2549นี้บริษัทฯคาดการณ์ว่าจะมีอัตราการเท่ากับยอดรายได้ปีที่แล้วที่มีมูลค่าเกือบ 1,000 ล้านบาท เนื่องจากมีรายการน้อยลง เช่น รายการกล้าแลกและ50 50 ที่ออกอากาศทางช่อง5 เลิกผลิตไป เนื่องจากยอดรายได้ไม่เป็นไปตามเป้า โดยยอดรายได้แบ่งเป็นธุรกิจทีวีเป็นหลัก 60% อีเวนต์ 30% อื่นๆ 10%
ส่วนตลาดรวมของธุรกิจโทรทัศน์ในปีนี้ มองว่าตลาดจะทรงตัว เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจ หรือการที่ภาครัฐจำกัดเรื่องการโฆษณาแอลกอฮอล์ในสื่อทีวี เป็นต้น แต่ตลาดอาจจะดีขึ้นก็ได้ หากเศรษฐกิจมีแนวโน้มดีขึ้นตามที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้
นางจำนรรค์ ศิริตัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเจเอสแอล จำกัด เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานในปีนี้บริษัทฯจะเน้นทำรายการให้มีคุณภาพมากกว่าการขยายในแง่ปริมาณ โดยบริษัทฯเตรียมปรับเปลี่ยนรูปแบบรายการใหม่ ล่าสุดเปิดตัวรายการวาไรตี้ทอล์คโชว์ทางโมเดิร์นไนน์ทีวี ภายใต้ชื่อ “สุริวิภา” และจะมีรายการใหม่อีก 1 รายการแทนแข่งร้อยได้ล้านที่ออกอากาศทางช่อง 7 คาดว่าจะมีการเปิดตัวเร็วๆนี้
ขณะที่รายการอื่นๆ ของบริษัทฯ เช่น 07โชว์ ได้มีการปรับรูปแบบรายการไปบ้างแล้วในเรื่องการแข่งร้องเพลงคาราโอเกะซึ่งถือว่าเป็นจุดเด่นของรายการ ,รายการเจาะใจ ที่นำเสนอรูปแบบรายการแบบเรียลลิตี้หรือมีการสัมภาษณ์คนและเจาะกิจกรรม และรายการจันทร์พันดาวที่มาแทนที่รายการจันทร์เจ้าของ ทางช่อง 7
ปัจจุบันรายการของบริษัทฯและบริษัททีวีบูรพา ซึ่งเป็นบริษัทในเครือเจ เอส แอล มีกว่า9 รายการ ได้แก่ คน ค้น คน, กบนอกกะลา,หลุมดำ ออกอากาศทางโมเดิร์นไนน์ รายการแข่งร้อยได้ล้าน, 07 โชว์ และจันทร์พันดาว ออกอากาศทางช่อง 7 ส่วนรายการกล้าแลกและเจาะใจ ออกอากาศทางช่อง 5 เป็นต้น ทั้งนี้บริษัทฯคาดว่าทุกรายการน่าจะขายโฆษณาได้เต็มหมด โดยปัจจุบันขายโฆษณาไปได้แล้วประมาณ 70-80%
ในภาวะเศรษฐกิจที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ในปัจจุบันทำให้บริษัทฯเล็งลงทุนในบริษัททีวีบูรพา จำกัดเพิ่มเติมในส่วนของธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ อาทิ มีแผนพัฒนารูปแบบหนังสือหรือนิตยสารในแบบของตัวเอง ,อาจทำนิตยสารรายวัน รายปักษ์และรายอาทิตย์ จากปัจจุบันจะมีเพียงพ็อคเก็ตบุ๊คและนิตยสารคน ค้น คน
ประกอบกับปีนี้บริษัทฯจะปรับธุรกิจในส่วนของอีเวนต์โดยตั้งเป้าจะจัดกิจกรรมเพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะในส่วนงานจากเอกชน ซึ่งสัดส่วนงานอีเวนต์ของบริษัทฯ จะแบ่งเป็นของรัฐบาล 50% และเอกชน 50%
สำหรับยอดรายได้ปี 2549นี้บริษัทฯคาดการณ์ว่าจะมีอัตราการเท่ากับยอดรายได้ปีที่แล้วที่มีมูลค่าเกือบ 1,000 ล้านบาท เนื่องจากมีรายการน้อยลง เช่น รายการกล้าแลกและ50 50 ที่ออกอากาศทางช่อง5 เลิกผลิตไป เนื่องจากยอดรายได้ไม่เป็นไปตามเป้า โดยยอดรายได้แบ่งเป็นธุรกิจทีวีเป็นหลัก 60% อีเวนต์ 30% อื่นๆ 10%
ส่วนตลาดรวมของธุรกิจโทรทัศน์ในปีนี้ มองว่าตลาดจะทรงตัว เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจ หรือการที่ภาครัฐจำกัดเรื่องการโฆษณาแอลกอฮอล์ในสื่อทีวี เป็นต้น แต่ตลาดอาจจะดีขึ้นก็ได้ หากเศรษฐกิจมีแนวโน้มดีขึ้นตามที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้