ปตท.ตั้งบริษัทใหม่จำหน่ายเม็ดพลาสติก จากเดิมผลิตและจำหน่ายเอง หวังสร้างความแข็งแกร่งและความเชื่อมั่น ยกระดับยอดจำหน่ายจาก 20,000 ล้านบาทในปัจจุบัน เป็น 60,000 ล้านบาทใน 3 ปีข้างหน้า โดยมีตลาดส่งออกหลักเป็นจีนและสหรัฐ ชี้หลังขยายกำลังผลิตจะทำให้กลุ่มเป็นผู้จำหน่ายรายใหญ่ในภูมิภาคเอเชีย
นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) แถลงข่าวเปิดตัวบริษัท พีทีที โพลีเมอร์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด หรือ PTT PM บริษัทในเครือแห่งใหม่ของกลุ่ม ปตท. เพื่อจำหน่ายเม็ดพลาสติกให้กับกลุ่ม จากเดิมที่บริษัทในเครือ 2 แห่งผลิต และจำหน่ายเอง คือ บริษัทบางกอกโพลีเอททีลีน จำกัด (มหาชน) หรือ BPE และ บริษัท ปิโตรเคมีแห่งชาติ จำกัด(มหาชน) รวมการผลิตทั้งสิ้น 500,000 ตันต่อปี หรือเกือบครึ่งหนึ่งของการผลิตในประเทศ ปตท.คาดว่าการจำหน่ายเม็ดพลาสติกด้วยบริษัทแห่งใหม่จะต้องสร้างความน่าเชื่อถือให้แก่ลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ โดยรวมบุคลากร ข้อมูล และวางแผนการผลิตร่วมกัน มั่นใจว่า ภายใน 3 ปี จะเพิ่มยอดจำหน่ายเม็ดพลาสติกได้ถึง 1.5 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่าเพิ่มจาก 20,000 ล้านบาทในปัจจุบัน เป็น 60,000 ล้านบาท เนื่องจากเร็วๆ นี้ กลุ่ม ปตท. จะขยายการผลิตเม็ดพลาสติกทั้งโพลีเอททีลีนความหนาแน่นสูง และ ความหนาแน่นต่ำ และกลายเป็นผู้จำหน่ายรายใหญ่ของประเทศและภูมิภาคเอเชีย
ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทในเครือ ปตท. ผลิตเม็ดพลาสติกเพื่อการส่งออกถึงร้อยละ 50 ของกำลังการผลิตทั้งหมด มีตลาดหลักคือ จีน และสหรัฐ ซึ่งในภาวะที่สหรัฐได้รับผลกระทบจากพายุเฮอริเคน 1-2 เดือนนี้ พบว่ามีคำสั่งซื้อเข้ามาจำนวนมาก อีกทั้งยังจำหน่ายได้ในราคาดีด้วย ปัจจุบันผู้ผลิตเม็ดพลาสติกของ ปตท. มีลูกค้าอยู่ใน 80 ประเทศทั่วโลก
ด้านนายไพรินทร์ ชูโชติถาวร กรรมการผู้จัดการ บริษัท พีทีที โพลีเมอร์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด หรือ PTT PM กล่าวว่า บริษัทจะมีรายได้จากการจำหน่ายเม็ดพลาสติกให้แก่บริษัทในเครือเดียวกัน ในรูปแบบค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน ซึ่งขณะนี้ได้วางระบบอี-เทรดดิ้ง และการบริหารจัดการลูกค้าครบตั้งแต่รับคำสั่งซื้อจนถึงการชำระเงินไว้พร้อมแล้ว ขณะที่ลูกค้าหลักยังเป็นกลุ่มผู้ประกอบการขึ้นรูปพลาสติก คาดว่าภายในสิ้นปี 2549 บริษัทจะมีอัตราการเติบโตสูงขึ้นกว่าร้อยละ 30 และมีส่วนแบ่งตลาดในประเทศสูงถึงร้อยละ 50 อีกทั้งคาดว่าในปี 2551-2552 จะมียอดจำหน่ายเม็ดพลาสติกสูงถึง 1.1 ล้านตัน สำหรับโครงสร้างการถือหุ้นใน PTT PM ประกอบด้วย ปตท. ถืออยู่ร้อยละ 50 BPE และเอ็นพีซีถือหุ้นร้อยละ 25 ต่อราย ซึ่งทั้งสองบริษัท มี ปตท. ถือหุ้นใหญ่อยู่ร้อยละ 50
นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) แถลงข่าวเปิดตัวบริษัท พีทีที โพลีเมอร์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด หรือ PTT PM บริษัทในเครือแห่งใหม่ของกลุ่ม ปตท. เพื่อจำหน่ายเม็ดพลาสติกให้กับกลุ่ม จากเดิมที่บริษัทในเครือ 2 แห่งผลิต และจำหน่ายเอง คือ บริษัทบางกอกโพลีเอททีลีน จำกัด (มหาชน) หรือ BPE และ บริษัท ปิโตรเคมีแห่งชาติ จำกัด(มหาชน) รวมการผลิตทั้งสิ้น 500,000 ตันต่อปี หรือเกือบครึ่งหนึ่งของการผลิตในประเทศ ปตท.คาดว่าการจำหน่ายเม็ดพลาสติกด้วยบริษัทแห่งใหม่จะต้องสร้างความน่าเชื่อถือให้แก่ลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ โดยรวมบุคลากร ข้อมูล และวางแผนการผลิตร่วมกัน มั่นใจว่า ภายใน 3 ปี จะเพิ่มยอดจำหน่ายเม็ดพลาสติกได้ถึง 1.5 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่าเพิ่มจาก 20,000 ล้านบาทในปัจจุบัน เป็น 60,000 ล้านบาท เนื่องจากเร็วๆ นี้ กลุ่ม ปตท. จะขยายการผลิตเม็ดพลาสติกทั้งโพลีเอททีลีนความหนาแน่นสูง และ ความหนาแน่นต่ำ และกลายเป็นผู้จำหน่ายรายใหญ่ของประเทศและภูมิภาคเอเชีย
ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทในเครือ ปตท. ผลิตเม็ดพลาสติกเพื่อการส่งออกถึงร้อยละ 50 ของกำลังการผลิตทั้งหมด มีตลาดหลักคือ จีน และสหรัฐ ซึ่งในภาวะที่สหรัฐได้รับผลกระทบจากพายุเฮอริเคน 1-2 เดือนนี้ พบว่ามีคำสั่งซื้อเข้ามาจำนวนมาก อีกทั้งยังจำหน่ายได้ในราคาดีด้วย ปัจจุบันผู้ผลิตเม็ดพลาสติกของ ปตท. มีลูกค้าอยู่ใน 80 ประเทศทั่วโลก
ด้านนายไพรินทร์ ชูโชติถาวร กรรมการผู้จัดการ บริษัท พีทีที โพลีเมอร์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด หรือ PTT PM กล่าวว่า บริษัทจะมีรายได้จากการจำหน่ายเม็ดพลาสติกให้แก่บริษัทในเครือเดียวกัน ในรูปแบบค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน ซึ่งขณะนี้ได้วางระบบอี-เทรดดิ้ง และการบริหารจัดการลูกค้าครบตั้งแต่รับคำสั่งซื้อจนถึงการชำระเงินไว้พร้อมแล้ว ขณะที่ลูกค้าหลักยังเป็นกลุ่มผู้ประกอบการขึ้นรูปพลาสติก คาดว่าภายในสิ้นปี 2549 บริษัทจะมีอัตราการเติบโตสูงขึ้นกว่าร้อยละ 30 และมีส่วนแบ่งตลาดในประเทศสูงถึงร้อยละ 50 อีกทั้งคาดว่าในปี 2551-2552 จะมียอดจำหน่ายเม็ดพลาสติกสูงถึง 1.1 ล้านตัน สำหรับโครงสร้างการถือหุ้นใน PTT PM ประกอบด้วย ปตท. ถืออยู่ร้อยละ 50 BPE และเอ็นพีซีถือหุ้นร้อยละ 25 ต่อราย ซึ่งทั้งสองบริษัท มี ปตท. ถือหุ้นใหญ่อยู่ร้อยละ 50