ฟิล์มกรองแสง “ลามิน่า” ฉลองครบรอบ 10 ปี ตอกย้ำความเป็นผู้นำ ปรับเป้าขายจาก 260 ล้านบาท เพิ่มเป็น 300 ล้านบาท จากการขยายทำตลาดฟิล์มกรองแสงอาคาร มั่นใจปีหน้าเติบโตต่อเนื่อง หลังคว้าบิ๊กโปรเจ็กต์มูลค่าหลายสิบล้านบาท ส่วนฟิล์มกรองแสงรถยนต์ยังครองแชร์สูงสุด 24% จากตลาดรวมพันล้านบาท
นางสาวจันทร์นภา สายสมร กรรมการผู้จัดการบริษัท เทคโนเซลส์(เฟรย์) จำกัด ตัวแทนจำหน่ายฟิล์มกรองแสงลามิน่าในประเทศไทย เปิดเผยว่า หลังจากฟิล์มกรองแสงลามิน่าทำตลาดในไทย มีการเติบโตทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับปีนี้ที่บริษัทฯ ฉลองครอบรอบ 10 ปี ซึ่งเดิมตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 260 ล้านบาท แต่ล่าสุดได้มีการปรับเป้าหมายการขายใหม่เป็น 300 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วประมาณ 30%
“ส่วนหนึ่งที่ทำให้ลามิน่ามีอัตราการเติบโตสูง เนื่องจากลามิน่าได้มีการขยายผลิตภัณฑ์ ทำตลาดฟิล์มกรองแสงอาคารด้วย จากเดิมที่มีเพียงฟิล์มกรองแสงรถยนต์ โดยได้เริ่มมาตั้งแต่ปีที่แล้ว และทำตลาดอย่างจริงจังในปีนี้ ทำให้สัดส่วนรายได้ของลามิน่าระหว่างฟิล์มกรองแสงรถยนต์กับอาคาร ในปีนี้เป็น 80 : 15 และจะเพิ่มเป็น 80 : 20 ในปีหน้า เนื่องจากได้รับงานโครงการใหญ่ติดตั้งฟิล์มกรองแสงอาคารมูลค่าหลายสิบล้านบาท”
ทั้งนี้ปัจจัยที่ทำให้ฟิล์มกรองแสงลามิน่า นอกจากการเปิดตัวตลาดฟิล์มกรองแสดงอาคารแล้ว ปัจจัยลบทางเศรษฐกิจก็มีผลที่ทำให้ผู้บริโภคหันมาเลือกใช้สินค้าที่มีความคุ้มค่ามากขึ้น และลูกค้ามองว่าลามิน่าจะเป็นทางเลือกที่ดี ทำให้ฟิล์มกรองแสงลามิน่ามีอัตราการเติบโตในอัตราที่สูงกว่าตลาดรวม
นางสาวจันทร์นภากล่าวว่า แม้ลามิน่าจะขยายทำตลาดฟิล์มกรองแสง แต่ก็ยังคงรักษาความเป็นเจ้าตลาดฟิล์มกรองแสงรถยนต์ได้อย่างต่อเนื่อง โดยมีส่วนแบ่งการตลาด หรือแชร์ในตลาดฟิล์มกรองแสงพรีเมียมกว่า 80% และมีแชร์ในตลาดรวมทั้งหมด 24% ซึ่งคาดว่าตลาดรวมฟิล์มกรองแสงรถยนต์ในปีนี้น่าจะอยู่ที่ประมาณ 1,000 ล้านบาท หรือเติบโตประมาณ 10% จากเดิมคาดว่าจะเติบโต 15% ทั้งนี้เป็นผลมาจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อตลาดฟิล์มกรองแสงในช่วงปลายปีนี้ แต่จะมากน้อยแค่ไหนคงต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
“ในส่วนของการแข่งขันฟิล์มกรองแสงรถยนต์ แม้ว่าผู้ประกอบการรายใหม่จะเข้ามามากขึ้น แต่การทำการตลาดคงเปลี่ยนไปไม่มากนัก โดยสินค้าที่เน้นด้านราคาคงจะลดลง หันมาเน้นการปรับภาพลักษณ์ของสินค้ากันมากขึ้น ซึ่งขณะนี้ลามิน่าได้ให้ความสำคัญกับการบริการ ทั้งก่อนและหลังการขายเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะร้านมาตรฐานเอ็กซ์คลูซีฟช็อป เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้า”
สำหรับในปีนี้ลามิน่าจะใช้งบประมาณ ในการทำตลาดทั้งสิ้น 10% ของยอดขายหรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 30 ล้านบาท เพื่อจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดตลอดทั้งปี ส่วนแผนงานด้านการขยายตัวแทนจำหน่ายนั้น ขณะนี้ลามิน่ามีตัวแทนจำหน่ายธรรมดาอยู่ 230 ราย และร้านเอ็กซ์คลูซีฟช๊อป 46 ราย โดยจะขยายเพิ่มขึ้นเป็น 50 รายในช่วงปลายปีนี้ ส่วนร้านธรรมดาจะไม่เน้นการขยายในเชิงปริมาณ แต่จะเน้นการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานของร้านค้ามากกว่า
นางสาวจันทร์นภา สายสมร กรรมการผู้จัดการบริษัท เทคโนเซลส์(เฟรย์) จำกัด ตัวแทนจำหน่ายฟิล์มกรองแสงลามิน่าในประเทศไทย เปิดเผยว่า หลังจากฟิล์มกรองแสงลามิน่าทำตลาดในไทย มีการเติบโตทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับปีนี้ที่บริษัทฯ ฉลองครอบรอบ 10 ปี ซึ่งเดิมตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 260 ล้านบาท แต่ล่าสุดได้มีการปรับเป้าหมายการขายใหม่เป็น 300 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วประมาณ 30%
“ส่วนหนึ่งที่ทำให้ลามิน่ามีอัตราการเติบโตสูง เนื่องจากลามิน่าได้มีการขยายผลิตภัณฑ์ ทำตลาดฟิล์มกรองแสงอาคารด้วย จากเดิมที่มีเพียงฟิล์มกรองแสงรถยนต์ โดยได้เริ่มมาตั้งแต่ปีที่แล้ว และทำตลาดอย่างจริงจังในปีนี้ ทำให้สัดส่วนรายได้ของลามิน่าระหว่างฟิล์มกรองแสงรถยนต์กับอาคาร ในปีนี้เป็น 80 : 15 และจะเพิ่มเป็น 80 : 20 ในปีหน้า เนื่องจากได้รับงานโครงการใหญ่ติดตั้งฟิล์มกรองแสงอาคารมูลค่าหลายสิบล้านบาท”
ทั้งนี้ปัจจัยที่ทำให้ฟิล์มกรองแสงลามิน่า นอกจากการเปิดตัวตลาดฟิล์มกรองแสดงอาคารแล้ว ปัจจัยลบทางเศรษฐกิจก็มีผลที่ทำให้ผู้บริโภคหันมาเลือกใช้สินค้าที่มีความคุ้มค่ามากขึ้น และลูกค้ามองว่าลามิน่าจะเป็นทางเลือกที่ดี ทำให้ฟิล์มกรองแสงลามิน่ามีอัตราการเติบโตในอัตราที่สูงกว่าตลาดรวม
นางสาวจันทร์นภากล่าวว่า แม้ลามิน่าจะขยายทำตลาดฟิล์มกรองแสง แต่ก็ยังคงรักษาความเป็นเจ้าตลาดฟิล์มกรองแสงรถยนต์ได้อย่างต่อเนื่อง โดยมีส่วนแบ่งการตลาด หรือแชร์ในตลาดฟิล์มกรองแสงพรีเมียมกว่า 80% และมีแชร์ในตลาดรวมทั้งหมด 24% ซึ่งคาดว่าตลาดรวมฟิล์มกรองแสงรถยนต์ในปีนี้น่าจะอยู่ที่ประมาณ 1,000 ล้านบาท หรือเติบโตประมาณ 10% จากเดิมคาดว่าจะเติบโต 15% ทั้งนี้เป็นผลมาจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อตลาดฟิล์มกรองแสงในช่วงปลายปีนี้ แต่จะมากน้อยแค่ไหนคงต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
“ในส่วนของการแข่งขันฟิล์มกรองแสงรถยนต์ แม้ว่าผู้ประกอบการรายใหม่จะเข้ามามากขึ้น แต่การทำการตลาดคงเปลี่ยนไปไม่มากนัก โดยสินค้าที่เน้นด้านราคาคงจะลดลง หันมาเน้นการปรับภาพลักษณ์ของสินค้ากันมากขึ้น ซึ่งขณะนี้ลามิน่าได้ให้ความสำคัญกับการบริการ ทั้งก่อนและหลังการขายเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะร้านมาตรฐานเอ็กซ์คลูซีฟช็อป เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้า”
สำหรับในปีนี้ลามิน่าจะใช้งบประมาณ ในการทำตลาดทั้งสิ้น 10% ของยอดขายหรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 30 ล้านบาท เพื่อจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดตลอดทั้งปี ส่วนแผนงานด้านการขยายตัวแทนจำหน่ายนั้น ขณะนี้ลามิน่ามีตัวแทนจำหน่ายธรรมดาอยู่ 230 ราย และร้านเอ็กซ์คลูซีฟช๊อป 46 ราย โดยจะขยายเพิ่มขึ้นเป็น 50 รายในช่วงปลายปีนี้ ส่วนร้านธรรมดาจะไม่เน้นการขยายในเชิงปริมาณ แต่จะเน้นการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานของร้านค้ามากกว่า