นายกรัฐมนตรีชมผู้รับเหมางานสนามบิน “สุวรรณภูมิ” เร่งงานให้เสร็จกลางปีหน้า เตรียมให้โอกาสได้งานใหม่ของราชการงานต่อ เพราะเป็นผู้เสียสละ และเตรียมประชุมร่วมทุกเดือนเพื่อเร่งรัดงานให้เป็นไปตามแผน ในขณะเดียวกัน มอบ 4 รัฐมนตรีดูแลงานตามโลกาภิวัตน์
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “นายกฯทักษิณ คุยกับประชาชน” ว่า ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้เรียกประชุมคณะกรรมการบริหารการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อให้มั่นใจว่า สามารถที่จะเปิดบริการเชิงพาณิชย์ได้ในปลายเดือนมิถุนายนนี้ โดยพยายามจะเปิดได้ในช่วงนั้นให้ได้ ขณะนี้ก็การก่อสร้างเท่าที่พบ มีล่าช้าอยู่จุดเดียว คือ อาคารที่ติดตั้งระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งต้องเร่งเป็นพิเศษ แต่ผู้รับเหมายืนยันว่าทำได้ทันไม่มีปัญหา และจากนี้ไปจะเรียกประชุมทุกเดือน เพื่อจะไล่ตามว่าอะไรที่ล่าช้าก็จะต้องเร่ง ปรากฏว่า หลายอย่างที่กลัวจะไม่ทัน ขณะนี้ผู้รับเหมาได้เร่งให้เสร็จก่อนเวลา ถือว่าผู้รับเหมาที่นี่หลายคนก็ค่อนข้างจะขาดทุน เพราะว่าราคาเหล็ก ราคาน้ำมันปรับขึ้น ถือว่าทำงานเสียสละจริงๆ ทั้งๆ ที่ขาดทุนก็ทุ่มเทเต็มที่
“ผมก็บอกว่างานของราชการยังมีอีกเยอะ เพราะฉะนั้น คนไหนซึ่งได้ทุ่มเทให้กับส่วนรวม ได้เสียสละมานี่ เราก็จะดูแล ให้เขาได้มีโอกาสได้งานใหม่ๆ เพื่อให้เขาได้มีโอกาสที่จะได้ฟื้นจากการขาดทุนที่ทำงานให้รัฐเป็นพิเศษแบบนี้ ซึ่งหลายคนก็ต้องใจจริงๆ ดูแล้วก็คิดว่าน่าจะไปได้ดี ก็คิดว่าเดือนมิถุนายนนี่ เท่าที่ดูปัจจุบันก็เหลือระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งจะไปติดตั้งในอาคารซึ่งก็ยังสร้างไม่ค่อยเสร็จดี ส่วนถนนยกระดับเข้ามาเทียบผู้โดยสารนั้นก็เสร็จทันหมด วันที่ 31 ธันวาคมก็คิดว่าจะมีการจัดงานปีใหม่เคาท์ดาวน์ที่สุวรรณภูมิ ในช่วงนี้ก็มีการประกวดถ่ายภาพ เพื่อจะเอาภาพถ่ายของอาคารสุวรรณภูมิที่สวยงามนี่ มาทำบัตร สคส. อันนี้ก็ประกวดภาพถ่ายกันอยู่” นายกรัฐมนตรีกล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า ในเรื่องการติดตามภาวะโลก ได้เน้นย้ำงาน 4 ด้านที่เกี่ยวข้องกับเรื่องโลกาภิวัตน์ เพราะว่าที่ผ่านมาการวิกฤติของเศรษฐกิจที่ผ่านมานั้น มันแสดงให้เห็นถึงว่าไม่รู้เท่าทันโลกาภิวัตน์ ที่มีประเด็นสำคัญ 4 เรื่อง คือ ว่าการเคลื่อนย้ายอย่างเสรีขอเงินทุน สินค้าและบริการ บุคลากร และสุดท้าย คือ เรื่องความรู้ ข้อมูลข่าวสาร 4 ด้าน โดยในเรื่องเงินทุน-สินค้าและบริหารได้มอบให้นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายทนง พิทยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังร่วมกันดูแล ส่วนเรื่องบุคลากรมอบให้นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย รองนายกรัฐมนตรีดูแล ส่วนเรื่องความรู้และข้อมูลข่าวสารมอบให้นายจาตุรนต์ ฉายแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการดูแล โดยจะมีการปรับกฎหมายระเบียบนโยบายให้สอดรับกับสิ่งที่เกิดการเคลื่อนย้ายสิ่งเหล่านี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศ และป้องกันผลเสียให้มากที่สุด