แอตต้ากระทุ้งททท.จัดทำปฏิทินท่องเที่ยวล่วงหน้าประจำปี ลงรายละเอียดเชิงลึกในแต่ละกิจกรรมว่ามีอะไรบ้าง หลังส่งเรื่องไปนานแล้วแต่เงียบหาย ระบุจะเป็นประโยชน์ต่อการจัดโปรแกรมทัวร์ และวางแผนการตลาด-โฆษณาประชาสัมพันธ์ได้ล่วงหน้า แถมเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ
นายอภิชาต สังฆอารี นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) เปิดเผยว่า ต้องการให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) จัดทำปฏิทินท่องเที่ยวประจำปี แบบใส่รายละเอียดของกิจกรรมที่จะมีขึ้นในแต่ละปีอย่างละเอียด ลงลึกไปถึงในแต่ละกิจกรรมจะมีอะไรบ้าง โดยเฉพาะงานเทศกาลใหญ่ๆ ที่ต้องการให้เป็นเวิลด์อีเวนต์ ได้แก่ สงกรานต์,ลอยกระทง,ตรุษจีน และเข้าพรรษา เป็นต้น ซึ่งการจัดทำอย่างน้อยจะต้องออกก่อนขึ้นปีใหม่ 6 เดือน- 1 ปี
ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้ประกอบการบริษัททัวร์ได้นำข้อมูลไปวางแผนการดำเนินธุรกิจ จัดโปรแกรมทัวร์ ไปนำเสนอต่อตัวแทนในต่างประเทศเพื่อเสนอขายนักท่องเที่ยวต่อไป ตลอดจนเพื่อจัดวางแผนการตลาดเพื่อโปรโมทกิจกรรมร่วมกัน ซึ่งเรื่องนี้ททท.ต้องเข้าใจดีว่าการซื้อแพกเกจทัวร์ของนักท่องเที่ยว ส่วนใหญ่จะตัดสินใจซื้อก่อนเดินทางไม่น้อยกว่า 6 -12 เดือนก่อนเดินทาง
"ที่ผ่านมาปฎิทินท่องเที่ยวของททท.จะบอกเพียงว่าในแต่ละเดือนจะมีกิจกรรม หรือเทศกาลอะไร แต่ไม่ลงไปในรายละเอียด โดยเฉพาะกิจกรรมใหญ่ๆว่าจะมีอีเว้นต์ อะไรบ้าง จัดในพื้นที่ใดของประเทศบ้าง แม้กระทั่งคอนเซปต์ของงานก็ไม่มี ทำให้บริษัททัวร์ ไม่สามารถนำรายละเอียด ทำแผนการตลาดเพื่อเชิญชวนนักท่องเที่ยวได้ ตรงนี้ หากทำได้จะช่วยกระตุ้นให้ตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเพิ่มขึ้น เพราะการจัดกิจกรรมในเทศกาลต่างๆ ส่วนหนึ่งก็เพื่อต้องการโปรโมตให้ต่างชาติเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยด้วยอยู่แล้ว"
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา แอตต้าเคยเสนอแนวคิดดังกล่าวให้ ททท.แล้วแต่ก็เงียบหาย ซึ่งตอนนี้รัฐบาลต้องการเพิ่มรายได้เข้าประเทศจากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว จึงมองว่า ททท.ควรนำข้อเสนอนี้ไปเร่งดำเนินการ เพราะในปีหน้า จะเป็นปีเฉลิมฉลองการครองราชย์ของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวครบ 60 ปี มีโครงการไทยแลนด์ แกรด์วิเทชั่น ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่เดือนมกราคมปีหน้า แต่จนบัดนี้ก็ยังไม่มีรายละเอียดของกิจกรรมว่าจะมีอะไรบ้าง
"ปัจจุบันภาพรวมการจัดงานกิจกรรมกระตุ้นการท่องเที่ยวของททท.ยังไม่สามารถจัดงานเพื่อจูงใจให้นักท่องเที่ยวตัดสินใจเดินทางเข้ามาได้ โดยเฉพาะงานที่มีแผนผลักดันให้เป็นงานระดับสากล อย่าง เทศกาลตรุษจีน สงกรานต์ ลอยกระทง และนับถอยหลังวันขึ้นปีใหม่ เนื่องจากที่ผ่านมา ททท.ได้วางแผนงานอย่างกระชั้นชิด โดยใกล้ถึงวันงานจึงจะสามารถทราบรายละเอียดรูปแบบงานว่ากิจกรรมหรือไฮไลท์อะไรบ้าง
ทั้งนี้ ทำให้บริษัททัวร์ท่องเที่ยวไม่สามารถนำจุดขายดังกล่าว ไปเสนอในโปรแกรมทัวร์ เชิญชวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เป็นอยู่ขณะนี้คือนักท่องเที่ยวเข้ามาแล้วเป็นช่วงกิจกรรมพอดี หากสนใจก็ซื้อโปรแกรมทัวร์เพิ่มเติม เช่นเดียวกับกิจกรรมลอยกระทง เช่นกัน ที่ททท.ให้แอตต้าช่วยขายบัตรชมงาน โดยก่อนหน้านี้แอตต้าไม่รู้ว่าจะมีที่นั่งชมงานระดับวีไอพีแบบนี้จึงไม่ได้นำใส่ไว้ในแพกเกจทัวร์"
ทางด้านนายสันติชัย เอื้อจงประสิทธิ์ รองผู้ว่าการททท. ฝ่ายพัฒนาสินค้าทางการท่องเที่ยว กล่าวถึงงานเทศกาลลอยกระทงในปีนี้ว่า ททท.ได้จัดงานดังกล่าวภายใต้คอนเซปต์ "สีสันแห่งสายน้ำ มหกรรมลอยกระทง"ระหว่างวันที่ 13-16 พ.ย.48 โดยมีการจัดกิจกรรมประดับเรือไฟ การลอยกระทงในแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งปีนี้ ททท.จัดกิจกรรมพิเศษการเปิดให้นักท่องเที่ยว ที่สนใจเข้าสมสีสันแห่งสายน้ำในช่วงเวลาจัดงาน โดยการเปิดให้นั่งชมได้ที่ ราชนาวิกสภา ซึ่งเป็นจุดเดียวกับที่งานเลี้ยงรับรองผู้นำเอเปก พร้อมชมการแสดงในแม่น้ำเจ้าพระยา สามารถรองรับนักท่องเที่ยว 700 คนต่อวัน
นายอภิชาต สังฆอารี นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) เปิดเผยว่า ต้องการให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) จัดทำปฏิทินท่องเที่ยวประจำปี แบบใส่รายละเอียดของกิจกรรมที่จะมีขึ้นในแต่ละปีอย่างละเอียด ลงลึกไปถึงในแต่ละกิจกรรมจะมีอะไรบ้าง โดยเฉพาะงานเทศกาลใหญ่ๆ ที่ต้องการให้เป็นเวิลด์อีเวนต์ ได้แก่ สงกรานต์,ลอยกระทง,ตรุษจีน และเข้าพรรษา เป็นต้น ซึ่งการจัดทำอย่างน้อยจะต้องออกก่อนขึ้นปีใหม่ 6 เดือน- 1 ปี
ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้ประกอบการบริษัททัวร์ได้นำข้อมูลไปวางแผนการดำเนินธุรกิจ จัดโปรแกรมทัวร์ ไปนำเสนอต่อตัวแทนในต่างประเทศเพื่อเสนอขายนักท่องเที่ยวต่อไป ตลอดจนเพื่อจัดวางแผนการตลาดเพื่อโปรโมทกิจกรรมร่วมกัน ซึ่งเรื่องนี้ททท.ต้องเข้าใจดีว่าการซื้อแพกเกจทัวร์ของนักท่องเที่ยว ส่วนใหญ่จะตัดสินใจซื้อก่อนเดินทางไม่น้อยกว่า 6 -12 เดือนก่อนเดินทาง
"ที่ผ่านมาปฎิทินท่องเที่ยวของททท.จะบอกเพียงว่าในแต่ละเดือนจะมีกิจกรรม หรือเทศกาลอะไร แต่ไม่ลงไปในรายละเอียด โดยเฉพาะกิจกรรมใหญ่ๆว่าจะมีอีเว้นต์ อะไรบ้าง จัดในพื้นที่ใดของประเทศบ้าง แม้กระทั่งคอนเซปต์ของงานก็ไม่มี ทำให้บริษัททัวร์ ไม่สามารถนำรายละเอียด ทำแผนการตลาดเพื่อเชิญชวนนักท่องเที่ยวได้ ตรงนี้ หากทำได้จะช่วยกระตุ้นให้ตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเพิ่มขึ้น เพราะการจัดกิจกรรมในเทศกาลต่างๆ ส่วนหนึ่งก็เพื่อต้องการโปรโมตให้ต่างชาติเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยด้วยอยู่แล้ว"
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา แอตต้าเคยเสนอแนวคิดดังกล่าวให้ ททท.แล้วแต่ก็เงียบหาย ซึ่งตอนนี้รัฐบาลต้องการเพิ่มรายได้เข้าประเทศจากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว จึงมองว่า ททท.ควรนำข้อเสนอนี้ไปเร่งดำเนินการ เพราะในปีหน้า จะเป็นปีเฉลิมฉลองการครองราชย์ของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวครบ 60 ปี มีโครงการไทยแลนด์ แกรด์วิเทชั่น ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่เดือนมกราคมปีหน้า แต่จนบัดนี้ก็ยังไม่มีรายละเอียดของกิจกรรมว่าจะมีอะไรบ้าง
"ปัจจุบันภาพรวมการจัดงานกิจกรรมกระตุ้นการท่องเที่ยวของททท.ยังไม่สามารถจัดงานเพื่อจูงใจให้นักท่องเที่ยวตัดสินใจเดินทางเข้ามาได้ โดยเฉพาะงานที่มีแผนผลักดันให้เป็นงานระดับสากล อย่าง เทศกาลตรุษจีน สงกรานต์ ลอยกระทง และนับถอยหลังวันขึ้นปีใหม่ เนื่องจากที่ผ่านมา ททท.ได้วางแผนงานอย่างกระชั้นชิด โดยใกล้ถึงวันงานจึงจะสามารถทราบรายละเอียดรูปแบบงานว่ากิจกรรมหรือไฮไลท์อะไรบ้าง
ทั้งนี้ ทำให้บริษัททัวร์ท่องเที่ยวไม่สามารถนำจุดขายดังกล่าว ไปเสนอในโปรแกรมทัวร์ เชิญชวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เป็นอยู่ขณะนี้คือนักท่องเที่ยวเข้ามาแล้วเป็นช่วงกิจกรรมพอดี หากสนใจก็ซื้อโปรแกรมทัวร์เพิ่มเติม เช่นเดียวกับกิจกรรมลอยกระทง เช่นกัน ที่ททท.ให้แอตต้าช่วยขายบัตรชมงาน โดยก่อนหน้านี้แอตต้าไม่รู้ว่าจะมีที่นั่งชมงานระดับวีไอพีแบบนี้จึงไม่ได้นำใส่ไว้ในแพกเกจทัวร์"
ทางด้านนายสันติชัย เอื้อจงประสิทธิ์ รองผู้ว่าการททท. ฝ่ายพัฒนาสินค้าทางการท่องเที่ยว กล่าวถึงงานเทศกาลลอยกระทงในปีนี้ว่า ททท.ได้จัดงานดังกล่าวภายใต้คอนเซปต์ "สีสันแห่งสายน้ำ มหกรรมลอยกระทง"ระหว่างวันที่ 13-16 พ.ย.48 โดยมีการจัดกิจกรรมประดับเรือไฟ การลอยกระทงในแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งปีนี้ ททท.จัดกิจกรรมพิเศษการเปิดให้นักท่องเที่ยว ที่สนใจเข้าสมสีสันแห่งสายน้ำในช่วงเวลาจัดงาน โดยการเปิดให้นั่งชมได้ที่ ราชนาวิกสภา ซึ่งเป็นจุดเดียวกับที่งานเลี้ยงรับรองผู้นำเอเปก พร้อมชมการแสดงในแม่น้ำเจ้าพระยา สามารถรองรับนักท่องเที่ยว 700 คนต่อวัน