บางจากฯ เผยข่าวดี คนไทยอาจเห็นราคาดีเซลปรับลดลงหากราคาตลาดโลกลดลงอย่างต่อเนื่อง พร้อมเดินหน้าโครงการจำหน่ายแก๊สโซฮอล์ ล่าสุด ตกลงกับไทยง้วน ซื้อเอทานอลจนถึงสิ้นปี ด้านเชลล์กลับลำ ขายแก๊สโซฮอล์เต็มที่ หลังมั่นใจมีเอทานอลป้อนอย่างเพียงพอ
นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.บางจากฯ กล่าวว่า จากที่ขณะนี้ราคาน้ำมันตลาดโลกได้ปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ค่าการตลาดน้ำมันที่เคยติดลบ 4-5 บาท/ลิตร ในส่วนของเบนซิน เหลือเป็นการติดลบประมาณ 1 บาท/ลิตร ส่วนดีเซลได้กลับมาเป็นบวก 60-70 สตางค์/ลิตร ดังนั้น หากราคาน้ำมันตลาดโลกลดลงได้อีก ก็มีโอกาสที่ดีเซลในประเทศจะปรับลดลงได้บ้าง แต่เบนซินคงจะไม่สามารถปรับลดได้
ส่วนปัญหาเรื่องเอทานอลที่ขาดแคลน เพราะโรงงาน 2 แห่งหยุดผลิตนั้น นายอนุสรณ์ กล่าวว่า บางจากฯ ไม่ประสบปัญหาขาดแคลนแต่อย่างใด เพราะมีสตอกถึง 3 ล้านตัน และพร้อมที่จะให้ผู้ค้าน้ำมันรายอื่นขอยืม เอทานอลไปใช้ก่อน ประกอบกับ บมจ.ปตท. ที่จะนำเข้าเอทานอลลอตแรก จะมาถึงประเทศไทยวันที่ 24 กันยายนี้ จึงมั่นใจว่า ทุกรายจะเดินหน้าขายแก๊สโซฮอล์ได้ตามนโยบายรัฐ ในขณะเดียวกัน บางจากฯ ได้วางแผนระยะยาว ด้วยการเจรจากับผู้ผลิตเอทานอลที่ผลิตจากมันสำปะหลังรายแรกของไทย โดยตกลงราคาล่วงหน้า 16.50 บาท/ลิตร และทำสัญญารับซื้อไปจนถึงสิ้นปีนี้ ดังนั้น แผนการขยายแก๊สโซฮอล์ของบางจากฯ จึงเป็นไปตามแผน คือ จะมีแก๊สโซฮอล์ขายทั่วประเทศ 530 แห่งภายในสิ้นปี และจะยกเลิกจำหน่ายเบนซิน 95 ในปั๊ม กทม.ภายในสิ้นปีนี้ และจะเพิ่มการจำหน่ายแก๊สโซฮอล์ 91 จาก 50 แห่ง เป็น 150 แห่ง ในสิ้นปีนี้เช่นกัน
“แม้การตกลงราคาเอทานอลจะเพิ่มจาก 15 บาท เป็น 16.50 บาท/ลิตร จะทำให้ต้นทุนเพิ่มอีก 15 สตางค์/ลิตร แต่ก็คุ้มต่อการขยายตลาดกลุ่มแก๊ซโซลีน (เบนซิน-แก๊สโซฮอล์) ที่บางจากฯ มียอดขายเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 7” นายอนุสรณ์ กล่าว
ทั้งนี้ บางจากฯ ได้จัดงาน E-Saving Day เพื่อรณรงค์สร้างจิตสำนึกในการประหยัดพลังงานของพนักงานบางจากฯ โดยมีเป้าหมายลดการใช้พลังงานในอาคารสำนักงานลงร้อยละ 10 ตามมติ ครม. และให้สถานีบริการน้ำมันของบริษัทใช้พลังงานลดลงร้อยละ 5 และโรงงานเอทานอลที่จะผลิตจากมันสำปะหลังรายแรกของประเทศไทย คือ ไทยง้วน ซึ่งจะเริ่มผลิตประมาณปลายเดือนกันยายนนี้ ส่วนไทยแอลกอฮอล์ มีข่าวดีเตรียมเริ่มกลับมาผลิตเอทานอลได้ในปลายเดือนนี้
นายธีรพจน์ วัชราภัย ประธานบริษัทเชลล์ในประเทศไทย กล่าวว่า หลังจากที่ได้หารือกับภาครัฐ –ผู้ผลิตแก๊สโซฮอล์ ทำให้มั่นใจว่าจะมีเอทานอลเพิ่มเติมเข้ามาในระบบอย่างไม่มีปัญหา ดังนั้น เชลล์จึงจำหน่ายแก๊สโซฮอล์ได้ตามเดิมไม่มีการลดจำนวนปั๊มที่จะจำหน่ายแต่อย่างใด แต่ในเรื่องราคาจากการหารือกับผู้ผลิตคาดว่าอาจจะจำหน่ายในราคาประมาณ 18-19 บาทต่อลิตร ในขณะที่การนำเข้าจะอยู่ที่ประมาณ 17.50-18 บาท/ลิตร จึงเท่ากับว่าต้นทุนการผลิตแก๊สโซฮอล์จะเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 40 สตางค์/ลิตร ดังนั้น ต้องขึ้นอยู่กับภาครัฐว่าจะเข้ามาอุดหนุนในราคาเดิม คือ ราคาแก๊สโซฮอล์ต่ำกว่าเบนซิน 95 ในอัตรา 1.50 บาท/ลิตร หรือหากจะลดการอุดหนุนราคาก็อาจต่ำกว่าเพียง 1.20 บาท/ลิตร และที่สำคัญที่สุดคือจะต้องสร้างความชัดเจนว่ามีเอทานอลเพียงพอต่อการส่งเสริมการจำหน่าย เพื่อไม่ให้เกิดการหยุดชะงักของการขยายการจำหน่ายแก๊สโซฮอล์ตามนโยบายรัฐบาล
นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.บางจากฯ กล่าวว่า จากที่ขณะนี้ราคาน้ำมันตลาดโลกได้ปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ค่าการตลาดน้ำมันที่เคยติดลบ 4-5 บาท/ลิตร ในส่วนของเบนซิน เหลือเป็นการติดลบประมาณ 1 บาท/ลิตร ส่วนดีเซลได้กลับมาเป็นบวก 60-70 สตางค์/ลิตร ดังนั้น หากราคาน้ำมันตลาดโลกลดลงได้อีก ก็มีโอกาสที่ดีเซลในประเทศจะปรับลดลงได้บ้าง แต่เบนซินคงจะไม่สามารถปรับลดได้
ส่วนปัญหาเรื่องเอทานอลที่ขาดแคลน เพราะโรงงาน 2 แห่งหยุดผลิตนั้น นายอนุสรณ์ กล่าวว่า บางจากฯ ไม่ประสบปัญหาขาดแคลนแต่อย่างใด เพราะมีสตอกถึง 3 ล้านตัน และพร้อมที่จะให้ผู้ค้าน้ำมันรายอื่นขอยืม เอทานอลไปใช้ก่อน ประกอบกับ บมจ.ปตท. ที่จะนำเข้าเอทานอลลอตแรก จะมาถึงประเทศไทยวันที่ 24 กันยายนี้ จึงมั่นใจว่า ทุกรายจะเดินหน้าขายแก๊สโซฮอล์ได้ตามนโยบายรัฐ ในขณะเดียวกัน บางจากฯ ได้วางแผนระยะยาว ด้วยการเจรจากับผู้ผลิตเอทานอลที่ผลิตจากมันสำปะหลังรายแรกของไทย โดยตกลงราคาล่วงหน้า 16.50 บาท/ลิตร และทำสัญญารับซื้อไปจนถึงสิ้นปีนี้ ดังนั้น แผนการขยายแก๊สโซฮอล์ของบางจากฯ จึงเป็นไปตามแผน คือ จะมีแก๊สโซฮอล์ขายทั่วประเทศ 530 แห่งภายในสิ้นปี และจะยกเลิกจำหน่ายเบนซิน 95 ในปั๊ม กทม.ภายในสิ้นปีนี้ และจะเพิ่มการจำหน่ายแก๊สโซฮอล์ 91 จาก 50 แห่ง เป็น 150 แห่ง ในสิ้นปีนี้เช่นกัน
“แม้การตกลงราคาเอทานอลจะเพิ่มจาก 15 บาท เป็น 16.50 บาท/ลิตร จะทำให้ต้นทุนเพิ่มอีก 15 สตางค์/ลิตร แต่ก็คุ้มต่อการขยายตลาดกลุ่มแก๊ซโซลีน (เบนซิน-แก๊สโซฮอล์) ที่บางจากฯ มียอดขายเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 7” นายอนุสรณ์ กล่าว
ทั้งนี้ บางจากฯ ได้จัดงาน E-Saving Day เพื่อรณรงค์สร้างจิตสำนึกในการประหยัดพลังงานของพนักงานบางจากฯ โดยมีเป้าหมายลดการใช้พลังงานในอาคารสำนักงานลงร้อยละ 10 ตามมติ ครม. และให้สถานีบริการน้ำมันของบริษัทใช้พลังงานลดลงร้อยละ 5 และโรงงานเอทานอลที่จะผลิตจากมันสำปะหลังรายแรกของประเทศไทย คือ ไทยง้วน ซึ่งจะเริ่มผลิตประมาณปลายเดือนกันยายนนี้ ส่วนไทยแอลกอฮอล์ มีข่าวดีเตรียมเริ่มกลับมาผลิตเอทานอลได้ในปลายเดือนนี้
นายธีรพจน์ วัชราภัย ประธานบริษัทเชลล์ในประเทศไทย กล่าวว่า หลังจากที่ได้หารือกับภาครัฐ –ผู้ผลิตแก๊สโซฮอล์ ทำให้มั่นใจว่าจะมีเอทานอลเพิ่มเติมเข้ามาในระบบอย่างไม่มีปัญหา ดังนั้น เชลล์จึงจำหน่ายแก๊สโซฮอล์ได้ตามเดิมไม่มีการลดจำนวนปั๊มที่จะจำหน่ายแต่อย่างใด แต่ในเรื่องราคาจากการหารือกับผู้ผลิตคาดว่าอาจจะจำหน่ายในราคาประมาณ 18-19 บาทต่อลิตร ในขณะที่การนำเข้าจะอยู่ที่ประมาณ 17.50-18 บาท/ลิตร จึงเท่ากับว่าต้นทุนการผลิตแก๊สโซฮอล์จะเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 40 สตางค์/ลิตร ดังนั้น ต้องขึ้นอยู่กับภาครัฐว่าจะเข้ามาอุดหนุนในราคาเดิม คือ ราคาแก๊สโซฮอล์ต่ำกว่าเบนซิน 95 ในอัตรา 1.50 บาท/ลิตร หรือหากจะลดการอุดหนุนราคาก็อาจต่ำกว่าเพียง 1.20 บาท/ลิตร และที่สำคัญที่สุดคือจะต้องสร้างความชัดเจนว่ามีเอทานอลเพียงพอต่อการส่งเสริมการจำหน่าย เพื่อไม่ให้เกิดการหยุดชะงักของการขยายการจำหน่ายแก๊สโซฮอล์ตามนโยบายรัฐบาล