xs
xsm
sm
md
lg

โวยบ.รับเหมาวิ่งเซ็งลี้เวลาช่อง5 400ชีวิตตกงาน-โยน“ธรรมรักษ์”จัดการ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผู้ผลิตรายการช่อง 5กว่า 30 บริษัทนำดาราในสังกัดบุกทำเนียบร้องนายกฯ  ถูกปรับผังรายการออกแบบไม่เป็นธรรม แฉมีเสือนอนกินเอาเวลาไปเร่ขาย อ้างชื่อ "โอ๊ค” หากิน ทำเหมือนเป็นที่เซ็งลี้หรือโรงรับจำนำ   ขณะที่ผู้อำนวยการช่อง 5 โยนความรับผิดเป็นความประมาทของผู้ผลิตรายเองที่ไปผลิตรายการล่วงหน้า

เมื่อวานนี้ (22 ธ.ค.)กลุ่มบริษัทผู้ผลิตรายการที่ป้อนให้สถานีโทรทัศน์ช่อง 5 กว่า 30 บริษัท โดยมีนางจำนรรค์ ศิริตัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทเจเอสแอล จำกัด เป็นตัวแทนเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ตึกนารีสโมสร เนื่องจากได้รับความเดือดร้อนจากการถูกปรับผังรายการออกจากสถานีอย่างกระทันหัน ซึ่งประกอบไปด้วย บริษัท เวิร์คพ้อย เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) บริษัท เอ็กแซ็กท์ จำกัด บริษัท ทีวีทันเดอร์ จำกัด เป็นต้น พร้อมด้วยพนักงานกว่า 300 ราย โดยมีนพ. พรหมมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรีมารับหนังสือร้องเรียนแทน

นางจำนรรค์ ศิริตัน กล่าวว่า ที่มาร้องเรียนกับนายกรัฐมนตรี เพราะอยากให้ลงมาช่วยดูแล ททบ.5 ที่เป็นสถานีของประชาชน แต่เกิดความวุ่นวายจากการปรับผังรายการกระทันหัน ทำให้ผู้จัดและพนักงานถูกลอยแพกว่า 400 ชีวิต จึงอยากขอความเป็นธรรม ทั้งนี้ได้เคยร้องเรียนไปยังพล.ท.วุฒิชัย พรวิบูลย์ ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ช่อง 5 เพื่อขอความเป็นธรรมไปแล้วถึง 3 ครั้งแต่ก็ไม่ได้รับคำตอบใดๆ

"เราได้รับแจ้งตั้งแต่วันที่ 7 ธ.ค. ว่า จะมีการปรับผังรายการใหม่ มีผลทันทีตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2549 เพราะตั้งแต่เดือนพ.ย.ปรากฏว่ามีคนเอาเวลามาเร่ขายให้บรรดาผู้จัดรายการเดิมซื้อคืนในราคาที่สูง เช่นบริษัทรับเหมาก่อสร้าง บริษัทค้าไม้ ที่ไม่ได้เป็นผู้เกี่ยวข้องในการผลิตรายการ ไม่ใช่มืออาชีพ แต่เป็นเสือนอนกิน เข้ามาเอาค่าหัวคิว ฉะนั้นเรื่องนี้ผู้ใหญ่ต้องลงมาดู เพราะผู้จัดไม่มีความผิดซึ่งมีบางบริษัทได้ช่วงเวลามากผิดปกติ เรื่องนี้ต้องทำให้โปร่งใส” นางจำนรรค์กล่าว

กลุ่มตัวแทนยืนยันว่าการเรียกร้องครั้งนี้ไม่ได้ต้องการขอเวลารายการกลับคืนแต่มาเพื่อแสดงให้เห็นว่า ผู้บริหารช่อง 5 ไม่ใช่จะทำอะไรได้ตามอำเภอใจ เพราะช่อง 5 เป็นสมบัติสาธารณะ และไม่ใช่สถานที่เซ็งลี้หรือโรงรับจำนำ เมื่อเกิดข้อผิดพลาดที่คนมีพฤติกรรมขาดคุณสมบัติในการเข้ามาทำรายการ ก็ต้องมีการแก้ไขไม่ใช่ผู้บริหารออกมาบอกว่า เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้ให้รอไปจนถึงการปรับผังรายการครั้งใหม่

ด้านพล.ต. เปรมสิน นิติศิริ รองผู้อำนวยการสถานีช่อง 5 ที่ถูกเรียกตัวให้มาชี้แจงกรณีการปรับผังรายการกับนพ.พรหมมินทร์ ในทันที ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวหลังการชี้แจง ยืนยันไม่มีการเปลี่ยนแปลงผังรายการที่ทำไปแล้ว เพราะเป็นเรื่องของคณะกรรมการ ฯเป็นผู้วินิจฉัยว่ารายการไหนควรอยู่หรือไป เป็นเรื่องธรรมดา ทั้งนี้มีการส่งมาถึง 400 บริษัท ซึ่งต้องเข้าใจธรรมชาติตรงนี้ด้วย และมีหลักเกณฑ์หลายอย่างประกอบการพิจารณายืนยันว่าไม่ได้เป็นการปิดกั้นใคร

ผู้สื่อข่าวถามว่าผู้ผลิตใหม่บางรายเป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้าง และไม่มีความรู้ในเรื่องการผลิตรายการ พล.ต.เปรมสิน กล่าวว่า เราไม่สามารถไปดูรายละเอียดของเขาได้แต่จะดูรายละเอียดรายการที่เขาเสนอมา ส่วนเขาจะเป็นใครนั้น ไม่ใช่เรื่องที่เราจะตรวจสอบ เขาไม่ได้ระบุว่าจะจ้างใคร ซึ่งเราไม่ได้พิจารณาตรงนั้น และไม่มีกฎเกณฑ์ แต่ถ้ารู้อย่างนี้แล้วก็คงต้องมีการดำเนินการในขั้นต่อไป ได้หารือกับ นพ. พรหมินทร์ถ้าพิสูจน์ได้ว่าใครเป็นนายหน้า และมีหลักฐานจริง เราจะถอดรายการพวกนี้ รายการออกอากาศจะมีคณะกรรมการประเมินผลหาก 3 เดือนรายการไม่ดี จะมีการตักเตือนให้ปรับแก้ และถ้า 6 เดือนไม่สามารถปรับแก้ได้ก็ต้องยกเลิกไป

ผู้สื่อข่าวถามเหตุใดไม่แจ้งผู้ผลิตรายการทราบล่วงหน้า พล.ต.เปรมสิน กล่าวว่า ไม่ต้องรับผิดชอบ และผู้อำนวยการสถานีก็บอกแล้วว่า ถ้าผู้จัดยังไม่เซ็นสัญญาแต่ไปผลิตรายการก่อน จะรู้ได้อย่างไรว่าจะได้เซ็นสัญญาต่อ คิดว่านั่นเป็นความประมาทของผู้จัดเอง

"ยืนยันว่าจะไม่ปรับเปลี่ยนอีกแล้วเพราะผังรายการนี้ได้ผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการอย่างเหมาะสมแล้วเมื่ออนุมัติแล้วคงปรับไม่ได้ ส่วนที่ปรับก็คงปรับเฉพาะในส่วนที่เป็นของสถานีผลิตเองตามความเหมาะสมเพราะผบ.ทบ.ต้องกันเวลาเพื่อใช้สำหรับรายการข่าวช่วยเหลือน้ำท่วม "

ด้าน นพ.พรหมมินทร์ กล่าวว่า จะนำข้อร้องเรียนส่งไปให้ พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมในฐานะผู้รับผิดชอบช่อง 5 ไปดำเนินการเพื่อให้เกิดความโปร่งใส เพราะผู้ผลิตรายการที่ถูกถอดออกได้รับความเดือดร้อนจำนวนมาก และมีกระแสข่าวว่ามีกลุ่มบริษัทของฝ่ายการเมืองเอาช่วงเวลาไปเร่ขายให้ผู้ผลิตรายการเดิมซึ่งข้อร้องเรียนจากตัวแทนระบุว่ามีบริษัทผู้รับเหมาก่อสร้างที่เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีกระทรวงหนึ่ง โดยจะมีการตรวจสอบข้อร้องเรียนดังกล่าวเพื่อให้เกิดความกระจ่าง

"ผมขอยืนยันว่า คนของรัฐบาลไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ แต่จะนำข้อร้องเรียนดังกล่าวทำให้เกิดความโปร่งใส ผมขอยืนยันกรณีที่มีการอ้างนายพานทองแท้ ชินวัตรบุตรชายของนายกรัฐมนตรี ไปหากินนั้น ไม่เป็นความจริง เพราะได้มีการตรวจสอบมาก่อนหน้านี้ จึงยืนยันว่าไม่มีการเมืองไปแทรกแซง แต่มีคนพยายามทำให้เป็นเรื่องการเมืองขึ้นมาตลอด” นพ.พรหมมินทร์ กล่าว



กำลังโหลดความคิดเห็น