xs
xsm
sm
md
lg

หอแว่นดันตลาดสิงคโปร์โต20% ปูทางต่อ"อินโด-เวียดนาม-จีน"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

หอแว่นตั้งเป้าดันตลาดแว่นในสิงคโปร์ขยายตัว 20% จากภาวะขาดทุนภายใน 2 ปี ระบุตลาดยังเติบโตได้อีกมาก เล็งนำแผนการทำแบรนด์ที่เคยสำเร็จมาแล้วในไทยช่วยหนุน หวังสร้างความได้เปรียบ ปูพื้นฐานสร้างคนสู่ตลาดใหม่ ทั้ง อินโดนีเซีย เวียดนามและจีน พร้อมประกาศเพิ่มยอดขายในไทยเป็น 1,000 ล้านบาทภายใน 3 ปี

นายภาคี ประจักษ์ธรรม
กรรมการผู้จัดการ บริษัท หอแว่นกรุ๊ป จำกัด เปิดเผยถึงแผนการลงทุนของบริษัทฯในประเทศสิงคโปร์ว่า บริษัทฯตั้งเป้าที่จะเติบโตจากสภาพที่ยังขาดทุนในปัจจุบันอีก 20% ภายในช่วง 1-2 ปีหลังจากนี้ โดยจะใช้สาขาที่มีอยู่จำนวน 9 สาขา ที่ซื้อกิจการมาจากบริษัท โอพีเอสเอ็ม กรุ๊ป จำกัด เครือข่ายร้านค้าปลีกแว่นตาของประเทศออสเตรเลียไม่นานนี้ ในการขยายการเติบโตให้เป็นไปตามเป้าที่วางไว้ ซึ่งหลังจากนี้หากมีโอกาสหรือมีพื้นที่ที่มีศักยภาพก็มีความเป็นไปได้ที่จะขยายสาขาออกไปอีก

ทั้งนี้ การบริหารจัดการธุรกิจค้าปลีกแว่นตาในประเทศสิงคโปร์ ถือเป็นงานที่ยากมาก เนื่องจากมีต้นทุนสูงเมื่อเทียบกับประเทศไทยถึง 7-8 เท่า ทั้งจากต้นทุนในการเช่าพื้นที่ภายในห้างสรรพสินค้าและต้นทุนในการจ้างพนักงานบริการในร้าน ในขณะที่ยอดขายเพิ่มขึ้นเพียง 2 เท่า อย่างไรก็ตาม บริษัทฯมั่นใจว่าจะสามารถทำได้ตามเป้า เนื่องจากตลาดในประเทศสิงคโปร์ยังมีแนวโน้มการขยายตัวได้อีกมาก อีกทั้งความต้องการใช้แว่นตา โดยเฉพาะแว่นสายตาที่สูงถึง 70% ของประชากรประมาณ 4 ล้านคนหรือคิดเป็นประชาชนถึง 3 ล้านคนที่ต้องการใช้แว่นตา ซึ่งการที่บริษัทฯเข้ามาทำตลาดก่อนถือเป็นการสร้างความได้เปรียบจากแนวโน้มการขยายตัวในอนาคตด้วย

"ตลาดค้าปลีกแว่นตาทั้งในไทย สิงคโปร์ และมาเลเซีย เป็นตลาดที่มีลักษณะคล้ายกัน มีผู้ประกอบการเข้ามามากขึ้น แต่ยังไม่มีการทำแบรนด์อย่างแท้จริง ยังให้ความสำคัญกับการแข่งขันด้านราคามากกว่า ซึ่งในการทำตลาดทั้งในสิงคโปร์และมาเลเซียนี้ เราจะนำสิ่งที่เราทำสำเร็จในไทยมาแล้วมาใช้กับตลาดทั้งสองประเทศนี้ด้วย เนื่องจากผู้ประกอบการรายอื่นเขายังมองไม่เห็น ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ดีของเรา" นายภาคีกล่าว

นอกจากนี้ การเข้ามาทำธุรกิจทั้งในสิงคโปร์และมาเลเซียในครั้งนี้ ถือเป็นการปูพื้นฐานและพัฒนาคนเพื่อรองรับการขยายตลาดไปยังประเทศอินโดนีเซีย เวียดนามและจีนในอนาคตด้วย

นายภาคีกล่าวต่อถึงตลาดในประเทศไทยว่า ในปีนี้บริษัทฯตั้งเป้าจะขยายตัวในอัตรา 15-20% เช่นเดียวกับการขยายตัวในช่วงปีที่ผ่านมา จากจำนวนสาขา 85 สาขาที่มีอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งในช่วงที่เหลือของปีนี้ บริษัทฯมีแผนจะขยายสาขาใหม่อีก 3-4 แห่งหลังจากเปิดไปแล้ว 5 สาขาตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมาด้วยงบลงทุนกว่า 47 ล้านบาท โดยในปีหน้า บริษัทฯยังตั้งเป้าที่ขยายสาขาใหม่ในอัตราที่ใกล้เคียงกันคือประมาณ 7-8 สาขา หรือ 10% ของสาขาที่มีอยู่โดยคาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 40 ล้านบาท ในขณะที่ยอดขายบริษัทฯตั้งเป้าภายใน 3 ปีจะมียอดขายเฉลี่ยต่อปีที่ 1,000 ล้านบาท โดยในปัจจุบันบริษัทฯมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 13% จากมูลค่าตลาดรวมในประเทศ 4,000 ล้านบาท

ส่วนแผนการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ นั้น ขณะนี้ยังไม่มีความจำเป็นหรือความต้องการด้านการเงินเนื่องจากสาขาที่มีอยู่ในปัจจุบันสามารถขยายธุรกิจได้ตามแผนอยู่แล้ว ยกเว้นหากบริษัทฯต้องการขยายธุรกิจไปต่างประเทศอื่นๆอีก ซึ่งจำเป็นต้องใช้เงินทุนก็คงจะมีการพิจารณาอีกครั้ง
กำลังโหลดความคิดเห็น