โมด โมเดล ชี้ธุรกิจโมเดลลิ่งปี 2549 แข่งขันสูงขึ้น ตัวสินค้าเน้นใช้นายแบบ-นางแบบนำเสนอภาพลักษณ์สินค้า ยันไม่หวั่นพิษเศรษฐกิจและไข้หวัดนกกระทบธุรกิจ พร้อมสร้างความได้เปรียบเอเจนซีอื่น ในการเป็นศูนย์กลางนายแบบ-นางแบบของเอเชีย ตั้งเป้าปี 49 รายได้โต 21%
นายเทพรัตน์ สงเคราะห์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โมด โมเดล จำกัด เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแข่งขันในธุรกิจโฆษณาที่ทวีความเข้มข้นมากขึ้นตามลำดับ จะส่งผลให้ธุรกิจ โมเดลลิ่งในปี 2549นี้ มีการแข่งขันกันสูงขึ้นตามด้วย เพราะธุรกิจและตัวสินค้าจำเป็นต้องใช้นายแบบ-นางแบบในการเสนอภาพลักษณ์สินค้าและบริการ เพื่อหวังเพิ่มและรักษาส่วนแบ่งตลาดของตน
ตามที่คาดการณ์ไว้ว่าการตลาดปี 2549 มีปัจจัยลบหลายด้าน ทั้งจากการที่ดอกเบี้ยขึ้น ไข้หวัดนก และราคาน้ำมันขึ้น เชื่อว่าจะยังไม่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจโมเดลลิ่งมากนัก แต่พฤติกรรมลูกค้าคงจะต้องมีการปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ หรือมีการใช้งบประมาณอย่างระมัดระวัง ไม่ใช้งบประมาณกระจาย แต่ในทางกลับกัน ต้องถือว่าเป็นโอกาสดีของธุรกิจโมเดลลิ่ง เพราะลูกค้าจะเลือกใช้นายแบบ-นางแบบที่มีคุณภาพมากขึ้น
“ขณะนี้ ประเทศไทยมีแนวโน้มการตลาดแบบผู้บริโภคเป็นศูนย์กลางมากขึ้น ดังนั้น บริษัทโมเดลลิ่งที่สามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้มากที่สุด จึงจะอยู่รอดได้ สำหรับโมด โมเดล เรามั่นใจในสินค้าที่มีอยู่ กล่าวได้ว่าเรามีนายแบบ-นางแบบโปรเฟสชั่นแนลมากที่สุดเป็นอันดับต้นในเอเชีย มีคุณภาพ มีความทันสมัยและมีความหลากหลายเป็นที่ต้องการของตลาด ทำให้เราสามารถสนองความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี” นายเทพรัตน์ กล่าว
ด้านทิศทางความต้องการนายแบบ-นางแบบของตลาดเมืองไทย ยังแบ่งเป็น 2 กลุ่มอย่างชัดเจน คือสินค้าโฆษณากลุ่มอุปโภคบริโภค ยังคงเน้นกลุ่มดาราซูเปอร์สตาร์และดาราชั้นนำที่มีชื่อเสียงของไทยเป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้าและนายแบบ-นางแบบลูกครึ่ง ส่วนด้านตลาดแฟชั่น นิยมใช้บริการนายแบบ-นางแบบโปรเฟสชั่นแนลจากต่างชาติ ซึ่งขณะนี้ โมด โมเดลยังครองส่วนแบ่งตลาด ทั้งสองส่วนกว่า 50% ด้วย
นายเทพรัตน์ กล่าวต่อว่า ด้านกลยุทธ์การตลาดของ โมด โมเดล ในปี 2549 นี้ จะยังคงรักษาตำแหน่งการเป็นโมเดลลิ่งอันดับหนึ่งของไทยต่อไป และจะเพิ่มเป้าหมายในการก้าวสู่อันดับหนึ่งของเอเชียภายใน 5 ปี โดยเน้นการสร้างเครือข่ายที่แข็งแกร่งกับโมเดลลิ่งชั้นนำอื่น ๆ ในเอเชีย เพื่อเป็นศูนย์กลางนายแบบ-นางแบบจากทุกมุมโลก ซึ่งขณะนี้มีอยู่ในฐานข้อมูลถึง 6,000 กว่าคน รวมทั้งจะผลักดันนายแบบ-นางแบบไทยออกสู่ตลาดเอเชียมากขึ้นด้วย
สำหรับยอดรายได้ปี 2548 ของโมด โมเดล มียอดรวมมากกว่า 60 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% จากปีที่แล้ว โดยรายได้หลักมาจากโฆษณาทางสื่อโทรทัศน์และสิ่งพิมพ์ คิดเป็น 80% ของรายได้ทั้งหมด ในขณะที่ยังครองส่วนแบ่งการตลาดมากที่สุดในตลาดนิตยสารแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ โดยขณะนี้มีนายแบบ-นางแบบโปรเฟสชั่นแนลจากต่างชาติในสังกัดเฉลี่ยไม่น้อยกว่า 50 คนต่อเดือน
ส่วนปี 2549 บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดรายได้ไว้ที่ประมาณ 85 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 21% โดยจะเน้นสัดส่วนนายแบบ-นางแบบภาพลักษณ์ลูกครึ่งเอเชีย 70% และภาพลักษณ์ยุโรป 30% เนื่องจากภาพลักษณ์เอเชียยังคงเป็นที่ต้องการของตลาดโฆษณามากกว่า
นายเทพรัตน์ สงเคราะห์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โมด โมเดล จำกัด เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแข่งขันในธุรกิจโฆษณาที่ทวีความเข้มข้นมากขึ้นตามลำดับ จะส่งผลให้ธุรกิจ โมเดลลิ่งในปี 2549นี้ มีการแข่งขันกันสูงขึ้นตามด้วย เพราะธุรกิจและตัวสินค้าจำเป็นต้องใช้นายแบบ-นางแบบในการเสนอภาพลักษณ์สินค้าและบริการ เพื่อหวังเพิ่มและรักษาส่วนแบ่งตลาดของตน
ตามที่คาดการณ์ไว้ว่าการตลาดปี 2549 มีปัจจัยลบหลายด้าน ทั้งจากการที่ดอกเบี้ยขึ้น ไข้หวัดนก และราคาน้ำมันขึ้น เชื่อว่าจะยังไม่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจโมเดลลิ่งมากนัก แต่พฤติกรรมลูกค้าคงจะต้องมีการปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ หรือมีการใช้งบประมาณอย่างระมัดระวัง ไม่ใช้งบประมาณกระจาย แต่ในทางกลับกัน ต้องถือว่าเป็นโอกาสดีของธุรกิจโมเดลลิ่ง เพราะลูกค้าจะเลือกใช้นายแบบ-นางแบบที่มีคุณภาพมากขึ้น
“ขณะนี้ ประเทศไทยมีแนวโน้มการตลาดแบบผู้บริโภคเป็นศูนย์กลางมากขึ้น ดังนั้น บริษัทโมเดลลิ่งที่สามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้มากที่สุด จึงจะอยู่รอดได้ สำหรับโมด โมเดล เรามั่นใจในสินค้าที่มีอยู่ กล่าวได้ว่าเรามีนายแบบ-นางแบบโปรเฟสชั่นแนลมากที่สุดเป็นอันดับต้นในเอเชีย มีคุณภาพ มีความทันสมัยและมีความหลากหลายเป็นที่ต้องการของตลาด ทำให้เราสามารถสนองความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี” นายเทพรัตน์ กล่าว
ด้านทิศทางความต้องการนายแบบ-นางแบบของตลาดเมืองไทย ยังแบ่งเป็น 2 กลุ่มอย่างชัดเจน คือสินค้าโฆษณากลุ่มอุปโภคบริโภค ยังคงเน้นกลุ่มดาราซูเปอร์สตาร์และดาราชั้นนำที่มีชื่อเสียงของไทยเป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้าและนายแบบ-นางแบบลูกครึ่ง ส่วนด้านตลาดแฟชั่น นิยมใช้บริการนายแบบ-นางแบบโปรเฟสชั่นแนลจากต่างชาติ ซึ่งขณะนี้ โมด โมเดลยังครองส่วนแบ่งตลาด ทั้งสองส่วนกว่า 50% ด้วย
นายเทพรัตน์ กล่าวต่อว่า ด้านกลยุทธ์การตลาดของ โมด โมเดล ในปี 2549 นี้ จะยังคงรักษาตำแหน่งการเป็นโมเดลลิ่งอันดับหนึ่งของไทยต่อไป และจะเพิ่มเป้าหมายในการก้าวสู่อันดับหนึ่งของเอเชียภายใน 5 ปี โดยเน้นการสร้างเครือข่ายที่แข็งแกร่งกับโมเดลลิ่งชั้นนำอื่น ๆ ในเอเชีย เพื่อเป็นศูนย์กลางนายแบบ-นางแบบจากทุกมุมโลก ซึ่งขณะนี้มีอยู่ในฐานข้อมูลถึง 6,000 กว่าคน รวมทั้งจะผลักดันนายแบบ-นางแบบไทยออกสู่ตลาดเอเชียมากขึ้นด้วย
สำหรับยอดรายได้ปี 2548 ของโมด โมเดล มียอดรวมมากกว่า 60 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% จากปีที่แล้ว โดยรายได้หลักมาจากโฆษณาทางสื่อโทรทัศน์และสิ่งพิมพ์ คิดเป็น 80% ของรายได้ทั้งหมด ในขณะที่ยังครองส่วนแบ่งการตลาดมากที่สุดในตลาดนิตยสารแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ โดยขณะนี้มีนายแบบ-นางแบบโปรเฟสชั่นแนลจากต่างชาติในสังกัดเฉลี่ยไม่น้อยกว่า 50 คนต่อเดือน
ส่วนปี 2549 บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดรายได้ไว้ที่ประมาณ 85 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 21% โดยจะเน้นสัดส่วนนายแบบ-นางแบบภาพลักษณ์ลูกครึ่งเอเชีย 70% และภาพลักษณ์ยุโรป 30% เนื่องจากภาพลักษณ์เอเชียยังคงเป็นที่ต้องการของตลาดโฆษณามากกว่า