ปชป.เปิดชื่อ 2 บริษัทเซอร์เวย์แดดเดียว เตรียมหอบหลักฐานให้ “ทักษิณ” สั่ง ปปง.สอบหาเบื้องหลังนักการเมือง-บิ๊ก ขรก.พาณิชย์ และขอร่วมเป็น คกก.ลากคนผิดเข้าคุก ยัน “ปรีชา” ต้องร่วมรับผิดชอบฐานกำกับ อคส. ขู่มีหลักฐานเต็มแฟ้มเตรียมเดินหน้าแฉอีก!!!
นายยุทธพงศ์ จรัสเถียร รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวกรณีความไม่โปร่งใสในโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี 2548/49 โดยได้เปิดเผยรายชื่อ 4 บริษัทเซอร์เวย์ ที่ผ่านการคัดเลือกจากองค์การคลังสินค้า (อคส.) ประกอบด้วย 1.บริษัท อามานะฮ์ซุปเปอร์รินแทนเด็นส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด 2.บริษัท คอนโทรล ยูเนี่ยน เวิลด์ กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด 3.บริษัท ยูนิตี้พ้อยท์ จำกัด และ 4.บริษัท อเมริกันสแตนดาร์ด อินสเปคชั่น แอนด์ อะโกรเคมิคอล จำกัด โดยทั้งหมดได้ผ่านการคัดเลือกเมื่อวันที่ 2 ธ.ค. และ 2 บริษัทหลังเป็นบริษัทเซอร์เวย์แดดเดียวที่ตนได้ออกมาเปิดโปงถึงความไม่ชอบมาพากลก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า การที่นายนภศูล อังคทะวานิช ผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า ออกมายืนยันว่า อคส.เพิ่งประกาศผลการคัดเลือกบริษัทที่ผ่านมาการคัดเลือกเมื่อวันที่ 9 ธ.ค.นั้น ไม่เป็นความจริง เพราะตามเอกสารที่ตนได้มามีการลงนามโดย ผอ.อคส.ไว้ชัดเจน และที่ตนได้เรียกว่าบริษัทแดดเดียวเพราะเพิ่งได้รับใบอนุญาตเป็นบริษัทเซอร์เวย์จากสำนักงานมาตรฐานสินค้า กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เมื่อวันที่ 7 พ.ย. คือได้ใบอนุญาตเพียง 10 วันก็คว้างาน 1,800 ล้านบาทมาทันที โดยมีข้อมูลว่า บจก.ยูนิตี้ พ้อยท์ เพิ่งยื่นมาขออนุญาตเมื่อวันที่ 2 พ.ย.2548 ขณะที่ บจก.อเมริกัน สแตนดาร์ด ยื่นเมื่อวันที่ 4 พ.ย. 2548 นอกจากนี้ จากการตรวจสอบจากสำนักมาตรฐานสินค้าเมื่อวันที่ 18 ต.ค. พบว่ามีบริษัทที่ได้รับรับใบอนุญาตอยู่เพียง 28 บริษัท แต่ไม่มี 2 บริษัทดังกล่าวอยู่ด้วย แต่เมื่อไปตรวจสอบเอกสารอีกครั้งในวันที่ 7 พ.ย.2548 ถึงได้พบว่า 2 บริษัทนี้ได้รับอนุญาตเพิ่มเข้ามา
รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวอีกว่า และจากการเสนอข่าวของสื่อมวลชน พบว่า บ.ยูนิตี้พอยท์ มีนายวรวุฒิ บินฮะยีอาวัง ที่คนในวงการค้าข้าวเรียกว่า “บังวุฒิ” เป็นกรรมการผู้มีอำนาจผูกพันบริษัท และได้ถูกตำรวจกองปราบปรามขอศาลออกหมายจับนายวรวุฒิ และพวกในข้อหาวางเพลิงโกดังรับจำนำข้าว อ.ต.ก. หรือคดีเผาโกดังวัดกู้ จ.นนทบุรี จึงสงสัยว่านายนภศุลอยากให้โกดัง อคส.ไฟไหม้หรืออย่างไร
“ขอฝากไปถึงเสี่ยปรีชา (เลาหพงศ์ชนะ รมช.พาณิชย์) ท่านเป็นรัฐมนตรี มีรถตำรวจนำ ช่วยให้รถขี่มอเตอร์ไซค์นำไปกองปราบฯ แล้วเอาหมายไปจับตัวมาจะได้รู้ว่าใครเป็นเจ้าของบริษัทตัวจริง ที่ท่านปรีชาบอกว่าเห็นข่าวนี้แล้วจะเป็นลมเพราะไม่มีส่วนรู้เห็นด้วยนั้น หากเห็นข้อมูลของผมแล้วจะเป็นลมจริงๆ เพราะในใบโฆษณาโครงการนี้มีรูปของนายกฯ ยืนยิ้มแป้นอยู่ตรงกลาง มี รมต.สมคิด และรมช.ปรีชาใส่เสื้อม่อฮ่อมขนาบข้างอยู่เต็มหน้า อีกทั้งโครงการนี้ใครก็รู้ว่าเป็นโครงการของรัฐบาลที่นายกฯต้องการช่วยเหลือคนจน ท่านสมคิดก็นั่งในตำแหน่งประธาน กนข. และเป็น รมว.พาณิชย์ จะต้องออกมารับผิดชอบ ส่วนนายปรีชาในฐานะที่กำกับดูแล อคส.ต้องรับผิดชอบมากกว่า เพราะปฏิบัติหน้าที่บกพร่องอย่างแรง” นายยุทธพงศ์ กล่าว
นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า ตนจะติดต่อกับนายผดุง ลิ้มเจริญรัตน์ ในฐานะเลขานุการส่วนตัวของนายกฯ เพื่อขอพบกับนายกฯ ทันทีที่เครื่องบินลงจอดถึงเมืองไทย โดยจะนำหลักฐานทั้งหมดไปมอบให้เพื่อให้สั่งการไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ไปตรวจสอบบริษัทเซอร์เวย์แดดเดียวทั้ง 2 รายนี้ว่ามีใครอยู่เบื้องหลังบ้าง นักการเมืองที่เกี่ยวข้องเป็นใคร และข้าราชการระดับสูงในกระทรวงพาณิชย์ที่เกี่ยวข้องเป็นใคร และให้ตั้งตนร่วมเป็นคณะกรรมการสอบสวนด้วย เพราะมั่นใจว่าตนสามารถหาตัวคนกระทำผิดมาติดคุกได้อย่างแน่นอน
ส่วนกรณีที่ว่าทำไมไม่นำข้อมูลนี้เก็บไว้ใช้ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล นายยงยุทธ กล่าวว่า ที่ตนออกมาเปิดโปงเพราะต้องการช่วยนายกฯ ให้ทำสงครามกับความยากจน และเป็นเรื่องที่รอให้เกิดผลก่อนไม่ได้ เพราะข้าวนาปีกำลังออกรวงแล้ว หากปล่อยไว้ประเทศชาติจะเสียหายมาก อย่างไรก็ตาม ตนไม่ได้ออกมากล่าวหานายปรีชาว่ามีพฤติกรรมทุจริตในโครงการนี้ หากยืนยันว่าไม่ได้เกี่ยวข้องก็ต้องไปฟ้อง กนข. เพราะเป็นคนเอารูปภาพนายปรีชามาใส่ในโปสเตอร์ทำไม แต่เรื่องนี้มีนักการเมืองใหญ่เกี่ยวข้องแน่นอน แต่ตนจะยังไม่เปิดเผยว่าเป็นใคร บอกได้เพียงว่าเรื่องนี้ยังไม่จบ จะเดินหน้าเปิดเผยต่อไปเพราะยังมีเอกสารในมือเต็มแฟ้ม
นายยุทธพงศ์ จรัสเถียร รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวกรณีความไม่โปร่งใสในโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี 2548/49 โดยได้เปิดเผยรายชื่อ 4 บริษัทเซอร์เวย์ ที่ผ่านการคัดเลือกจากองค์การคลังสินค้า (อคส.) ประกอบด้วย 1.บริษัท อามานะฮ์ซุปเปอร์รินแทนเด็นส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด 2.บริษัท คอนโทรล ยูเนี่ยน เวิลด์ กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด 3.บริษัท ยูนิตี้พ้อยท์ จำกัด และ 4.บริษัท อเมริกันสแตนดาร์ด อินสเปคชั่น แอนด์ อะโกรเคมิคอล จำกัด โดยทั้งหมดได้ผ่านการคัดเลือกเมื่อวันที่ 2 ธ.ค. และ 2 บริษัทหลังเป็นบริษัทเซอร์เวย์แดดเดียวที่ตนได้ออกมาเปิดโปงถึงความไม่ชอบมาพากลก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า การที่นายนภศูล อังคทะวานิช ผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า ออกมายืนยันว่า อคส.เพิ่งประกาศผลการคัดเลือกบริษัทที่ผ่านมาการคัดเลือกเมื่อวันที่ 9 ธ.ค.นั้น ไม่เป็นความจริง เพราะตามเอกสารที่ตนได้มามีการลงนามโดย ผอ.อคส.ไว้ชัดเจน และที่ตนได้เรียกว่าบริษัทแดดเดียวเพราะเพิ่งได้รับใบอนุญาตเป็นบริษัทเซอร์เวย์จากสำนักงานมาตรฐานสินค้า กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เมื่อวันที่ 7 พ.ย. คือได้ใบอนุญาตเพียง 10 วันก็คว้างาน 1,800 ล้านบาทมาทันที โดยมีข้อมูลว่า บจก.ยูนิตี้ พ้อยท์ เพิ่งยื่นมาขออนุญาตเมื่อวันที่ 2 พ.ย.2548 ขณะที่ บจก.อเมริกัน สแตนดาร์ด ยื่นเมื่อวันที่ 4 พ.ย. 2548 นอกจากนี้ จากการตรวจสอบจากสำนักมาตรฐานสินค้าเมื่อวันที่ 18 ต.ค. พบว่ามีบริษัทที่ได้รับรับใบอนุญาตอยู่เพียง 28 บริษัท แต่ไม่มี 2 บริษัทดังกล่าวอยู่ด้วย แต่เมื่อไปตรวจสอบเอกสารอีกครั้งในวันที่ 7 พ.ย.2548 ถึงได้พบว่า 2 บริษัทนี้ได้รับอนุญาตเพิ่มเข้ามา
รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวอีกว่า และจากการเสนอข่าวของสื่อมวลชน พบว่า บ.ยูนิตี้พอยท์ มีนายวรวุฒิ บินฮะยีอาวัง ที่คนในวงการค้าข้าวเรียกว่า “บังวุฒิ” เป็นกรรมการผู้มีอำนาจผูกพันบริษัท และได้ถูกตำรวจกองปราบปรามขอศาลออกหมายจับนายวรวุฒิ และพวกในข้อหาวางเพลิงโกดังรับจำนำข้าว อ.ต.ก. หรือคดีเผาโกดังวัดกู้ จ.นนทบุรี จึงสงสัยว่านายนภศุลอยากให้โกดัง อคส.ไฟไหม้หรืออย่างไร
“ขอฝากไปถึงเสี่ยปรีชา (เลาหพงศ์ชนะ รมช.พาณิชย์) ท่านเป็นรัฐมนตรี มีรถตำรวจนำ ช่วยให้รถขี่มอเตอร์ไซค์นำไปกองปราบฯ แล้วเอาหมายไปจับตัวมาจะได้รู้ว่าใครเป็นเจ้าของบริษัทตัวจริง ที่ท่านปรีชาบอกว่าเห็นข่าวนี้แล้วจะเป็นลมเพราะไม่มีส่วนรู้เห็นด้วยนั้น หากเห็นข้อมูลของผมแล้วจะเป็นลมจริงๆ เพราะในใบโฆษณาโครงการนี้มีรูปของนายกฯ ยืนยิ้มแป้นอยู่ตรงกลาง มี รมต.สมคิด และรมช.ปรีชาใส่เสื้อม่อฮ่อมขนาบข้างอยู่เต็มหน้า อีกทั้งโครงการนี้ใครก็รู้ว่าเป็นโครงการของรัฐบาลที่นายกฯต้องการช่วยเหลือคนจน ท่านสมคิดก็นั่งในตำแหน่งประธาน กนข. และเป็น รมว.พาณิชย์ จะต้องออกมารับผิดชอบ ส่วนนายปรีชาในฐานะที่กำกับดูแล อคส.ต้องรับผิดชอบมากกว่า เพราะปฏิบัติหน้าที่บกพร่องอย่างแรง” นายยุทธพงศ์ กล่าว
นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า ตนจะติดต่อกับนายผดุง ลิ้มเจริญรัตน์ ในฐานะเลขานุการส่วนตัวของนายกฯ เพื่อขอพบกับนายกฯ ทันทีที่เครื่องบินลงจอดถึงเมืองไทย โดยจะนำหลักฐานทั้งหมดไปมอบให้เพื่อให้สั่งการไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ไปตรวจสอบบริษัทเซอร์เวย์แดดเดียวทั้ง 2 รายนี้ว่ามีใครอยู่เบื้องหลังบ้าง นักการเมืองที่เกี่ยวข้องเป็นใคร และข้าราชการระดับสูงในกระทรวงพาณิชย์ที่เกี่ยวข้องเป็นใคร และให้ตั้งตนร่วมเป็นคณะกรรมการสอบสวนด้วย เพราะมั่นใจว่าตนสามารถหาตัวคนกระทำผิดมาติดคุกได้อย่างแน่นอน
ส่วนกรณีที่ว่าทำไมไม่นำข้อมูลนี้เก็บไว้ใช้ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล นายยงยุทธ กล่าวว่า ที่ตนออกมาเปิดโปงเพราะต้องการช่วยนายกฯ ให้ทำสงครามกับความยากจน และเป็นเรื่องที่รอให้เกิดผลก่อนไม่ได้ เพราะข้าวนาปีกำลังออกรวงแล้ว หากปล่อยไว้ประเทศชาติจะเสียหายมาก อย่างไรก็ตาม ตนไม่ได้ออกมากล่าวหานายปรีชาว่ามีพฤติกรรมทุจริตในโครงการนี้ หากยืนยันว่าไม่ได้เกี่ยวข้องก็ต้องไปฟ้อง กนข. เพราะเป็นคนเอารูปภาพนายปรีชามาใส่ในโปสเตอร์ทำไม แต่เรื่องนี้มีนักการเมืองใหญ่เกี่ยวข้องแน่นอน แต่ตนจะยังไม่เปิดเผยว่าเป็นใคร บอกได้เพียงว่าเรื่องนี้ยังไม่จบ จะเดินหน้าเปิดเผยต่อไปเพราะยังมีเอกสารในมือเต็มแฟ้ม