ราคาเอทานอลที่จะนำมาผสมเป็นแก๊สโซฮอล์ยังวุ่น กำหนดราคาอ้างอิงได้เฉพาะโรงงานจากมันสำปะหลัง แต่จากโรงงานน้ำตาล – โมลาส ยังกำหนดไม่ได้ เหตุไม่สามารถหาราคาส่งออกโมลาสอ้างอิงได้ ด้านโรงงานเครือช้างระบุมีกำลังผลิตเพิ่มขึ้นได้ แต่ขอราคาสูง
นายณัฐพล ณัฎฐสมบูรณ์ รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) ในฐานะกรรมการคณะกรรมการพัฒนาและส่งเสริมเชื้อเพลิงชีวภาพ ซึ่งมีนายพินิจ จารุสมบัติ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้หารือถึงเรื่องราคาอ้างอิงเอทานอล ซึ่งในส่วนของเอทานอลที่ผลิตจากกากน้ำตาลและน้ำอ้อย ยังไม่สามารถกำหนดราคาได้ เพราะยังหาราคาอ้างอิงการส่งออกกากน้ำตาล (โมลาส) ไม่ชัดเจน ขณะที่หากนำน้ำอ้อยมาผลิตจะต้องเข้าสู่ระบบแบ่งปันผลประโยชน์ระหว่างชาวไร่ - โรงงาน ดังนั้น ที่ประชุมจึงมอบหมายให้กระทรวงพลังงานและกระทรวงอุตสาหกรรมไปหารือร่วมกันและกำหนดสูตรอ้างอิงที่ชัดเจน
ส่วนเอทานอลที่มาจากมันสำปะหลังนั้น ที่ประชุมได้เห็นร่วมกันให้กำหนดสูตรราคาอ้างอิงวัตถุดิบ และให้ผลตอบแทนการลงทุนแก่โรงงานประมาณร้อยละ 12 เช่น กรณีหัวมันสดมีราคา 1.50 บาท/กิโลกรัม ราคาอ้างอิงเอทานอล จะอยู่ที่ 17.75 บาท/ลิตร
“เรื่องราคาเอทานอลอ้างอิงเป็นเพียงรัฐกำหนดราคาชี้นำเท่านั้น แต่ราคาจริงการซื้อขายเป็นเรื่องที่โรงงานตกลงกับผู้ค้าน้ำมัน ซึ่งขณะนี้ทราบว่าราคาได้ขยับสูงกว่า 15 บาท/ลิตรแล้ว แต่จะถึง 19 บาท/ลิตร หรือไม่ เป็นเรื่องเอกชนตกลงกันเอง” นายณัฐพล กล่าว
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้มอบหมายให้กระทรวงพลังงาน หารือกับโรงงานไทยแอลกอฮอล์ ในเครือ บมจ.ไทยเบฟเวอร์เรจส์ ในเรื่องราคาเอทานอลที่ผลิตจากกากน้ำตาลที่ไทยแอลกอฮอล์ระบุว่า สามารถเพิ่มกำลังผลิตจาก 100,000 ลิตร/วัน เป็น 200,000 ลิตร/วัน แต่ยังไม่สามารถตกลงราคากันได้ โดยระบุว่า ต้นทุนโมลาส (กากน้ำตาล) แพง ซึ่งหากตกลงราคาได้ ไทยอาจจะไม่จำเป็นต้องนำเข้ามาเพิ่มเติมก็ได้ จากที่ขณะนี้ บมจ.ปตท. เริ่มนำเข้ามาประมาณ 7 ล้านลิตร จากมติ ครม. ให้นำเข้า 17 ล้านลิตร ในปีนี้ ในขณะที่ บริษัทไทยอะโกรฯ ได้แจ้งว่า โรงงานซึ่งมีกำลังผลิต 150,000 ลิตร/วัน จะหยุดเดินเครื่องในเดือนพฤศจิกายนนี้ ดังนั้น จนถึงสิ้นเดือนนี้ก็จะมีเอทานอลออกจากโรงงานนี้ไม่ต่ำกว่า 5 ล้านลิตร
นายณัฐพล ณัฎฐสมบูรณ์ รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) ในฐานะกรรมการคณะกรรมการพัฒนาและส่งเสริมเชื้อเพลิงชีวภาพ ซึ่งมีนายพินิจ จารุสมบัติ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้หารือถึงเรื่องราคาอ้างอิงเอทานอล ซึ่งในส่วนของเอทานอลที่ผลิตจากกากน้ำตาลและน้ำอ้อย ยังไม่สามารถกำหนดราคาได้ เพราะยังหาราคาอ้างอิงการส่งออกกากน้ำตาล (โมลาส) ไม่ชัดเจน ขณะที่หากนำน้ำอ้อยมาผลิตจะต้องเข้าสู่ระบบแบ่งปันผลประโยชน์ระหว่างชาวไร่ - โรงงาน ดังนั้น ที่ประชุมจึงมอบหมายให้กระทรวงพลังงานและกระทรวงอุตสาหกรรมไปหารือร่วมกันและกำหนดสูตรอ้างอิงที่ชัดเจน
ส่วนเอทานอลที่มาจากมันสำปะหลังนั้น ที่ประชุมได้เห็นร่วมกันให้กำหนดสูตรราคาอ้างอิงวัตถุดิบ และให้ผลตอบแทนการลงทุนแก่โรงงานประมาณร้อยละ 12 เช่น กรณีหัวมันสดมีราคา 1.50 บาท/กิโลกรัม ราคาอ้างอิงเอทานอล จะอยู่ที่ 17.75 บาท/ลิตร
“เรื่องราคาเอทานอลอ้างอิงเป็นเพียงรัฐกำหนดราคาชี้นำเท่านั้น แต่ราคาจริงการซื้อขายเป็นเรื่องที่โรงงานตกลงกับผู้ค้าน้ำมัน ซึ่งขณะนี้ทราบว่าราคาได้ขยับสูงกว่า 15 บาท/ลิตรแล้ว แต่จะถึง 19 บาท/ลิตร หรือไม่ เป็นเรื่องเอกชนตกลงกันเอง” นายณัฐพล กล่าว
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้มอบหมายให้กระทรวงพลังงาน หารือกับโรงงานไทยแอลกอฮอล์ ในเครือ บมจ.ไทยเบฟเวอร์เรจส์ ในเรื่องราคาเอทานอลที่ผลิตจากกากน้ำตาลที่ไทยแอลกอฮอล์ระบุว่า สามารถเพิ่มกำลังผลิตจาก 100,000 ลิตร/วัน เป็น 200,000 ลิตร/วัน แต่ยังไม่สามารถตกลงราคากันได้ โดยระบุว่า ต้นทุนโมลาส (กากน้ำตาล) แพง ซึ่งหากตกลงราคาได้ ไทยอาจจะไม่จำเป็นต้องนำเข้ามาเพิ่มเติมก็ได้ จากที่ขณะนี้ บมจ.ปตท. เริ่มนำเข้ามาประมาณ 7 ล้านลิตร จากมติ ครม. ให้นำเข้า 17 ล้านลิตร ในปีนี้ ในขณะที่ บริษัทไทยอะโกรฯ ได้แจ้งว่า โรงงานซึ่งมีกำลังผลิต 150,000 ลิตร/วัน จะหยุดเดินเครื่องในเดือนพฤศจิกายนนี้ ดังนั้น จนถึงสิ้นเดือนนี้ก็จะมีเอทานอลออกจากโรงงานนี้ไม่ต่ำกว่า 5 ล้านลิตร