ชวาร์สคอฟรุกหนักตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม ภายใต้แบรนด์ “เซีย” เกาะกระแสผู้บริโภคห่วงใยสุขภาพผมมากขึ้น พร้อมขยายช่องทางใหม่สู่โรงแรม 4-5 ดาว หวังตามติดผู้นำตลาดอย่างลอรีอัลแบบใกล้ชิด ล่าสุดร่วมมือกับพันธมิตรคัท แอนด์ เคิร์ลเปิดซาลอนระดับพรีเมี่ยม ตั้งเป้าภายใน 5 ปีกลุ่มแฮร์แคร์ทำรายได้อันดับ 1 ส่วนปีนี้คาดยอดขายรวมโต 15%
นายจักรกฤศ เดชวรสุทธิ ผู้จัดการแบรนด์เซีย, โอซิส และโบนาเคียว บริษัท เฮงเค็ลไทย (1999) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม ภายใต้แบรนด์ “ชวาร์สคอฟ โปรเฟสชั่นแนล” เปิดเผยว่า บริษัทฯเตรียมรุกทำตลาดกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมมากขึ้น ภายใต้แบรนด์ “เซีย” ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมระดับพรีเมี่ยมในระดับราคา 1-5 พันบาท โดยมีกลุ่มเป้าหมายหลัก คือ กลุ่มบีถึงเอหรือคนที่ต้องการดูแลสุขภาพผมเป็นพิเศษ ซึ่งการที่บริษัทฯรุกตลาดนี้ เนื่องเทรนด์ของผู้บริโภคคนไทยเบื่อการทำสีผมและหันมาใส่ใจกับสุขภาพผมมากขึ้น และปีที่ผ่านมากลุ่มนี้ก็มีอัตราการโตสูง ขณะที่การแข่งขันปีนี้เชื่อว่าจะมีการแข่งขันสูงทั้งในแง่ยอดขายและปริมาณสินค้า
“ปัจจุบันช่องทางการจำหน่ายสินค้าของชวาร์สคอฟจะเน้นขายผ่านร้านทำผมทั่วไปกว่า 2 พันรายทั่วประเทศ ปีนี้ชวาร์สคอฟมีแผนขยายช่องทางใหม่ไปยังโรงแรม 4-5 ดาวหรือโรงแรมที่มีสปาชั้นสูงที่เปิดให้บริการลูกค้า ล่าสุดบริษัทฯได้เจรจากับรร.ทวิน ปาล์ม จ.ภูเก็ตและรอยัล คลิฟ พัทยาแล้วในการนำผลิตภัณฑ์แบรนด์เซียเข้าไปทำตลาด”
ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ของชวาร์สคอฟมี 4 กลุ่ม ได้แก่ บาลานซ์แฮร์, กลุ่มสีผม, กลุ่มผมเสีย และกลุ่มบำรุง เช่น แบรนด์เซีย,ผลิตภัณฑ์คืนความอ่อนเยาว์ให้เส้นผม โดยกลุ่มที่ทำรายได้มากสุด คือ กลุ่มสีผม คิดเป็นสัดส่วน 40% รองมาเป็นกลุ่มยืดและดัดผม 30% และผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมอีก 20% โดยบริษัทฯตั้งเป้าภายใน 5 ปีจะเพิ่มสัดส่วนกลุ่มแฮร์แคร์ให้มียอดขายอันดับ 1 ในสัดส่วน 50% สำหรับยอดขายบริษัทฯปี2548 พบว่ามีอัตราการโต 5% ซึ่งถือว่าโตน้อย เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจและผู้บริโภคเข้าร้านทำผมน้อยลง ในปีนี้คาดการณ์ว่ายอดรายได้ของบริษัทฯจะโตขึ้น 15%
สำหรับมูลค่าตลาดรวมของผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับผม (ตลาดแมส) มีมูลค่า 5 พันล้านบาท แบ่งเป็นกลุ่มสีผม 60% แฮร์แคร์ 30% และที่เหลือเป็นอื่นๆ เช่น ยืดผม,ตกแต่งเส้นผม โดยหากคิดเฉพาะในตลาดดูแลเส้นผมกลุ่มแฮร์แคร์หรือบำรุงเส้นผมจะมีมูลค่าประมาณ 2 พันล้านบาท แบ่งออกเป็นกลุ่มพรีเมี่ยม 500 ล้านบาทหรือมีอัตราการโต 20% ปัจจุบันผู้นำตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลผม คือ เคราสตาสของลอรีอัล ครองส่วนแบ่งการตลาด 80%
ส่วนชวาร์สคอฟอยู่อันดับ 2 ด้วยแชร์ 15% แต่บริษัทฯตั้งเป้าภายใน 3 ปีจะมีแชร์เพิ่มเป็น 40% จากการที่บริษัทฯได้สร้างพันธมิตรทางธุรกิจ เช่น การร่วมกับร้านทำผมคัท แอนด์ เคิร์ลเปิด "เซีย แฮร์ เวลเนส เซ็นเตอร์ แอนด์ เคิร์ล" ที่เดอะมอลล์ บางกะปิ โดยจุดขายของร้านนี้จะใช้ผลิตภัณฑ์เซียซึ่งเป็นสินค้าระดับพรีเมี่ยมที่มีราคาสูงกว่าคู่แข่ง 15%ในการทำตลาด ล่าสุดเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ภายใต้แบรนด์ เซีย แฮร์สปา ได้แก่ เซีย โซฟิสิเคทเต็ด แฮร์ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมระดับพรีเมี่ยม
นายจักรกฤศ เดชวรสุทธิ ผู้จัดการแบรนด์เซีย, โอซิส และโบนาเคียว บริษัท เฮงเค็ลไทย (1999) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม ภายใต้แบรนด์ “ชวาร์สคอฟ โปรเฟสชั่นแนล” เปิดเผยว่า บริษัทฯเตรียมรุกทำตลาดกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมมากขึ้น ภายใต้แบรนด์ “เซีย” ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมระดับพรีเมี่ยมในระดับราคา 1-5 พันบาท โดยมีกลุ่มเป้าหมายหลัก คือ กลุ่มบีถึงเอหรือคนที่ต้องการดูแลสุขภาพผมเป็นพิเศษ ซึ่งการที่บริษัทฯรุกตลาดนี้ เนื่องเทรนด์ของผู้บริโภคคนไทยเบื่อการทำสีผมและหันมาใส่ใจกับสุขภาพผมมากขึ้น และปีที่ผ่านมากลุ่มนี้ก็มีอัตราการโตสูง ขณะที่การแข่งขันปีนี้เชื่อว่าจะมีการแข่งขันสูงทั้งในแง่ยอดขายและปริมาณสินค้า
“ปัจจุบันช่องทางการจำหน่ายสินค้าของชวาร์สคอฟจะเน้นขายผ่านร้านทำผมทั่วไปกว่า 2 พันรายทั่วประเทศ ปีนี้ชวาร์สคอฟมีแผนขยายช่องทางใหม่ไปยังโรงแรม 4-5 ดาวหรือโรงแรมที่มีสปาชั้นสูงที่เปิดให้บริการลูกค้า ล่าสุดบริษัทฯได้เจรจากับรร.ทวิน ปาล์ม จ.ภูเก็ตและรอยัล คลิฟ พัทยาแล้วในการนำผลิตภัณฑ์แบรนด์เซียเข้าไปทำตลาด”
ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ของชวาร์สคอฟมี 4 กลุ่ม ได้แก่ บาลานซ์แฮร์, กลุ่มสีผม, กลุ่มผมเสีย และกลุ่มบำรุง เช่น แบรนด์เซีย,ผลิตภัณฑ์คืนความอ่อนเยาว์ให้เส้นผม โดยกลุ่มที่ทำรายได้มากสุด คือ กลุ่มสีผม คิดเป็นสัดส่วน 40% รองมาเป็นกลุ่มยืดและดัดผม 30% และผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมอีก 20% โดยบริษัทฯตั้งเป้าภายใน 5 ปีจะเพิ่มสัดส่วนกลุ่มแฮร์แคร์ให้มียอดขายอันดับ 1 ในสัดส่วน 50% สำหรับยอดขายบริษัทฯปี2548 พบว่ามีอัตราการโต 5% ซึ่งถือว่าโตน้อย เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจและผู้บริโภคเข้าร้านทำผมน้อยลง ในปีนี้คาดการณ์ว่ายอดรายได้ของบริษัทฯจะโตขึ้น 15%
สำหรับมูลค่าตลาดรวมของผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับผม (ตลาดแมส) มีมูลค่า 5 พันล้านบาท แบ่งเป็นกลุ่มสีผม 60% แฮร์แคร์ 30% และที่เหลือเป็นอื่นๆ เช่น ยืดผม,ตกแต่งเส้นผม โดยหากคิดเฉพาะในตลาดดูแลเส้นผมกลุ่มแฮร์แคร์หรือบำรุงเส้นผมจะมีมูลค่าประมาณ 2 พันล้านบาท แบ่งออกเป็นกลุ่มพรีเมี่ยม 500 ล้านบาทหรือมีอัตราการโต 20% ปัจจุบันผู้นำตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลผม คือ เคราสตาสของลอรีอัล ครองส่วนแบ่งการตลาด 80%
ส่วนชวาร์สคอฟอยู่อันดับ 2 ด้วยแชร์ 15% แต่บริษัทฯตั้งเป้าภายใน 3 ปีจะมีแชร์เพิ่มเป็น 40% จากการที่บริษัทฯได้สร้างพันธมิตรทางธุรกิจ เช่น การร่วมกับร้านทำผมคัท แอนด์ เคิร์ลเปิด "เซีย แฮร์ เวลเนส เซ็นเตอร์ แอนด์ เคิร์ล" ที่เดอะมอลล์ บางกะปิ โดยจุดขายของร้านนี้จะใช้ผลิตภัณฑ์เซียซึ่งเป็นสินค้าระดับพรีเมี่ยมที่มีราคาสูงกว่าคู่แข่ง 15%ในการทำตลาด ล่าสุดเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ภายใต้แบรนด์ เซีย แฮร์สปา ได้แก่ เซีย โซฟิสิเคทเต็ด แฮร์ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมระดับพรีเมี่ยม