ดอกบัวคู่ขยายไลน์สินค้ากลุ่มสมุนไพร เปิดตลาดครีมอาบน้ำ แชมพู ครีมนวด หวังขยายฐานตลาด คาดเพิ่มยอดขายได้ 15%
นายปิติ ลีเลิศพันธ์ กรรมการบริหาร บริษัท ดอกบัวคู่ จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันผู้บริโภคให้ความสำคัญในเรื่องของสุขภาพมากขึ้น ส่งผลให้การจับจ่ายใช้สอยในผลิตภัณฑ์ต่างๆ จะเน้นที่สุขภาพเป็นหลัก รวมไปถึงการเลือกซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคด้วย แนวโน้มการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสมุนไพรจึงสูงขึ้น ตลาดสมุนไพรในตอนนี้จึงมีอัตราการเติบโตที่เพิ่มมากขึ้น และยังเป็นส่วนตลาดที่สามารถเติบโตได้ต่อไปเรื่อยๆ อีกด้วย จึงส่งผลให้การแข่งขันรุนแรงขึ้นเช่นกัน จะเห็นได้ว่า ผู้ผลิตหลายรายลงมาเล่นตลาดสมุนไพรกันมาก พยายามออกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสมุนไพรเป็นหลักออกมาจำหน่าย
ล่าสุดบริษัทฯออกผลิตภัณฑ์ใหม่ทั้งหมด 3 ผลิตภัณฑ์ มีครีมอาบน้ำ แชมพู และครีมนวดผม เพราะผู้บริโภคต้องการทางเลือกที่เพิ่มมากขึ้นจากเดิม จึงถือเป็นโอกาสที่ดีที่จะให้ดอกบัวคู่ได้แนะนำผลิตภัณฑ์ในไลน์ใหม่ๆ ให้แก่ผู้บริโภค การออกผลิตภัณฑ์ใหม่ในครั้งนี้จะทำให้ดอกบัวคู่มียอดขายเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 15% โดยดอกบัวคู่จะยังคงรักษาตำแหน่งผู้นำตลาดยาสีฟันสมุนไพร พร้อมกับการทำตลาดของครีมอาบน้ำ แชมพู และครีมนวดผมอย่างต่อเนื่อง
นางสาวส่องสกุล สมิตะเกษตริน ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ดอกบัวคู่ จำกัด กล่าวเสริมว่า ดอกบัวคู่มีจุดเด่นที่สมุนไพร ที่ลูกค้ายอมรับในคุณภาพ จึงตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคให้มากขึ้นด้วยจุดแข็งที่เรามีอยู่ ที่บริษัทฯออกครีมอาบน้ำสมุนไพรดอกบัวคู่ เนื่องมาจากตลาดครีมอาบน้ำมีอัตราการเติบโตที่สูงขึ้น ประมาณ 15 – 17 % ประกอบกับแนวโน้มการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสมุนไพรมีมากขึ้น
ส่วนแชมพูและครีมนวดผมสูตรซีรั่มนั้น จริงๆ แล้ว ดอกบัวคู่มีแชมพูและครีมนวดผมวางตลาดอยู่แล้ว คือ แชมพูป้องกันผมร่วงสมุนไพรดอกบัวคู่ สูตรเอ็กซ์ตร้า, แชมพูป้องกันผมร่วงสมุนไพรดอกบัวคู่ สูตร เอฟ 1 แต่การเพิ่มรูปแบบสูตรใหม่ รวมไปถึงแพ็กเกจจิ้งใหม่ครั้งนี้จะเน้นทั้งในด้านการรักษาเส้นผมและหนังศีรษะ พร้อมกับสามารถใช้ได้ทุกวันด้วย เป็นแบบ เดลี่ ยูส จะเจาะกลุ่มทั่วไปมากขึ้น นอกจากนั้น ตลาดแชมพูและครีมนวดในกลุ่มสมุนไพร ก็ยังมีคู่แข่งน้อยรายอยู่ ถ้าเทียบกับกลุ่มบิวตี้
กลยุทธ์ในการทำตลาดของผลิตภัณฑ์ใหม่ในช่วงหลังนี้ จะเน้นทำกิจกรรมส่งเสริมการขายกับร้านค้าตัวแทนจำหน่าย รวมถึงโมเดิร์น เทรดด้วย การส่งเสริมการขาย ณ จุดซื้อ (POP) หรือเป็นโรดโชว์ เพื่อที่จะแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ทั้ง 3 ตัว และยังเป็นการกระตุ้นยอดขายจากตัวแทนจำหน่ายด้วย
นายปิติ ลีเลิศพันธ์ กรรมการบริหาร บริษัท ดอกบัวคู่ จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันผู้บริโภคให้ความสำคัญในเรื่องของสุขภาพมากขึ้น ส่งผลให้การจับจ่ายใช้สอยในผลิตภัณฑ์ต่างๆ จะเน้นที่สุขภาพเป็นหลัก รวมไปถึงการเลือกซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคด้วย แนวโน้มการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสมุนไพรจึงสูงขึ้น ตลาดสมุนไพรในตอนนี้จึงมีอัตราการเติบโตที่เพิ่มมากขึ้น และยังเป็นส่วนตลาดที่สามารถเติบโตได้ต่อไปเรื่อยๆ อีกด้วย จึงส่งผลให้การแข่งขันรุนแรงขึ้นเช่นกัน จะเห็นได้ว่า ผู้ผลิตหลายรายลงมาเล่นตลาดสมุนไพรกันมาก พยายามออกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสมุนไพรเป็นหลักออกมาจำหน่าย
ล่าสุดบริษัทฯออกผลิตภัณฑ์ใหม่ทั้งหมด 3 ผลิตภัณฑ์ มีครีมอาบน้ำ แชมพู และครีมนวดผม เพราะผู้บริโภคต้องการทางเลือกที่เพิ่มมากขึ้นจากเดิม จึงถือเป็นโอกาสที่ดีที่จะให้ดอกบัวคู่ได้แนะนำผลิตภัณฑ์ในไลน์ใหม่ๆ ให้แก่ผู้บริโภค การออกผลิตภัณฑ์ใหม่ในครั้งนี้จะทำให้ดอกบัวคู่มียอดขายเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 15% โดยดอกบัวคู่จะยังคงรักษาตำแหน่งผู้นำตลาดยาสีฟันสมุนไพร พร้อมกับการทำตลาดของครีมอาบน้ำ แชมพู และครีมนวดผมอย่างต่อเนื่อง
นางสาวส่องสกุล สมิตะเกษตริน ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ดอกบัวคู่ จำกัด กล่าวเสริมว่า ดอกบัวคู่มีจุดเด่นที่สมุนไพร ที่ลูกค้ายอมรับในคุณภาพ จึงตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคให้มากขึ้นด้วยจุดแข็งที่เรามีอยู่ ที่บริษัทฯออกครีมอาบน้ำสมุนไพรดอกบัวคู่ เนื่องมาจากตลาดครีมอาบน้ำมีอัตราการเติบโตที่สูงขึ้น ประมาณ 15 – 17 % ประกอบกับแนวโน้มการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสมุนไพรมีมากขึ้น
ส่วนแชมพูและครีมนวดผมสูตรซีรั่มนั้น จริงๆ แล้ว ดอกบัวคู่มีแชมพูและครีมนวดผมวางตลาดอยู่แล้ว คือ แชมพูป้องกันผมร่วงสมุนไพรดอกบัวคู่ สูตรเอ็กซ์ตร้า, แชมพูป้องกันผมร่วงสมุนไพรดอกบัวคู่ สูตร เอฟ 1 แต่การเพิ่มรูปแบบสูตรใหม่ รวมไปถึงแพ็กเกจจิ้งใหม่ครั้งนี้จะเน้นทั้งในด้านการรักษาเส้นผมและหนังศีรษะ พร้อมกับสามารถใช้ได้ทุกวันด้วย เป็นแบบ เดลี่ ยูส จะเจาะกลุ่มทั่วไปมากขึ้น นอกจากนั้น ตลาดแชมพูและครีมนวดในกลุ่มสมุนไพร ก็ยังมีคู่แข่งน้อยรายอยู่ ถ้าเทียบกับกลุ่มบิวตี้
กลยุทธ์ในการทำตลาดของผลิตภัณฑ์ใหม่ในช่วงหลังนี้ จะเน้นทำกิจกรรมส่งเสริมการขายกับร้านค้าตัวแทนจำหน่าย รวมถึงโมเดิร์น เทรดด้วย การส่งเสริมการขาย ณ จุดซื้อ (POP) หรือเป็นโรดโชว์ เพื่อที่จะแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ทั้ง 3 ตัว และยังเป็นการกระตุ้นยอดขายจากตัวแทนจำหน่ายด้วย