2 สมาคมรถโดยสารร่วมบริการเข้าพบ “พล.อ.ชัยนันท์ เจริญศิริ” ทวงถามการปรับขึ้นค่าโดยสารรถร่วมบริการทั้งขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) และบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) โดยรถร่วมธรรมดา ขสมก.ขอปรับขึ้นอีก 1 บาท ส่วนรถปรับอากาศขอปรับอีกระยะละ 1 บาท ขณะที่รถร่วม บขส.ขอปรับเพิ่มอีก 3 สตางค์ต่อกิโลเมตร ขณะที่ “พล.อ.ชัยนันท์” ปฏิเสธให้ขึ้นค่าโดยสารแน่นอน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มสมาคมกิจการรถโดยสารประจำทาง พร้อมด้วยสมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารประจำทาง ประกอบด้วยรถร่วมบริการ ขสมก. และ บขส.ประมาณ 100 คน ได้เดินทางเข้าพบ พล.อ.ชัยนันท์ เจริญศิริ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม
นายอภิวุฒิ ทองคำ นายกสมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารประจำทาง กล่าวก่อนเข้าพบ พล.อ.ชัยนันท์ ว่าเพื่อทวงถามกรณีที่จะให้ปรับค่าโดยสารสำหรับรถร่วมบริการ ขสมก.ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2549 แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการปรับค่าโดยสารใดๆ ทั้งที่ราคาน้ำมันได้เพิ่มขึ้นจากปลายปี 2548 ลิตรละ 24.19 บาท เป็น 24.29 บาทแล้วในขณะนี้ จึงขอปรับราคาค่าโดยสารเพิ่มขึ้นอีก 1 บาท สำหรับรถโดยสารธรรมดา ส่วนรถโดยสารปรับอากาศขอปรับเพิ่มขึ้นระยะละ 1 บาท และถ้าราคาน้ำมันดีเซลยังปรับสูงขึ้นกว่าปัจจุบัน สมาคมก็ขออนุญาตปรับอัตราค่าโดยสารอีก 1 บาทต่อการปรับราคาน้ำมันดีเซลทุกลิตรละ 2 บาท เชื่อว่าจะได้รับการพิจารณาจากกระทรวงคมนาคมและประชาชนคงจะเข้าใจ เพราะผู้ประกอบการไม่สามารถรับภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้นได้แล้ว โดยรถร่วมบริการ ขสมก. มีจำนวน 3,800 คัน
นายพิเชษฐ์ บุรเศรษฐ นายกสมาคมกิจการรถโดยสารประจำทาง กล่าวว่า สมาคมต้องการให้กระทรวงคมนาคมอนุมัติให้ปรับค่าโดยสารตามที่คณะกรรมการขนส่งทางบกกลางได้กำหนดไว้ หากราคาน้ำมันปรับขึ้นจะให้ปรับค่าโดยสารได้ โดยขอปรับในอัตรา 3 สตางค์ต่อกิโลเมตร
ด้าน พล.อ.ชัยนันท์ กล่าวยืนยันว่า ขณะนี้จะยังไม่ให้ปรับค่าโดยสารแน่นอน แม้ว่าผู้ประกอบการจะอ้างราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นก็ตาม เพราะราคาน้ำมันมีขึ้นมีลง และกระทรวงคมนาคมยังเน้นว่าผู้ประกอบการจะต้องปรับปรุงคุณภาพการบริการ สภาพรถ และพนักงานขับรถให้อยู่ในมาตรฐานที่พร้อมให้บริการประชาชนให้ได้รับคุณภาพการบริการที่ดี ขณะเดียวกัน กระทรวงคมนาคมจะหารือกับบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) เพื่อนำรถโดยสารของ ขสมก.กว่า 1,200 คัน ไปปรับเปลี่ยนเติมก๊าซเอ็นจีวี ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนและแก้ไขปัญหาได้ในระดับหนึ่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มสมาคมกิจการรถโดยสารประจำทาง พร้อมด้วยสมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารประจำทาง ประกอบด้วยรถร่วมบริการ ขสมก. และ บขส.ประมาณ 100 คน ได้เดินทางเข้าพบ พล.อ.ชัยนันท์ เจริญศิริ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม
นายอภิวุฒิ ทองคำ นายกสมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารประจำทาง กล่าวก่อนเข้าพบ พล.อ.ชัยนันท์ ว่าเพื่อทวงถามกรณีที่จะให้ปรับค่าโดยสารสำหรับรถร่วมบริการ ขสมก.ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2549 แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการปรับค่าโดยสารใดๆ ทั้งที่ราคาน้ำมันได้เพิ่มขึ้นจากปลายปี 2548 ลิตรละ 24.19 บาท เป็น 24.29 บาทแล้วในขณะนี้ จึงขอปรับราคาค่าโดยสารเพิ่มขึ้นอีก 1 บาท สำหรับรถโดยสารธรรมดา ส่วนรถโดยสารปรับอากาศขอปรับเพิ่มขึ้นระยะละ 1 บาท และถ้าราคาน้ำมันดีเซลยังปรับสูงขึ้นกว่าปัจจุบัน สมาคมก็ขออนุญาตปรับอัตราค่าโดยสารอีก 1 บาทต่อการปรับราคาน้ำมันดีเซลทุกลิตรละ 2 บาท เชื่อว่าจะได้รับการพิจารณาจากกระทรวงคมนาคมและประชาชนคงจะเข้าใจ เพราะผู้ประกอบการไม่สามารถรับภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้นได้แล้ว โดยรถร่วมบริการ ขสมก. มีจำนวน 3,800 คัน
นายพิเชษฐ์ บุรเศรษฐ นายกสมาคมกิจการรถโดยสารประจำทาง กล่าวว่า สมาคมต้องการให้กระทรวงคมนาคมอนุมัติให้ปรับค่าโดยสารตามที่คณะกรรมการขนส่งทางบกกลางได้กำหนดไว้ หากราคาน้ำมันปรับขึ้นจะให้ปรับค่าโดยสารได้ โดยขอปรับในอัตรา 3 สตางค์ต่อกิโลเมตร
ด้าน พล.อ.ชัยนันท์ กล่าวยืนยันว่า ขณะนี้จะยังไม่ให้ปรับค่าโดยสารแน่นอน แม้ว่าผู้ประกอบการจะอ้างราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นก็ตาม เพราะราคาน้ำมันมีขึ้นมีลง และกระทรวงคมนาคมยังเน้นว่าผู้ประกอบการจะต้องปรับปรุงคุณภาพการบริการ สภาพรถ และพนักงานขับรถให้อยู่ในมาตรฐานที่พร้อมให้บริการประชาชนให้ได้รับคุณภาพการบริการที่ดี ขณะเดียวกัน กระทรวงคมนาคมจะหารือกับบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) เพื่อนำรถโดยสารของ ขสมก.กว่า 1,200 คัน ไปปรับเปลี่ยนเติมก๊าซเอ็นจีวี ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนและแก้ไขปัญหาได้ในระดับหนึ่ง