พานาโซนิครุกหนักตลาดทีวี วางเป้าหมายเพิ่มแชร์จอพลาสม่าเป็น 40% ขึ้นแท่นผู้นำ ส่วนจอแอลซีดีหวังขยับแชร์เป็น 30%
นายโยชิฮิซะ มาเอนากะ ผู้อำนวยการส่วนการขายและการตลาด บริษัท พานาโซนิค ซิว เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯมีแผนที่จะรุกหนักตลาดทีวีพลาสม่าและทีวีจอแอลซีดี โดยขณะนี้ตลาดรวมทีวีพลาสม่า มีประมาณ 10,000 เครื่อง ซึ่งพานาโซนิคมีแชร์ 25% อันดับที่สอง โดยมีเป้าหมายที่จะเพิ่มแชร์เป็น 40% หรือขึ้นเป็นอันดับที่หนึ่งแทนแอลจีที่มีแชร์ขณะนี้มากที่สุดเป็นผู้นำตลาด
ขณะที่ตลาดทีวีจอแอลซีดีนั้น มีประมาณ 2,000 เครื่องต่อปี ทางพานาโซนิคมีส่วนแบ่ง 15-17% อยู่อันดับที่สาม โดยที่หนึ่งคือชาร์ปมีแชร์มากกว่า 50% ซึ่งบริษัทฯตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มส่วนแบ่งแอลซีดีเป็น 30% ปีนี้ (ปีงบประมาณของพานาโซนิคในไทยเริ่มต้นเดือนเมษายนถึงเดือนมกราคม )
แผนที่จะผลักดันส่วนแบ่งของตลาดทีวีพลาสม่าและแอลซีดีให้เป็นไปตามเป้าหมายนั้นคือ การออกผลิตภัณฑ์ใหม่ และการทำส่งเสริมการตลาดกับคอนซูเมอร์ โดยล่าสุดได้ออกรุ่นใหม่ เวียร่า พลาสม่า ทีวีและ เวียร่า แอลซีดี ทีวี ซึ่งคาดว่าจะช่วยทำให้ส่วนแบ่งเพิ่มขึ้น โดยราคาของรุ่นใหม่นี้จะมีราคาที่ต่ำกว่าเดิมเล็กน้อย กล่าวคือ พลาสม่ารุ่นขนาด 50 นิ้ว ราคา 129,990 บาท ขณะที่รุ่นเดิมราคา 169,990 บาท
ทั้งนี้ในประเทศญี่ปุ่นและในตลาดยุโรป จอพลาสม่าของพานาโซนิคก้าวขึ้นเป็นผู้นำอันดับหนึ่งแล้ว ซึ่งมีแผนที่จะให้ไทยและเอเซียขึ้นเป็นที่หนึ่งเช่นกัน โดยล่าสุดในสิงคโปร์หลังจากเปิดตัวร่นใหม่นี้ก็สามารถก้าวขึ้นเป็นอันดับหนึ่งแล้ว
นอกจากนั้นจะมีการทำส่งเสริมการขาย โดยเน้นไปที่คอนซูเมอร์หรือผู้ใช้สินค้า คือ แคมเปญ Better Lifestyle Rewards โดยใช้งบประมาณกว่า 50 ล้านบาท แบ่งเป็นมูลค่ารางวัล 11 ล้านบาท และที่เหลือเป็นทางด้านสื่อ ส่วนการทำส่งเสริมการขายให้กับนั้นก็มีบ้างเช่น การตกแต่งหน้าร้าน การจัดวางดิสเพลย์
สำหรับสินค้าพลาสม่าได้นำเข้ามาจากโรงงานที่ญี่ปุ่น ส่วนโรงงานที่จีนนั้นผลิตเพื่อป้อนในจีนเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ได้ออกรุ่นพิเศษมาคือ TH 42 PWD 7 ขนาด 42 นิ้ว ออกมาช่วงแรกเน้นขายเฉพาะเข้าโครงการราคา 249,000 บาท แต่เมื่อขยายฐานตลาดสู่เอนยูสเซอร์ก็ได้ปรับลดราคาเหลือ 109,000 บาท แต่ไม่ได้ใช้ชื่อว่าเวียร่า
“ตลาดทีวีพลาสม่าในไทยนั้นมีการเติบโตที่สูงมาก จาก 2,000 เครื่องต่อปี เพิ่มเป็น 5,000 เครื่องเมื่อปีที่แล้วจะเพิ่มเป็น 10,000 เครื่องในปีนี้ หรือโตมากกว่า 200% แต่บริษัทฯมีการเติบโตที่สูงกว่าคือ 270% โดยเรามียอดขายจอพลาสม่าทีวีประมาณ 500 ล้านบาทจากรายได้รวมกว่า 10,000 ล้านบาท” นายโยชิฮิซะกล่าว
นายโยชิฮิซะ มาเอนากะ ผู้อำนวยการส่วนการขายและการตลาด บริษัท พานาโซนิค ซิว เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯมีแผนที่จะรุกหนักตลาดทีวีพลาสม่าและทีวีจอแอลซีดี โดยขณะนี้ตลาดรวมทีวีพลาสม่า มีประมาณ 10,000 เครื่อง ซึ่งพานาโซนิคมีแชร์ 25% อันดับที่สอง โดยมีเป้าหมายที่จะเพิ่มแชร์เป็น 40% หรือขึ้นเป็นอันดับที่หนึ่งแทนแอลจีที่มีแชร์ขณะนี้มากที่สุดเป็นผู้นำตลาด
ขณะที่ตลาดทีวีจอแอลซีดีนั้น มีประมาณ 2,000 เครื่องต่อปี ทางพานาโซนิคมีส่วนแบ่ง 15-17% อยู่อันดับที่สาม โดยที่หนึ่งคือชาร์ปมีแชร์มากกว่า 50% ซึ่งบริษัทฯตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มส่วนแบ่งแอลซีดีเป็น 30% ปีนี้ (ปีงบประมาณของพานาโซนิคในไทยเริ่มต้นเดือนเมษายนถึงเดือนมกราคม )
แผนที่จะผลักดันส่วนแบ่งของตลาดทีวีพลาสม่าและแอลซีดีให้เป็นไปตามเป้าหมายนั้นคือ การออกผลิตภัณฑ์ใหม่ และการทำส่งเสริมการตลาดกับคอนซูเมอร์ โดยล่าสุดได้ออกรุ่นใหม่ เวียร่า พลาสม่า ทีวีและ เวียร่า แอลซีดี ทีวี ซึ่งคาดว่าจะช่วยทำให้ส่วนแบ่งเพิ่มขึ้น โดยราคาของรุ่นใหม่นี้จะมีราคาที่ต่ำกว่าเดิมเล็กน้อย กล่าวคือ พลาสม่ารุ่นขนาด 50 นิ้ว ราคา 129,990 บาท ขณะที่รุ่นเดิมราคา 169,990 บาท
ทั้งนี้ในประเทศญี่ปุ่นและในตลาดยุโรป จอพลาสม่าของพานาโซนิคก้าวขึ้นเป็นผู้นำอันดับหนึ่งแล้ว ซึ่งมีแผนที่จะให้ไทยและเอเซียขึ้นเป็นที่หนึ่งเช่นกัน โดยล่าสุดในสิงคโปร์หลังจากเปิดตัวร่นใหม่นี้ก็สามารถก้าวขึ้นเป็นอันดับหนึ่งแล้ว
นอกจากนั้นจะมีการทำส่งเสริมการขาย โดยเน้นไปที่คอนซูเมอร์หรือผู้ใช้สินค้า คือ แคมเปญ Better Lifestyle Rewards โดยใช้งบประมาณกว่า 50 ล้านบาท แบ่งเป็นมูลค่ารางวัล 11 ล้านบาท และที่เหลือเป็นทางด้านสื่อ ส่วนการทำส่งเสริมการขายให้กับนั้นก็มีบ้างเช่น การตกแต่งหน้าร้าน การจัดวางดิสเพลย์
สำหรับสินค้าพลาสม่าได้นำเข้ามาจากโรงงานที่ญี่ปุ่น ส่วนโรงงานที่จีนนั้นผลิตเพื่อป้อนในจีนเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ได้ออกรุ่นพิเศษมาคือ TH 42 PWD 7 ขนาด 42 นิ้ว ออกมาช่วงแรกเน้นขายเฉพาะเข้าโครงการราคา 249,000 บาท แต่เมื่อขยายฐานตลาดสู่เอนยูสเซอร์ก็ได้ปรับลดราคาเหลือ 109,000 บาท แต่ไม่ได้ใช้ชื่อว่าเวียร่า
“ตลาดทีวีพลาสม่าในไทยนั้นมีการเติบโตที่สูงมาก จาก 2,000 เครื่องต่อปี เพิ่มเป็น 5,000 เครื่องเมื่อปีที่แล้วจะเพิ่มเป็น 10,000 เครื่องในปีนี้ หรือโตมากกว่า 200% แต่บริษัทฯมีการเติบโตที่สูงกว่าคือ 270% โดยเรามียอดขายจอพลาสม่าทีวีประมาณ 500 ล้านบาทจากรายได้รวมกว่า 10,000 ล้านบาท” นายโยชิฮิซะกล่าว