กรมศุลกากรฟ้องดำเนินคดีชิปปิ้ง แอบอ้างเรียกรับเงินจากผู้ประกอบการ เพื่ออำนวยความสะดวกในการตรวจปล่อยสินค้านำเข้า ขู่ขึ้นบัญชีดำหากชิปปิ้งรายใดทุจริต
นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธ์ อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวว่า นางทิภาพร อินนาจิตร ผู้ประกอบการนำเข้าสินค้า ซึ่งเป็นผู้เสียหาย ได้มาร้องเรียนต่อเจ้าหน้าที่ศุลกากร ว่า ได้มีตัวแทนออกของรับอนุญาต (ชิปปิ้ง) แอบอ้างชื่อเจ้าหน้าที่ของกรมศุลกากรที่คลังสินค้าทัณฑ์บนลาดกระบัง เพื่อนำเงินไปส่งให้เจ้าหน้าที่เป็นเงิน 20,000 บาท ในการอำนวยความสะดวกในการตรวจปล่อยสินค้านำเข้า ทั้งที่ผู้ประกอบการได้ชำระภาษีถูกต้องตามกฎหมายทุกขั้นตอนร้อยละ 40 ของมูลค่าการนำเข้า หลังจากได้ทำการตรวจสอบกรณีดังกล่าวแล้วไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด โดยไม่มีเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้อง เพราะการนำเข้าในช่วงดังกล่าว ได้ตรวจปล่อยสินค้าตั้งแต่ช่วงบ่าย ขณะที่ชิปปิ้งได้ไปเรียกรับเงินจากเจ้าหน้าที่ในช่วงเวลา 16.00 น. ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากได้มีการตรวจปล่อยสินค้าไปแล้ว
นายสถิตย์ กล่าวว่า การกระทำดังกล่าว นับว่าสร้างความเสียหายให้กับกรมศุลกากร ดังนั้น จึงได้เตรียมฟ้องร้องดำเนินคดีเอาผิดกับชิปปิ้ง และบริษัท จัสมิน สยาม คอร์ปอเรชั่น จำกัด รวมทั้งผู้จัดการของบริษัทใน 2 ข้อหา คือ การหมิ่นประมาททำให้กรมศุลกากรเสียหาย และการฉ้อโกงประชาชน รวมทั้งเตรียมยกเลิกใบอนุญาตการเป็นตัวแทนออกของรับอนุญาตของชิปปิ้งคนดังกล่าว และเตรียมขึ้นบัญชีดำหากกลุ่มบุคคลดังกล่าวไปตั้งบริษัทใหม่เพื่อมาติดต่อกับกรมศุลกากร รวมทั้งชิปปิ้งรายอื่นที่ยังกระทำเช่นเดียวกับผู้ถูกดำเนินคดี
นอกจากนี้ วันที่ 17 มกราคมนี้ จะเสนอแผนการปรับเปลี่ยนบทบาทองค์กรของกรมศุลกากรเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อสร้างภาพลักษณ์ใหม่ โดยเฉพาะปัญหาคอร์รัปชั่น เนื่องจากนายกรัฐมนตรีต้องการให้กรมศุลกากรเป็นแบบอย่างในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว
นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธ์ อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวว่า นางทิภาพร อินนาจิตร ผู้ประกอบการนำเข้าสินค้า ซึ่งเป็นผู้เสียหาย ได้มาร้องเรียนต่อเจ้าหน้าที่ศุลกากร ว่า ได้มีตัวแทนออกของรับอนุญาต (ชิปปิ้ง) แอบอ้างชื่อเจ้าหน้าที่ของกรมศุลกากรที่คลังสินค้าทัณฑ์บนลาดกระบัง เพื่อนำเงินไปส่งให้เจ้าหน้าที่เป็นเงิน 20,000 บาท ในการอำนวยความสะดวกในการตรวจปล่อยสินค้านำเข้า ทั้งที่ผู้ประกอบการได้ชำระภาษีถูกต้องตามกฎหมายทุกขั้นตอนร้อยละ 40 ของมูลค่าการนำเข้า หลังจากได้ทำการตรวจสอบกรณีดังกล่าวแล้วไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด โดยไม่มีเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้อง เพราะการนำเข้าในช่วงดังกล่าว ได้ตรวจปล่อยสินค้าตั้งแต่ช่วงบ่าย ขณะที่ชิปปิ้งได้ไปเรียกรับเงินจากเจ้าหน้าที่ในช่วงเวลา 16.00 น. ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากได้มีการตรวจปล่อยสินค้าไปแล้ว
นายสถิตย์ กล่าวว่า การกระทำดังกล่าว นับว่าสร้างความเสียหายให้กับกรมศุลกากร ดังนั้น จึงได้เตรียมฟ้องร้องดำเนินคดีเอาผิดกับชิปปิ้ง และบริษัท จัสมิน สยาม คอร์ปอเรชั่น จำกัด รวมทั้งผู้จัดการของบริษัทใน 2 ข้อหา คือ การหมิ่นประมาททำให้กรมศุลกากรเสียหาย และการฉ้อโกงประชาชน รวมทั้งเตรียมยกเลิกใบอนุญาตการเป็นตัวแทนออกของรับอนุญาตของชิปปิ้งคนดังกล่าว และเตรียมขึ้นบัญชีดำหากกลุ่มบุคคลดังกล่าวไปตั้งบริษัทใหม่เพื่อมาติดต่อกับกรมศุลกากร รวมทั้งชิปปิ้งรายอื่นที่ยังกระทำเช่นเดียวกับผู้ถูกดำเนินคดี
นอกจากนี้ วันที่ 17 มกราคมนี้ จะเสนอแผนการปรับเปลี่ยนบทบาทองค์กรของกรมศุลกากรเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อสร้างภาพลักษณ์ใหม่ โดยเฉพาะปัญหาคอร์รัปชั่น เนื่องจากนายกรัฐมนตรีต้องการให้กรมศุลกากรเป็นแบบอย่างในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว